Transcript now
ทบทวน วิธก ี ารทางสถิต ิ 1. ใช้ในการ วิเคราะหคุ ์ ณภาพ ของเครือ ่ งมือวิจย ั วิธก ี ารทาง สถิต ิ 4. ใช้ในการ นาเสนอผลการ วิเคราะหข ้ ล ์ อมู 2. ใช้ในการ คัดเลือกกลุม ่ ตัวอยาง ่ 3.1 สถิต ิ เชิงบรรยาย 3. ใช้ใน หรือเชิง การ พรรณนา วิเคราะห ์ 3.2 สถิต ิ ข้อมูล อ้างอิงหรือ เชิงอนุ มาน 3.2.1 สถิตม ิ ี พารามิเ ตอร 3.2.2์ สถิตไิ ร้ พารามิเ ตอร ์ มาตรการวัด (Measurement Scales) Nominal (นามบัญญัต)ิ 1. จัดกลุมได ่ ้ เช่น เพศ สถานสมรส Ordinal (เรียงลาดับ) 1. จัดกลุมได ่ ้ 2. บอกระดับความมากน้อย หรือเรียงลาดับได้ เช่น วุฒก ิ ารศึ กษา ระดับยศ Interval (อันตรภาค/ระดับช่วง) Ratio (อัตราส่วน) 1. จัดกลุมได 1. จัดกลุมได ่ ้ ่ ้ 2. บอกระดับความมากน้อย 2. บอกระดับความมากน้อย หรือเรียงลาดับได้ หรือเรียงลาดับได้ 3. มีคาเป็ ่ ช ี ่ วงหาง 3. มีคาเป็ ่ ช ี ่ วงหาง ่ นตัวเลขทีม ่ ่ นตัวเลขทีม ่ เทากั เทากั ่ น ่ น 4. 0 ไมแท 4. 0 แท้ ่ ้ ขัน ้ ตอนการเลือกกลุมตั ่ วอยาง ่ 1. กาหนด/นิยามประชากร เป้าหมาย 2. รวบรวมสมาชิกทัง้ หมด ของประชากร 3. กาหนดหน่วยของการ สุ่มตัวอยาง ่ 3.1 ใช้เกณฑ ์ 3.2 ใช้สูตรคานวณ 3.3 ใช้ตาราง 4. วางแผนการเลือกกลุม ่ 3. กาหนดหน่วยของการสุ่ม ตัวอยาง ่ 3.1 ใช้เกณฑ ์ จานวนประชากรหลักรอยใช ้ ้กลุมตั ่ วอยาง ่ 15–30% จานวนประชากรหลักพันใช้กลุมตั ่ วอยาง ่ 10–15% จานวนประชากรหลักหมืน ่ ใช้กลุมตั ่ วอยาง ่ 5–10% จานวนประชากรหลักแสนใช้กลุมตั ่ วอยาง ่ 1-5% ตัวอยางการก าหนดขนาดตัวอยางโดย ่ ่ ใช้เกณฑร์ ้อยละ จานวนประชากร จะใช้กลุมตั ่ วอยาง ่ จานวนประชากร จะใช้กลุมตั ่ วอยาง ่ จานวนประชากร จะใช้กลุมตั ่ วอยาง ่ จานวนประชากร จะใช้กลุมตั ่ วอยาง ่ 450 คน = 2,500 คน = 80,000 คน = 125,000 คน = 3. กาหนดหน่วยของการสุ่ม ตัวอยาง ่ 3.1 ใช้เกณฑ ์ ไมทราบจ านวนประชากร ่ -ประมาณคาสั ดส่วน -> Cochran ่ 3.2 ใช้สูตรคานวณ ย ่ -> Cochran 3.3 ใช้ตาราง-ประมาณคาเฉลี ่ ทราบจานวนประชากร -Taro Yamane - ประมาณคาสั ่ ดส่วน -Krejcie and Morgan - ประมาณคาเฉลี ย ่ ่ ใช้ ไมทราบขนาดของประชากร ่ สูตร W.G. Cochran ผูวิ ั จะใช้กลุมตั ค ่ น ถาสั ้ จย ่ วอยางกี ่ ้ ดส่วนของ ประชากรเทากั อ ่ มัน ่ 95 % ่ บ 0.2 ตองการความเชื ้ และยอมให้คลาดเคลือ ่ น ได้ 3% Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.05 มีคา่ เทากั ่ ใจ 95%) ่ บ 1.96 (มัน Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.01 