รายงานการเยีย่ ม นายณรงค์ฤทธิ์ ดิษบรรจง ณ โรงพยาบาล แพทย์ปัญญา โดย องค์การคนพิการสากลประจาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. เจ้าหน้าที่จากองค์การคนพิการสากลประจาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นางสาวสุ ภทั ราพร ตันอธิคม และนางสาวสุ รีพร.
Download
Report
Transcript รายงานการเยีย่ ม นายณรงค์ฤทธิ์ ดิษบรรจง ณ โรงพยาบาล แพทย์ปัญญา โดย องค์การคนพิการสากลประจาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. เจ้าหน้าที่จากองค์การคนพิการสากลประจาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นางสาวสุ ภทั ราพร ตันอธิคม และนางสาวสุ รีพร.
รายงานการเยีย่ ม
นายณรงค์ฤทธิ์ ดิษบรรจง
ณ โรงพยาบาล แพทย์ปัญญา
โดย องค์การคนพิการสากลประจาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น.
เจ้าหน้าที่จากองค์การคนพิการสากลประจาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
นางสาวสุ ภทั ราพร ตันอธิคม และนางสาวสุ รีพร ยุพา พร้อมทั้งทีมจาก
โบสถ์ร่มเย็น ได้เดินทางไปเยีย่ ม คุณณรงค์ฤทธิ์ ดิษบรรจง ที่หมู่บา้ นเอก
นคร แต่ยงั ไปไม่ถึงก็มีโทรศัพท์มาว่า ขณะนี้พกั รักษาตัวอยูท่ ี่โรงพยาบาล
แพทย์ปัญญา กรุ งเทพฯ จึงตามไปที่โรงพยาบาลทันที
เมื่อเดินทางไปถึงได้พบกับคุณอมร ดิษบรรจง ภรรยาของ คุณณรงค์ฤทธิ์
ดิษบรรจง เล่าว่าประมาณ ๘ ปี ที่แล้ว ได้เกิดอุบตั ิเหตุทางรถยนต์ ชนตอ
ม่อจนเกิดไฟลุกไหม้ จนได้รับบาดเจ็บและพิการในระดับ C3-C4 ที่
กระดูกต้นคอ ทาให้มีความพิการตั้งแต่คอลงมา ปั จจุบนั ไม่สามารถขยับ
มือ และเท้าได้ อาศัยอยูก่ บั ภรรยาและครอบครัว ที่หมู่บา้ นเอกนคร ซ.วัช
รพล เดิมคุณณรงค์ฤทธิ์ เป็ นผูจ้ ดั การฝ่ ายลีมูซีน บริ ษทั การบินไทย จากัด
เมื่อประสบอุบตั ิเหตุและพิการจึงต้องออกจากงาน มาเป็ นเวลา ๘ ปี แล้ว
ทางด้านครอบครัวมีภรรยาคอยดูแล เช็ดตัว ป้ อนอาหาร ให้ยา และดูแล
อย่างไกล้ชิด ๘ ปี ที่ผา่ นมา คุณณรงค์ฤทธิ์ได้รับการดูแลฟื้ นฟูทางร่ างกาย
เป็ นอย่างดี ข้อไม่ติด ไม่มีแผลกดทับ แต่ยงั ไม่ได้รับการฟื้ นฟูทางจิตใจ
หรื อใช้กระบวนการด้านคนพิการแต่อย่างใด ปั จจุบนั พักอยูท่ ี่หมู่บา้ นเอก
นคร แต่เมื่อประมาณ ๒-๓ วันที่ผา่ นมาคุณณรงค์ฤทธิ์มีอาการเพ้อ ว่ามี
แมวมากัด มีมดมาไต่ มีอาการกลัว ทางคุณอมร (ภรรยา) จึงได้พามารักษา
ที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา คาดว่าไม่นานคงกลับบ้านได้
ซึ่งเมื่อสามีซ่ ึงเป็ นหลักของครอบครัวได้พบกับความพิการจึงทาให้
ครอบครัวและลูกๆ ต้องลาบาก หลังจากที่พอ่ พิการลูกๆทั้งสองจึงไปที่
อเมริ กา เพื่อทางานเรี ยนด้านภาษา และหารายได้ส่งมาให้แม่ซ่ ึ งต้องดูแล
พ่ออยูท่ ี่บา้ น
เมื่อไปพบทั้ง ๒ สามี ภรรยา สี หน้าและแววตามีอาการเศร้า อย่างเห็นได้
ชัด หลังจากที่ทกั ทายกันเรี ยบร้อยแล้ว คุณสุ ภทั ราพร จึงอยูใ่ นห้องและใช้
กระบวนการ Peer Counseling คุยกับคุณณรงค์ฤทธิ์ ทาให้รู้สึกดีข้ ึนมา
และหัวเราะได้
ส่ วนทางด้านคุณอมร (ภรรยา) และสุ รีพร ยุพา ก็ได้ออกมานัง่ คุยข้างนอก
ห้องถึงเรื่ องชีวติ ประจาวันของคุณณรงค์ฤทธิ์ ว่าเป็ นคนที่มีกาลังใจดี
อยากจะดีข้ ึน อยากจะลุกขึ้นมา แต่กย็ งั ไม่รู้วา่ จะต้องใช้ชีวติ อย่างไรไม่เคย
ออกไปข้างนอก จนทุกวันนี้คุณอมรเองก็รู้สึกท้อแท้ กับความพิการของ
สามี และครั้งนี้เป็ นครั้งแรกที่มีคนพิการเข้ามาเยีย่ ม
หลังจากที่คุยกันสักพักคุณอมรมีสีหน้าดีข้ ึนอย่างเห็นได้ชดั จึงได้ยา้ ยเข้า
ไปในห้องคุณณรงค์ฤทธิ์ เพื่อทักทายคุณณรงค์ฤทธิ์กนั อีกครั้ง ซึ่ งคุณ
ณรงค์ฤทธิ์ เองก็มีสีหน้าดีข้ ึน พูดคุยเป็ นกันเอง
ในอนาคตคิดว่าอยากจะปิ ดแผลที่คอ เหมือนที่คุณสุ ภทั ราพร ให้
คาแนะนาและอยากจะลงจากเตียงบ้าง เพราะปั จจุบนั ไม่ค่อยได้ลง
เนื่องจากไม่มีคนช่วยและรถเข็นยังไม่เหมาะกับความพิการ เวลามา
โรงพยาบาลต้องให้รถดรงพยาบาลไปรับที่บา้ นซึ่ งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
หลังจากนี้ไปการให้คาปรึ กษากับคุณณรงค์ฤทธิ์ ในการดูแล
รักษาสุ ขภาพ และฟื้ นฟูทางด้านจิตใจให้แข็งแรงขึ้น
ต้องไปเยีย่ มที่บา้ นเพื่อดูสภาพแวดล้อมที่บา้ น รวมทั้งให้
คาแนะนาแก่อาสาสมัครบ้านใกล้เคียงที่จะมาช่วยยกลงจาก
เตียงอย่างถูกต้อง เนื่องจากเคสนี้เป็ นผูช้ ายรู ปร่ างท้วม และตัว
ใหญ่จึงต้องหาเพื่อนบ้านมาช่วยยกขึ้นยกลง
นอกจากนั้นต้องฟื้ นฟูสภาพจิตใจของคนในครอบครัว
โดยเฉพาะคุณอมร (ภรรยา) ให้ดีข้ ึน
ขอบคุณค่ะ