แรงจูงใจในการทางาน และการคิดเชิงบวก กุลธร เลิศสุ ริยะกุล ผู้เชี่ยวชาญ คุณเคยเป็ นไหม? • เบื่อพ่อแม่ • เบื่องาน • เบื่อสามีหรือภรรยา • เบื่อลูก • เบื่อคนรอบข้ าง • เบื่อตัวเอง • หมดไฟ ยอมแพ้

Download Report

Transcript แรงจูงใจในการทางาน และการคิดเชิงบวก กุลธร เลิศสุ ริยะกุล ผู้เชี่ยวชาญ คุณเคยเป็ นไหม? • เบื่อพ่อแม่ • เบื่องาน • เบื่อสามีหรือภรรยา • เบื่อลูก • เบื่อคนรอบข้ าง • เบื่อตัวเอง • หมดไฟ ยอมแพ้

แรงจูงใจในการทางาน
และการคิดเชิงบวก
กุลธร เลิศสุ ริยะกุล
ผู้เชี่ยวชาญ
คุณเคยเป็ นไหม?
• เบื่อพ่อแม่
• เบื่องาน
• เบื่อสามีหรือภรรยา
• เบื่อลูก
• เบื่อคนรอบข้ าง
• เบื่อตัวเอง
• หมดไฟ
ยอมแพ้
แรงจูงใจ คือ
• คือ ความสามารถในการจูงใจตนเอง โดยการหา
เหตุผล ความจาเป็ นทีต่ ้ องทาการบางอย่างให้
สาเร็จ โดยทางานอย่ างสม่าเสมอ และไม่ เลิกรา
หรือย่ อท้ อ
• "Nothing great was ever achieved without
enthusiasm."
– Ralph Waldo Emerson2
“สิ่ งยิง่ ใหญ่ จะไม่ เกิดขึน้ เลยถ้ าขาดความกระตือรือร้ น”
“สิ่ งมหัศจรรย์ ในโลกนีจ้ ะไม่ มที างเกิดขึน้ ถ้ าขาดแรงจูงใจ”
2
การสร้ างแรงจูงใจ
คนทีม่ ีแรงจูงใจ
Commitment
การก้ าวไปสู่ เป้าหมาย และปฏิบัตติ ามวิสัยทัศน์ ที่ต้งั ไว้
Achievement Drive
การพัฒนาไปสู่ มาตรฐานและความสาเร็จ
Initiate and Optimism
การขับเคลือ่ นเพือ่ คว้ าโอกาส และการมองโลกในแง่ บวก
สาเหตุของการขาดแรงจูงใจ
คนทีข่ าดแรงจูงใจ
Lack of Focus
การขาดจุดยืน
Lack of Direction
การขาดแนวทาง
Lack of Confidence
การขาดความมั่นใจ
การสร้ างแรงจูงใจ
Lack of Focus
การขาดจุดยืน
Commitment
การก้ าวไปสู่ เป้าหมาย และปฏิบัตติ ามวิสัยทัศน์ ที่ต้งั ไว้
1. การขาดจุดยืน (Lack of focus) ถ้ าคุณไม่ รู้ ตนเองว่ าต้ องการอะไร
ก็คงไม่ มีอะไรทีค่ ุณต้ องการ ดังนั้นการตั้งเป้าหมายเป็ นสิ่ งสาคัญ
การสร้ างทัศนคติเชิงบวก
If you think you can, you can
• ถ้ าคุณคิดว่ าคุณทาได้ =========คุณก็จะทาได้
• งานวิจัยของมหาวิทยาลัย ฮาร์ วาด ชี้ว่าองค์ ประกอบของ
ความสาเร็จ 85% คือทัศนคติ และ15% คือความรู้
ตอบคา ถามเหล่ านีเ้ สี ยก่ อน
ชีวติ ทีม่ คี วามสมบูรณ์ ของเรานั้นควรมี
ลักษณะอย่ างไร ?(ชีวติ ส่ วนตัว/ครอบครัว/การ
งาน/สั งคม)
เราอยากจะปรับปรุงชีวติ และความเป็ นอยู่ใน
วันนี้ พรุ่งนีใ้ ห้ ดกี ว่ าเมือ่ วานทีผ่ ่ านไปหรือไม่
การสร้ างเป้ าหมายในชีวติ