มีคาเท ่ ากั ่ บ 2.58 (มัน ่ ใจ 99%) ใช้ ไมทราบขนาดของประชากร ่ สูตร W.G. Cochran ในการศึ กษาการเจ็บป่วยในโรงพยาบาลแหงหนึ ่งเกีย ่ วกับ ่ โรคกระเพาะอาหารของประชากรในอาเภอหนึ่ง ทราบ จากการรายงานประจาปี ทผ ี่ านมาว า่ มีผ้ป ู ่ วยโรคนี้ 20% ่ จงคานวณหากลุมตั เมือ ่ กาหนดความเชือ ่ มัน ่ ่ วอยาง ่ 95% ความเคลือ ่ นทีย ่ อมไดไม ้ เกิ ่ น 2% Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.05 มีคาเท ่ ากั ่ บ 1.96 (มัน ่ ใจ 95%) Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.01 มีคาเท ่ ากั ่ บ 2.58 (มัน ่ ใจ 99%) ใช้ ไมทราบขนาดของประชากร ่ สูตร W.G. Cochran ตองการศึ กษาคะแนนวิชาคณิตศาสตร ์ ทีร่ ะดับ ้ ความเชือ ่ มัน ่ 95% ความคลาดเคลือ ่ นทีย ่ อมให้ เกิดขึน ้ ได้ +/- 5 คะแนน จากงานวิจย ั ทีผ ่ านมา ่ คาเฉลี ย ่ เทากั ่ ่ บ 75 คะแนน และ คาส ่ ่ วน เบีย ่ งเบนมาตรฐาน เทากั ่ บ 16 คะแนน หา ขนาดของกลุมตั ต ่ องการ ่ วอยางที ่ ้ Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.05 มีคา่ เทากั ่ ใจ 95%) ่ บ 1.96 (มัน Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.01 มีคาเท ่ ากั ่ บ 2.58 (มัน ่ ใจ 99%) ประชากรทีแ ่ น่นอน ใช้สูตรทาโร ยามาเน ประชากรทีจ ่ ะศึ กษามีทง้ั หมดเทากั ่ บ 4,500 และยอมให้เกิดความ คลาดเคลือ ่ นของการสุ่มร้อยละ 5 ขนาดของกลุมตั ใ่ ช้คานวณ ่ วอยางที ่ เทากั ่ น่วย ่ บกีห โดยใช้สูตรKrejcie and ตัวอยาง ่ Morgan การศึ กษาภาวะการเป็ นผูน ้ าทางการพยาบาล ของพยาบาลในโรงพยาบาลแหงหนึ ่งทีม ่ ี ่ พยาบาลจานวน 1200 คน โดยยอมให้เกิด ความคลาดเคลือ ่ นได้ 5% และทีร่ ะดับความ เชือ ่ มัน ่ 95% จะตองใช าใด ้ ้ขนาดตัวอยางเท ่ ่ ถาร 50 ของคนทางานในโรงพยาบาลเป็ น ้ อยละ ้ พยาบาล ่ ่ ในกรณีทราบจานวน ตัวอยาง ่ ประชากร และประมาณคาสั ่ ดส่วน ถาประชากรที ใ่ ช้ในการวิจย ั มีจานวน 3,000 ้ หน่วย ยอมรับให้เกิดความคลาดเคลือ ่ นจาก ตัวอยางได ่ มัน ่ 95% และ ่ ้ 5% ทีร่ ะดับความเชือ สั ดส่วนของลักษณะทีส ่ นใจในประชากรเทากั ่ บ 0.7 จงหาขนาดของกลุมตั ่ วอยาง ่ Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.05 มีคา่ เทากั ่ ใจ 95%) ่ บ 1.96 (มัน Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.01 มีคาเท ่ ากั ่ บ 2.58 (มัน ่ ใจ 99%) ในกรณีทราบจานวน ตัวอยาง ่ ประชากร และประมาณคาเฉลี ย ่ ่ ขนาดประชากร 600 หน่วย