พืชอาหารสัตว์ Pasture

Download Report

Transcript พืชอาหารสัตว์ Pasture

3. สัณฐานวิทยาของพืชตระกูลหญ้ าและตระกูลถั่ว
พืชตระกูลหญ้ าและพืชที่มีลักษณะคล้ ายหญ้ า
Gramineae (หรื อ Poaceae) มีข้อและปล้ อง ลาต้ น
กลวง
Cyperaceae เป็ นตระกูลพวกกกหรื อผือ ลาต้ น
เป็ นแบบสามเหลี่ยม ไม่ มีข้อหรือปล้ อง ลาต้ นตัน
Juncaceae ลาต้ นกลม ตัน ไม่ มีข้อและปล้ อง
Gramineae
Cyperaceae ลาต้ นเป็ นแบบ 
Juncaceae ลาต้ น 
Family Gramineae (Poaceae)
หญ้ าเป็ นพืชใบเลีย้ งเดี่ยว (monocotyledon)
อายุฤดูเดียว (annual) และหลายปี (perennial)
หญ้ าตีนตุ๊กแก หญ้ ารู ซ่ ี หญ้ ากินนีสีม่วง
หญ้ าขน และหญ้ าเนเปี ยร์ เป็ นต้ น
 ราก (Roots)
ระบบรากแบบรากฝอย (fibrous root system)
 ใบ (Leaves)
ใบมีส่วนประกอบ คือ กาบใบ (leaf-sheath),
ตัวใบ (leaf-blade) และส่ วนที่เชื่อมต่ อระหว่ างกาบ
ใบและตัวใบที่ส่วนในเรี ยกว่ า ligule (ลิน้ ใบหรื อเยื่อ
กัน้ นา้ ) ด้ านนอกเรี ยกว่ า leaf collar ด้ านข้ าง 2 ด้ าน
มีระยางยื่นออกเรี ยกว่ า หูใบ หรื อ auricles
ลาต้ น (Stems)
ลาต้ นของหญ้ าแบ่ งเป็ น 3 ประเภท คือ
 Culm คือลาต้ นหลักของหญ้ า มีหลายแบบ คือ
- แบบตัง้ ตรง (erect)
- แบบมีข้อโค้ งงอ (geniculate and ascending)
- แบบลาต้ นส่ วนล่ างเลือ้ ยบนผิวดินยอดตัง้ ขึน้
(decumbent)
- แบบลาต้ นแผ่ ราบบนผิวดิน (prostrate/procumbent)
 Rhizome คือลาต้ นใต้ ดน
ิ
 Stolon คือลาต้ นเลือ้ ยบนผิวดิน
ส่ วนของดอก (The flowering parts)
 ช่ อดอก (Inflorescence)
- Panicle เช่ นกินนี
- Spike เช่ น เนเปี ยร์
- Raceme เช่ น รู ซ่ ี
มี 3 แบบ
เมล็ดหญ้ า (seed)
ผล (fruit) ของหญ้ าคือ (seed)
ประกอบด้ วย
- endosperm
- embryo
Family Leguminosae หรือ Fabaceae
-เช่ นถั่วเวอราโน (ฮามาต้ า), ถั่วท่ าพระสไตโล
ถั่วเซนโตร และถั่วคาวาลเคด
1) ราก (Roots)
เป็ นระบบรากแก้ ว (tap root system) มีปมราก
(nodules), Rhizobium spp. symbiosis
2) ลาต้ น (Stems)
- ลาต้ นตัง้ ตรง(erect)
- เป็ นแบบทรงพุ่ม (semi-erect)
- ลาต้ นตัง้ และแผ่ ออกทางด้ านข้ าง (postrate)
- ลาต้ นแบบเถาเลือ้ ยและเลือ้ ยพัน (climbing and
twining)
- บางชนิดมีลาต้ นแบบ stolons และ rhizomes
3) ใบ (Leaves) ส่ วนใหญ่ เป็ นแบบ Trifoliate leaf
4) ดอก (The flowering parts)
ช่ อดอก (Inflorescences) แบ่ งเป็ น 3 ประเภท
1) raceme เช่ น ถั่วซีราโตร
2) spike เช่ น จามจุรี
3) head เช่ น กระถิน, ไมยราบ
ลาต้ นแบบทรงพุ่ม (semi-erect)
ลาต้ นตัง้ และแผ่ ออกทางด้ านข้ าง (postrate)
ลาต้ นแบบเถาเลือ้ ย (climbing and twining)
ใบแบบ Trifoliate leaf
ใช้ ลักษณะของดอกเป็ นตัวชี ้ แบ่ งพืชตระกูลถั่วเป็ น 3
Sub-family คือ
Sub-family Mimosaceae เมื่อผ่ าดอกตามยาวซีก
ทัง้ 2 ข้ างจะเหมือนกัน ดอกรวมกันเป็ นกลุ่ม
รูปร่ างกลม เรียกว่ า head หรือ spike เช่ น ดอก
ไมยราบ กระถิน มะขามเทศ และก้ ามปู เป็ นต้ น
Sub-family Ceasalpiniaceae เมื่อผ่ าครึ่ ง 2 ข้ างจะ
ไม่ เหมือนกัน เช่ น ขีเ้ หล็ก และคูณ เป็ นต้ น
Sub-family Papilionaceae เมื่อดอกบานจะมี
ลักษณะคล้ ายผีเสือ้ เช่ น แค, ถั่วฮามาต้ า
Sub-family Mimosaceae เมื่อผ่ าครึ่งดอก
2 ข้ างจะเหมือนกัน
Sub-fam Ceasalpiniaceae
เมื่อผ่ าครึ่งดอก 2 ข้ างจะไม่ เหมือนกัน
Sub-family Papilionaceae
เมื่อบานจะคล้ ายผีเสือ้
ดอกถั่วพืชอาหารสัตว์ ประกอบด้ วยส่ วน
ต่ าง ๆ คือ
• Calyx มีกลีบเลีย้ ง (sepals) 5 กลีบ
• Corolla มีกลีบดอก 5 กลีบ (petals)
• กลีบดอกของ Sub-family Papilionaceae
ประกอบด้ วย Standard 1 อัน, Wing 2 อัน
และ Keel2 อัน
ผล หรือ ฝั ก (Fruit)
• เมื่อดอกบานและผสมเกสร รังไข่ จะพัฒนาไปเป็ น
ผล (fruit) หรือฝั ก (pod)
เมล็ด (Seed)
 เมล็ดถั่วไม่ มี endosperm อาหารจะสะสมในใบเลีย้ ง
(cotyledons)เพื่อใช้ ในการเจริญเติบโตของคัพภะ
(embryo),ใบเลีย้ งถูกหุ้มด้ วยเปลือกหุ้มเมล็ด (testa หรือ seed
coat) ที่หนา, มีรอย hilum ซึ่งเป็ นส่ วนที่ตดิ กับฝั ก, ถัด hilum
ลงมามีรู micropyle เกิดจาก pollen tube แทงเข้ าไปผสมกับ
ไข่