• หาความฝันและความอยากของตัวเองให้ เจอก่อน จุดเริ่มต้ นของการ
กาหนดเป้าหมายในชีวติ คือการถามตัวเองว่ าในอนาคตเราอยากจะเป็ น
อะไร อยากจะมีอะไร อยากจะได้ อะไร อยากจะเป็ นเหมือนใคร แค่ ไหน
เมื่อไหร่ เพราะถ้ าเราไม่ สามารถตอบคาถามนีไ้ ด้ เราจะกาหนดเป้าหมายที่
ดีไม่ ได้ เช่ นกัน
• วิเคราะห์ ความชอบของตัวเอง ควรเลือกทาในสิ่ งทีต่ ัวเองถนัด และชอบ
เป็ นเป้าหมายอันดับแรก
• ขีดกรอบเป้าทีม่ ุ่งหมายและตีกรอบให้ แคบลง การเลือกเป้าหมายทีเ่ รา
ต้ องการถ้ าเรารู้ว่าเราชอบอะไร กาหนดกรอบของเป้าหมายได้ ชัดเจนและ
ค่ อยๆตีกรอบนั้นให้ แคบลงๆ ควรจะทบทวนความสาเร็จของเป้าหมายที่
กาหนดไว้ เป็ นระยะๆว่ าควรจะมีการปรับเปลีย่ นเป้าหมายหรือไม่ อย่ างไร
การสร้ างเป้ าหมายในชีวติ
• ศึกษาข้ อมูลเพือ่ ไปสู่ เป้าหมาย การศึกษาหาข้ อมูลเกีย่ วกับ
เป้าหมายทีเ่ รากาหนดไว้ ว่าแนวทางในการไปสู่ เป้าหมายนั้นเป็ น
อย่ างไรบ้ าง
• ตั้งเป้าหมายให้ ท้าทาย ซึ่งหมายถึงเป้าหมายทีไ่ ม่ ง่ายจนเกินไป
• ควรจะมีเป้ าหลักและเป้ ารอง การตั้งเป้าหมายในชีวติ ที่ดคี วรจะมี
เป้าหมายหลักและเป้ าหมายรองที่สอดคล้ องกัน
เป้าหมายรอง คือ นักกีฬา
เป้าหมายหลัก คือ วิศวกร
การสร้ างแรงจูงใจ
Lack of Direction
การขาดแนวทาง
Achievement Drive
การพัฒนาไปสู่ มาตรฐานและความสาเร็จ
• 2. การขาดแนวทาง (Lack of direction) ไม่ รู้ ว่าต้ องทาอะไรเพือ่
สร้ างแรงจูงใจทีน่ าไปสู่ ความสาเร็จ
แนวทางในการสร้ างแรงจูงใจ
1. หาสิ่ งที่ชอบแล้ วทา (Find a true interest in what you are doing)
2. รู้ จกั ตัวเอง (Know yourself *) รู้ ว่าเมื่อไหร่ รู้ สึกดีฮึกเหิม เมื่อไหร่
เศร้ าสร้ อย เมื่อตระหนักรู้ สิ่งเหล่ านีค้ ุณก็จะค่ อยๆรับมือกับมันได้
3. กระตุ้นความปราถนาของตนเอง (Stimulate desire) ให้ เห็นชัด
4. เริ่มต้ นจากจุดเล็กๆ ที่ทาได้ ไม่ ยาก (Start with any small step)
5. อย่ ามัวแต่ คดิ แต่ ต้องลงมือทาเลย (Stop thinking) ถ้ ากาลังเบื่อๆอยู่ก็
หาอะไรง่ ายๆทีไ่ ม่ ต้องใช้ สมาธิทาไปพรางๆก่ อน พอมีสมาธิมากขึน้ ค่อย
ทาสิ่ งที่สาคัญ อย่ าผัดวันประกันพรุ่ ง (Time is now)
แนวทางในการสร้ างแรงจูงใจ
• 6. กระตุ้นให้ เห็นความเจ็บปวด กรณีทไี่ ม่ ทาอะไรเลย (Stimulate pain)
• 7. ไม่ หยุดเรียนรู้ (Keep learning) พยายามเรียนรู้ให้ มากเท่ าทีจ่ ะทาได้
• 8. ติดตามความก้าวหน้ าของตนเอง (Track your progress) เมื่อคุณเห็น