ตองการศึ กษาคะแนน ้ วิชาสถิต ิ ทีร่ ะดับความเชือ ่ มัน ่ 95% ความคลาด เคลือ ่ นทีย ่ อมให้เกิดขึน ้ ได้ +/- 5 คะแนน จาก งานวิจย ั ทีผ ่ านมาค าเฉลี ย ่ เทากั ่ ่ ่ บ 75 คะแนน และ คาส ่ งเบนมาตรฐาน เทากั ่ ่ วนเบีย ่ บ 10 คะแนน ขนาดของกลุมตั ต ่ องการจะเท ากั ่ วอยางที ่ ้ ่ บเทาไร ่ Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.05 มีคา่ เทากั ่ ใจ 95%) ่ บ 1.96 (มัน Z ทีร ่ ะดับนัยสาคัญทางสถิต ิ 0.01 มีคาเท ่ ากั ่ บ 2.58 (มัน ่ ใจ 99%) 4. วางแผนการเลือกกลุม ่ ตัวอยาง ่ 4.1 Probability Sampling 1. Simple Random Sampling 2. Systematic Random Sampling 3. Stratified Random Sampling 4. Cluster Sampling 5. Multi-stage 4.2 Non-Probability Sampling 1. Accidental Sampling 2. Quota Sampling 3. Purposive Sampling 4. Convenience Sampling 5. Snowball Sampling การตรวจสอบคุณภาพ เครือ ่ งมือ 1. วิเคราะหทางกายภาพ 1. Content Validity ์ IOC: Index Objective Congruence 2. วิเคราะหทางสถิ ต ิ ์ 2. Construct Validity 2.1 ทัง้ ฉบับ - Carver Method Validity Reliability - Phi-Correlation 2.2 รายขอ ้ Item Difficulty 3. Criterion Related Validity Item Discrimination - Concurrent Validity - Predictive Validity การแปลผล r = 0 แสดงวาตั ่ ความสั มพันธ ์ ่ วแปรทัง้ สองไมมี กั r นเลย <r 0.5 แสดงวาตั ่ วแปรมีความสั มพันธกั ์ น น r ้ อย 0.5 < < 0.8 แสดงวาตั ่ วแปรทัง้ สองมี ความสั มพันธกั ์ นปานกลาง > 0.8 แสดงวาตั ่ วแปรทัง้ สองมีความสั มพันธ ์ กันสูง r = 1 แสดงวาตั ่ วแปรทัง้ สองมีความสั มพันธกั ์ น ตัวอยาง Carver Method ่ ตัวอยาง Phi-Correlation ่ ตัวอยาง Phi-Correlation ่ การตรวจสอบคุณภาพ เครือ ่ งมือ 1. วิเคราะหทางกายภาพ 1. Coefficient of Stability ์ -Test-Retest Method และ Parallel 2. วิเคราะหทางสถิ ต ิ ์ Form Method 2.1 ทัง้ ฉบับ Validity Reliability 2. Coefficient of Internal Consistency 2.2 รายขอ -Split-half Method - KR20 ้ Item Difficulty Item Discrimination -Cronbach’s Alpha - KR21 ตัวอยาง Split-half Method ่ น ้ ใหมฉบั ในการนาแบบทดสอบทีจ ่ ะสรางขึ ่ บ ้ หนึ่งไปทดลองทดสอบกับนักเรียนกลุม ่ หนึ่ง เมือ ่ นาผลการทดสอบมาตรวจคะแนนโดย แบงเป็ แ ่ ลวหาสหสั มพันธ ์ ่ นขอคู ้ และคี ่ ้ ระหวางคะแนนรวมข อคู ่ ้ กั ่ บคะแนนรวมขอคี ้ ่ มพันธ ์ = 0.75 ตองการทราบว า่ ไดค ่ ้ าสหสั ้ แบบทดสอบฉบับนี้มค ี าความเชื อ ่ ถือไดเท ่ ้ าไร ่ ตัวอยาง KR20 ่ ตัวอยาง KR21 ่ จากการทดลองใช้แบบทดสอบซึง่ มี จานวน 40 ขอ ย ่ 23.8, ้ ไดค ้ าเฉลี ่ S=8.6 จงหาคาความเชื อ ่ มัน ่ ของ ่ แบบทดสอบฉบับนี้ ตัวอยาง Cronbach’s Alpha ่ ในการสารวจเจตคติครัง ้ หนึ่ง ไดมี ้ การสรางแบบ ้ วัดจานวน 10 ขอ ้ แลวน ้ าไปทดลองให้กลุม ่ ตัวอยางที เ่ ลือกเป็ นกลุมทดลองเครื อ ่ งมือจานวนหนึ่ง ่ ่ ตอบ เมือ ่ นาผลมาคานวณรายขอ ้ ไดค ้ าความ ่ แปรปรวนของคะแนนแตละข อดั ่ ้ งนี้ 0.98, 1.02, 0.63. 0.75, 0.68, 1.05, 0.98, 0.92, 0.94, 1.05 และเมือ ่ คานวณความแปรปรวนของคะแนนรวมได้ เทากั อ ่ ถือไดของ ่ บ 25.87 จงคานวณคาความเชื ่ ้ แบบสอบถามฉบับนี้ การตรวจสอบคุณภาพ เครือ ่ งมือ 1. วิเคราะหทางกายภาพ ์ 2. วิเคราะหทางสถิ ติ ์ 2.1 ทัง้ ฉบับ Validity Reliability 2.2 รายขอ ้ Item Difficulty Item Discrimination ตัวอยางการหาค าความยากและ ่ ่ อานาจจาแนก ในการสอบครัง้ หนึ่ง เมือ ่ นาคะแนนรวมมา จัดลาดับ และจาแนกเป็ นกลุมสู ่ งและกลุม ่ ตา่ แลวพบว า่ ขอสอบข อหนึ ่งมีจานวน ้ ้ ้ ผู้ตอบถูกในกลุมสู ่ งจานวน 15 คน กลุม ่ ตา่ 8 คน จากจานวนในแตละกลุ มที ่ ก ี ลุม ่ ่ ม ่ ละ 22 คน จะสามารถคานวณคาความ ่ ยากและคาอ อนี ่ านาจจาแนกของขอสอบข ้ ้ ้ ไดดั ้ งนี้ ระเบียบวิธท ี างสถิต ิ 1. การเก็บรวบรวมขอมู ้ ล 2. การเตรียมขอมู ้ ล 3. การนาเสนอขอมู ้ ล 4. การวิเคราะหข ์ ้อมูล 5. การตีความหมายของขอมู ้ ล 6. การสรุปผลจากขอมู ้ ลทีร่ วบรวมมา เพือ ่ นาไปสู่การตัดสิ นใจทีม ่ เี หตุผล สถิตเิ ชิงบรรยายหรือเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) เป็ นการอธิบายหรือบรรยายลักษณะของขอมู ้ ลที่ เก็บรวบรวม แตจะไม สามารถอ างอิ งถึงลักษณะ ่ ่ ้ ประชากรได้ เช่น 1. การแจกแจงความถี่ 2. การวัดแนวโน้มเขาสู ้ ่ ส่วนกลาง 3. การจัดตาแหน่งเปรียบเทียบ 4. การวัดการกระจาย 5. การวัดลักษณะของเส้นโคงความถี ข ่ องขอมู ้ ้ ล 6. การวัดความสั มพันธ ์ 1. การแจกแจงความถี่ 1. แบบเรียงคะแนนแตละจ านวน (ไม่ ่ จัดกลุม) ่ 2. แบบเรียงคะแนนเป็ นกลุม ่ (จัดกลุม) ่ พิสัย (Range) หาจานวนชัน ้ จากสูตร k=1+3.3logN ละชั น ้ (Interval) ความกวางแต ่ ้ ตัวอยางการแจกแจงความถี ่ 1 ่ ตัวอยางการแจกแจงความถี ่ 2 ่ 2. การวัดแนวโน้มเขาสู ้ ่ ส่วนกลาง 1. ตัวกลางเลขคณิต หรือคาเฉลี ย ่ ่ (Arithmetic Mean) 2. มัธยฐาน (Median) 3. ฐานนิยม (Mode) ตัวอยางการวั ดแนวโน้มเขาสู ่ ้ ่ ส่วนกลาง 22 20 9 22 21 20 21 24 25 21 22 5 จงหาคา่ Mean, Median, and Mode 3. การจัดตาแหน่งเปรียบเทียบ 1. เปอรเซ็ ์ นตไทล ์ (Percentile) ์ P(n + 1)/100 2. ควอไทล ์ (Quartile) Q(n + 1)/4 3. เดไซล ์ (Decile) D(n + 1)/10 ตัวอยางเปอร เซ็ ่ ์ นตไทล ์ ์ (Percentile) จงหาเปอรเซ็ ที ์ นตไทล ์ ่ ์ 58 ของ ขอมู ้ ้ ลตอไปนี ่ 6.3 6.6 7.6 3.0 9.5 5.9 6.1 5.0 3.6 ตัวอยางเปอร เซ็ ่ ์ นตไทล ์ ์ (Percentile) จากขอมู าง ้ ลขางล ้ ่ หากคาข ่ อมู ้ ล เทากั เซ็ ่ บ 5.9 จะอยูในเปอร ่ ์ นตไทล ์ ์ ทีเ่ ทาไหร ่ ่ 6.3 6.6 7.6 3.0 9.5 5.9 6.1 5.0 3.6 ตัวอยางเปอร เซ็ ่ ์ นตไทล ์ ์ (Percentile) ตัวอยางควอไทล ่ ์ (Quartile) ให้ 10, 13, 8, 11, 15, 17, 20, 14, 22 จงหาควอไทลที 1, 3, และมัธยฐาน ์ ่ และถามี ้ ขอมู ้ ลเทากั ่ บ 15 ตกอยูในควอ ่ ไทลที ่ ์ เ่ ทาไร ตัวอยางควอไทล ่ ์ (Quartile) หาควอไทล ์ ที่ 3 ตัวอยางเดไซล ่ ์ (Decile) ให้ 35, 37, 32, 34, 38, 40, 46, 41, 49 จงหาเดไซดที ์ ่ 4, 8 และ มัธย ฐาน ตัวอยางเดไซล ่ ์ (Decile) 4. การวัดการกระจาย 1. พิสัย (Range) ถาเป็ ้ นขอมู ้ ลทีไ่ มมี ่ การแจกแจงความถี่ Range = Max - Min ถาเป็ ่ ก ี ารแจกแจงความถีเ่ ป็ น ้ นขอมู ้ ลทีม อันตรภาคชัน ้ พิสัย = ขีดจากัดบนทีแ ่ ทจริ ้ งของอันตร ภาคชัน ้ สูงสุด – ขีดจากัดลางที แ ่ ท้จริง ่ ของอันตรภาคชัน ้ ตา่ สุด 2. พิสัยระหวางควอไทล ่ ์ (Interquartile 4. การวัดการกระจาย 3. ส่วนเบีย ่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 4. คาแปรปรวน (Variance) ่ ตัวอยางการวั ดการกระจาย ่ จากขอมู ้ ล 20 25 25 30 30 45 45 45 55 60 จงหาพิสัย, พิสัยระหวางควอไทล ,์ Semi่ Interquartile Range, SD, และ Variance 5. การวัดลักษณะของเส้นโคง้ ความถีข ่ องขอมู ้ ล 1. การวัดความเบ้ (Skewness) ความเบเป็ ้ น 0, - , + 2. การวัดความโดง่ (Kurtosis) ความโดงเป็ ่ น 0, - , + ตัวอยางการวั ดลักษณะของเส้นโค้ง ่ ความถีข ่ องขอมู ้ ล จากขอมู ้ ล 2, 4, 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18, 20 จงหา Skewness ตัวอยางการวั ดลักษณะของเส้นโค้ง ่ ความถีข ่ องขอมู ้ ล จากขอมู ้ ล 10, 12, 16, 9, 15, 10, 15, 10, 12, 11 จงหา Skewness and Kurtosis 6. การวัดความสั มพันธ ์ 1. Pearson Product-Moment Correlation Coefficient N 2. Spearman Rank Coefficient rs 1 Correlation N 12 D i 