ความก้าวหน้ า คุณก็จะเกิดกาลังใจทีจ่ ะพัฒนาต่ อไปอีก
• 9. พูดให้ กาลังตัวเอง (Talk your way to motivation) ทบทวนเหตุผลทีต่ ้ อง
บรรลุเป้าหมายให้ ได้ อาจจะพูดกับเพือ่ น พ่อแม่
• 10. มองโลกในแง่ บวก (Stay positive) เห็นด้ านบวกทีแ่ ฝงอยู่ในปัญหาเสมอ
• 11. มีอารมณ์ ขัน (Humour) เป็ นอีกเทคนิค เพราะเสี ยงหัวเราะช่ วยให้ ผ่อน
คลาย
รอยยิม้ ของสิ่ งมีชีวติ
ต้ นไม้ และเพือ่ นต้ นไม้ กย็ มิ้ ได้
แนวทางในการสร้ างแรงจูงใจ
• 12. คบกลุ่มเพือ่ นทีด่ ี (Keep good company) เพือ่ นที่ดคี อื มองโลก
ในแง่ ดี กะตือ รื้อร้ น มีสามารถแลกเปลีย่ นความคิดดีๆ
• 13. รู้ จกั ช่ วยเหลือผู้อนื่ (Help others) การแลกเปลีย่ นความคิดเพือ่
ช่ วยกระตุ้นแรงจูงใจให้ กบั เพือ่ น การทีเ่ ห็นคนอืน่ ประสบ
ความสาเร็จทาให้ เราอยากทาเหมือนกัน
• 14. สร้ างพลังงาน (Create energy) อาจจะเป็ นคาแฟอีน แต่ ระวัง
พวกนา้ ตาลเพราะจะ รู้ สึกสดชื่นแค่ ชั่วคราว การนอนหลับพักผ่ อน
ให้ เพียงพอเป็ นวิธีทดี่ ที สี่ ุ ดในการสะสมพลังงาน
• 15. เทคนิคอืน่ ๆ ตัวช่ วยทีก่ ระตุ้นแรงจูงใจ (Other techniques)
การสร้ างแรงจูงใจ
Lack of Confidence
การขาดความมั่นใจ
Initiate and Optimism
การขับเคลือ่ นเพือ่ คว้ าโอกาส และการมองโลกในแง่ บวก
• 3. การขาดความมั่นใจ (Lack of confidence) ถ้ าคุณไม่ เชื่อมั่นว่ าตน
ทาได้ ก็ไม่ มีเหตุผลทีต่ ้ องพยายาม
การสร้ างความมั่นใจ
• “If you don't have confidence, you'll always find a way not to win.” – Carl Lewis
• “ถ้ าไม่ มีความมั่น ก็ไม่ มีหนทางชนะ”
• “Optimism means expecting the best, but confidence means knowing how to handle
the worst. Never make a move if you are merely optimistic.” – The Zurich Axioms
• “การมองโลกในแง่ ดีคอื การคาดหวังถึงสิ่ งทีด่ ที สี่ ุ ด แต่ ความมั่นใจคือการ
รับมือกับสิ่ งทีเ่ ลวร้ ายทีส่ ุ ด คุณจะไม่ ไปถึงไหนเลยถ้ าคุณไม่ มองโลกในแง่ ดี”
การสร้ างความมั่นใจ
• ทาสิ่ งทีต่ นเองชอบ หรือฝึ กทักษะเรียนรู้ สิ่งใหม่ ๆเพือ่ ความท้ าทาย
ในชีวติ
• มีต้นแบบ และเรียนรู้ การวางตัวจากเค้ า (Idol)
• อย่ าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอืน่ เพราะชีวติ ไม่ ใช่ การ
แข่ งขันแต่ เป็ นการอยู่ร่วมกันอย่ างมีความสุ ข เป็ นตัวของตัวเอง
• พยายามเข้ าใจตัวเองและหาข้ อดีของตนเอง
Idols ต้ นแบบ
Who is your?
การสร้ างความมั่นใจ
• ตั้งเป้าหมายในชีวติ ที่ไม่ ยากเกินเอือ้ ม ค่ อยๆทาไปจากจุดเล็ก
สู่ เป้าหมายสู งสุ ด
• เตรียมตัวสาหรับทางาน วางแผนการทางาน และทาการบ้ าน
• มุ่งมัน่ สู่ ความสาเร็จมากกว่ าความล้ มเหลว ถ้ ากลัวความ
ล้ มเหลวก็ต้องหาทางป้ องกันตั้งแต่ ต้น
• ยึดอกและยิม้ รับต่ อทุกสถานการณ์
การสร้ างความมั่นใจ
•
•
•
•
ทางานด้ วยความสบายใจ ด้ วยความรู้ สึกผ่ อนคลายในการทางาน
เรียนรู้ วธิ ีทที่ าให้ ตวั เองรู้ สึกดี
ให้ รางวัลกับตนเอง แม้ ว่าจะเป็ นเพียงความสาเร็จเล็กๆ
ทาเหมือนกับคุณมีความมัน่ ใจในตนเอง “คิดอย่ างไร ก็จะเป็ น
เช่ นนั้น” คิดเสมอว่ า ไม่ มีอะไรทีม่ นุษย์ ทาไม่ ได้ *
ปัจจัยอืน่ ๆที่มีผลต่ อการเกิดแรงจูงใจ
• สภาพแวดล้ อมในที่ทางาน (Working environment)
• สุ ขภาพ (Heath and energy)
ปัจจัยอืน่ ๆที่มีผลต่ อการเกิดแรงจูงใจ
ปัจจัยด้ านสภาพแวดล้ อมในที่ทางาน
• ลักษณะและบรรยากาศ (The look and the feel)
– การตกแต่ งทีไ่ ด้ มาตรฐาน (Standard of decoration)
– สี สันทีใ่ ช้ ในห้ อง (Colour scheme)
– บรรยากาศของห้ อง เช่ น เป็ นทางการ อบอุ่นเสมือนอยู่บ้าน (Official
versus homely spectrum)
– ศิลปะทีส่ ร้ างแรงจูงใจ เช่ น รูปภาพ รูปถ่ าย รูปปั้น หรือ ผลงาน
ศิลปะอืน่ ๆ (Inspirational art, pictures, photos, statues)
การจัดสภาพแวดล้ อมภายใน
• การสร้ างความน่ าสนใจ จากสี รูปทรง และชิ้นงานศิลปะ
http://www.artstudiowork.com/category/living-room-design/
การจัดสภาพแวดล้ อมภายใน
http://www.artstudiowork.com/category/home-office-furniture/
การจัดสภาพแวดล้ อมมีผลต่ อการสร้ างแรงจูงใจ
การจัดสภาพแวดล้ อมภายใน
http://www.artstudiowork.com/category/home-office-furniture/
ปัจจัยอืน่ ๆที่มีผลต่ อการเกิดแรงจูงใจ
ปัจจัยด้ านสภาพแวดล้ อมในที่ทางาน
• ลักษณะและการจัดวางพืน้ ทีท่ างาน (Work Area/Office Plan)
– การจัดวางเฟอร์ นิเจอร์ (Furniture layout)
– การจัดพืน้ ที่ว่าง (Space arrangement)
• สภาพอากาศ และภาวะอยู่สบาย (Climate and comfort zone)
–
–
–
–