2 3. Kendall’s WTau Rank Correlation k N ( N 1) Coefficient i 1 2 2 2 6 D i i1 2 N ( N 1) ตัวอยางการหา Pearson Product่ Moment Correlation Coefficient N 6 rs 1 i1 2 2 Di N ( N 1) ตัวอยางการหา Spearman Rank ่ Correlation Coefficient N 6 rs 1 i1 2 2 Di N ( N 1) ตัวอยางการหา Spearman Rank ่ Correlation Coefficient N rs 1 2 6 D i i1 2 N ( N 1) 7. การวัดการถดถอย 1. สมการถดถอยอยางง ่ ่ าย Y = a+bX 2. สมการถดถอยพหุคูณ Y = a + bX1 + cX2 + dX3… ตัวแปรเขาสมการ: All Enter, Forward, ้ Backward, Stepwise ขนาดของกลุมตั = 10p ่ วอยางโดยประมาณ ่ ตัวอยางการวั ดการถดถอย ่ ตัวอยางการวั ดการถดถอย ่ ตัวอยางการวั ดการถดถอย ่ ส่วนกลางควบคูกั ่ บ การวัดการกระจาย การวัด แนวโน้มเขาสู ้ ่ ส่วนกลาง คาเฉลี ย ่ ่ มัธยฐาน ฐานนิยม สรุปความสั มพันธของข อมู ้ ลกับ ์ วิธก ี ารทางสถิต ิ แจก แจง ความถี่ Nomina l F % / / วัดแนวโน้มเขาสู ้ ่ ส่วนกลาง Me an Medi Mod an e Ratio วัดการกระจาย P Q D Ran ge IR / / / / / S Varian D ce / Ordinal Interval จัดตาแหน่ง เปรียบเทียบ / การวัดลัก/ ษณะของ เส้นโค้งความถี่ ของขอมู ้ ล Skew Kurtosis ness / / การวั ดการ ถดถอย วัดความสั มพันธ ์ Pearso n Spearman Kendall / / Nominal Ordinal Interval / / / / อางอิ ง ้ http://www.fiet.kmutt.ac.th/e- learning/edustat/web%20correlation/corrlation%20pageA3-2-2.php http://images.sungwannon.multiply.multiplycontent.com/attachment/0/TGgDb AooCHcAACuCx3k1/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8% AB%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0% E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0% B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8% B7%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94.pdf?key=sungw annon:journal:21&nmid=358026746 http://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0 %B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8 %AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%20cochran& source=web&cd=2&ved=0CFcQFjAB&url=http%3A%2F%2Fwww.science.c mru.ac.th%2Fscienceblog%2Fadmin%2Fblog%2Ffile%2F230411123232.do c&ei=Fp39T_hF4HsrAeCtZjbBg&usg=AFQjCNE6rYHSV_4PA73k7pSldSSBD9F2lw&cad =rja http://tulip.bu.ac.th/~wathna.s/reliability.htm