ความร้ อน อุณหภูมิ (Heating)
การระบายอากาศ (Ventilation)
แสงสว่ าง (Lighting)
ระดับความดังของเสี ยง (Noise level)
ปัจจัยอืน่ ๆที่มีผลต่ อการเกิดแรงจูงใจ
ปัจจัยด้ านสภาพแวดล้ อมในที่ทางาน
• สภาพสั งคม (Social climate)
–
–
–
–
สภาวะแวดล้อมทางสั งคม
การเมืองในทีท่ างาน (Office politics)
ความสั มพันธ์ ของคนในสั งคม (Social/Isolated)
ความช่ วยเหลือ (Help and cover/you are on your own)
• ปัจจัยทีเ่ กีย่ วเนื่องกับอาคาร (Sick building)
– ที่ต้งั (Location), การเดินทาง (Travel), ที่จอดรถ (Parking),
ฮวงจุ้ย (Feng Shui), ฯลฯ
ปัจจัยอืน่ ๆที่มีผลต่ อการเกิดแรงจูงใจ
ปัจจัยด้ านสุ ขภาพ
•
•
•
•
สุ ขภาพ (Health) การพักผ่ อน
สมรรถนะร่ างกาย (Fitness) การออกกาลังกาย
สุ ขลักษณะการกิน (Diet)
การใช้ ชีวติ ในสั งคม (Social/Emotional) กิจกรรม สถานที่
และผู้คน
• สมดุลย์ (Balance) การทางาน ชีวติ ครอบครัว ความ
มัน่ คง โอกาสทีเ่ ข้ ามาในชีวติ
สมดุลย์ ชีวติ (Life Balance Wheel)
• Hobbies (งานอดิเรก/ความสนใจ)
• Regions
(ที่ยึดเหนี่ยว/ที่พงึ่ ทางใจ)
• Friends (เพือ่ น/มิตร)
• Family (ครอบครัว)
• Future plan (แผนอนาคต)
• Job (หน้ าที)่
• Exercise (ออกกาลังกาย)
• Community Activities
(กิจกรรมทางสั งคม)
การสร้ างแรงจูงใจเกิดได้ ทุกช่ วงจังหวะชีวติ
•
•
•
•
•
•
วัยเด็ก
วัยรุ่น
วัยเรียน
วัยทางาน
วัยเริ่มต้ นชีวติ ครอบครัว
วัยไม้ ใกล้ ฝั่ง
การคิดเชิงบวก (Positive Thinking)
โลกมีสองด้ าน
ขึน้ อยู่กบั ว่ าเราจะเลือกมองด้ านไหน
• การคิดเชิงลบ - - - มักมองด้ านมืด มักมองจุดบกพร่ อง และจับผิด
• การคิดเชิงบวก + + + มักมองโลกด้ านสว่ าง เลือกมองส่ วนที่ดี
คาพูด 2 วิธีคดิ
“ แย่ แน่ ละคราวนี”้
“โชคร้ ายจริงๆ”
“เจอทางตันเข้ าให้ แล้ ว”
“มันเป็ นไปไม่ ได้ ”
“ สถานการณ์ เลวร้ ายเหลือเกิน
ฉันทาต่ อไปไม่ ได้ แล้ วละ”
“เราไม่ มีทางทาได้ แน่ ”
“ Mid Term คะแนนไม่ ดเี ลย
สอบ Final คงแย่ กว่ านี”้
“ ไม่ เป็ นไรหรอก เดีย๋ วทุกอย่ างจะต้ องดีขนึ้ ”
“ มันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ นะ?”
“ มันน่ าจะมีทางออกทางอืน่ ”
“ผมว่ าเราพอมีโอกาสอยู่บ้าง”
“ ผมประเมินเหตุการณ์ ดูแล้ ว
เพียงแต่ เราฝ่ าสิ่ งนีไ้ ปได้ เราก็จะสาเร็จ”
“เราต้ องทาได้ แน่ เราต้ องทาสาเร็จ”
“ Mid Term คะแนนไม่ ดเี ลย
สอบ Final ต้ องทาให้ ดกี ว่ านี”้
มองโลกแง่ ร้าย
คิดบั่นทอนกาลังใจ
คิดไม่ ดีต่อตนเอง
คิดไม่ ดตี ่ อผู้อนื่
คิดไม่ ดีงาม
คิดโทษโชคชะตา
คิดแบบไม่ มีโอกาสเป็ นไปได้
พลังของการมองโลกในแง่ ดี
• การคิดแง่ บวก คือ ทัศนคติทางจิตใจ ที่มองโลกในด้ านสว่ าง หรือ ด้ านบวก
(ไม่ ใช่ ด้ านมืด หรือ ด้ านลบ)
• การคิดแง่ บวก คือ ทัศนคติทางจิตใจ ที่มองนา้ ครึ่งแก้ว ในส่ วนทีม่ ีนา้ อยู่
ไม่ ใช่ ในส่ วนที่ขาดนา้ (มีนา้ อยู่ต้งั ครึ่งแก้ว ไม่ ใช่ ขาดนา้ อีกตั้งครึ่งแก้ว)
• การคิดแง่ บวก คือ ทัศนคติทางจิตใจที่คาดหวังต่ อผลตอบแทนในแง่ บวก
ได้ แก่ ความเป็ นไปได้ การเจริญเติบโต ความสาเร็จ ความสุ ข สุ ขภาพ ความ
รัก และความสั มพันธ์ ที่ดี และความเชื่อมั่นในตนเอง “ฉันทาได้ ” “ฉัน
สามารถทาได้ ” และฉันจะประสบความสาเร็จ
• คนทีม่ องโลกในแง่ บวกจะไม่ กลัวอุปสรรค ไม่ กลัวความล้มเหลว หรือถ้ า
ล้มเหลวไม่ เป็ นดังที่ต้งั ใจไว้ ก็ลองพยายามใหม่ ได้
พลังของการมองโลกในแง่ ดี
• การคิดเชิงบวกทีแ่ ท้ จริง ไม่ ใช่ เพียงแค่ คาพูดทีว่ ่ าทุกอย่ างโอเค แต่ ในหัว
กังลังคิดกังวลเรื่องความล้มเหลวอยู่ เพราะนั้นมันเป็ นแค่ ปฏิกริ ิยาของ
ริมฝี ปากทีพ่ ูดบวก แต่ ความคิดยังไม่ เป็ นบวกโดยสมบรูณ์ ดังนั้นสิ่ งทีจ่ ะ
เปลีย่ นคุณให้ คดิ เชิงบวก ต้ องเกิดจากทัศนคติทางจิตและทางใจ
• การคิดเชิงบวกโดยเนือ้ แท้ ต้องสะท้ อนออกมาจากทั้งความคิด
ทางอารมณ์ และการกระทาด้ วย
• การพัฒนาระบบความคิดทัศนคติแง่ บวก ต้ องอาศัยการอ่าน การสร้ าง
แรงบันดาลใจ การพินิจเพ่งมองพิจารณา เพือ่ หาข้ อมูลและคาแนะนาดีๆ
พัฒนาวิธีการอธิบายสภาพแวดล้ อมของคนมองโลกแง่ ดี
การตีความเหตุการณ์ เลวร้ ายของคนมองแง่ ดี
1. ปัญหาต่ างๆอยู่ไม่ นาน
2. ไม่ ตาหนิตนเอง พยายามมองหาทางแก้ ปัญหา ปกป้องความ
มั่นใจของตน
3. จากัดขอบเขตของปัญหา ทาให้ สามารถแก้ ปัญหาได้ ง่าย
ข้อดี
ทาให้ มีสติ สามารถควบคุมปัญหาและรับมือได้
ด้ วยความเชื่อมั่น
การควบคุมพลังแห่ งชีวติ และทัศนคติของคุณ
คุณค่าของการมองเชิงบวก
- ช่วยให้สามารถดึงเอาศักยภาพภายในมาได้
- ช่วยให้มองเห็นโอกาสมากขึ้น
ผลของการมองเชิงลบ
- บั ่นทอนความมั ่นใจ
- ทาลายความคิดสร้างสรรค์และทักษะในการแก้ปัญหา
- จดจ่ออยูแ่ ต่กบั ปั ญหาและอุปสรรค
- ทาให้ชีวิตขาดความสุข
- บั ่นทอนศักยภาพการทางาน
การมองเหตุการณ์ ในด้ านบวกของคนมองแง่ ดี
1. หาเหตุผลภายในตนเองมาอธิบายความสาเร็จ เช่ น การ
ชนะ ไม่ ได้ เกิดจากโชคเพียงอย่ างเดียวแต่ เกิดจากความสามารถ
ของตนด้ วย
2. เรื่องราวทีด่ นี ้ันยืนยาว และเหตุการณ์ น้ันจะมีผลต่ อ
ความสาเร็จและนามาซึ่งผลประโยชน์ ทเี่ พิม่ มากขึน้
กาจัดแนวคิดและวิธีการตีความแบบคนมองแง่ ลบ
การตีความเหตุการณ์ เลวร้ ายของคนมองแง่ ร้าย
1. ชอบโทษตัวเองว่ าเป็ นสาเหตุของปัญหา รวมปัญหาทุก
อย่ างไว้ ทตี่ ัว
2. ชอบคิดว่ าเหตุการณ์ เลวร้ ายจะอยู่กบั ตนเองอย่ างถาวร
3. มักมองผลกระทบในแง่ ลบแตกออกไปไกลกว่ าความ
เป็ นจริง
การมองเหตุการณ์ ในด้ านบวกของคนมองแง่ ร้าย
1. เหตุการณ์ ดๆี ทีเ่ กิดขึน้ เป็ นเพราะโชคช่ วย
ไม่ ได้ เกิดจากความสามารถของตน
2. เรื่องราวทีด่ นี ้ันจะอยู่เพียงชั่วคราวและผ่ าน
ไปอย่ างรวดเร็ว
ประสบการณ์ จากคนที่ประสบความสาเร็จจากการล้ มเหลวมาก่ อน
• เปลีย่ นความล้ มเหลว ให้ เป็ นโอกาส
เช่ น ชายคนหนึ่งพนักงานขายของบริษัทรองเท้ าแห่ งหนึ่ง ทางบริษัทส่ ง
เขาไปขายรองเท้ า ณ เกาะแห่ งหนึ่ง ซึ่งชาวเกาะยังไม่ รู้จักใส่ รองเท้ า เขา
กลับมารายงานผู้จัดการด้ วยความข้ องใจว่ า "เราคงขายของไม่ ได้ เพราะ
ชาวเกาะเขายังไม่ รู้จักใส่ รองเท้ าเลย" (มองเห็นแต่ อปุ สรรค) ผู้จัดการจึง
ให้ ซองขาว ให้ เขาลาออกไปหางานอืน่ และส่ งพนักงานคนใหม่ ไปยัง
เกาะดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง พนักงานคนที่สองก็กลับมารายงานด้ วยความ
ตื่นเต้ นว่ า "ผู้จัดการครับ ชาวเกาะนีย้ งั ใส่ รองเท้ าไม่ เป็ น เราต้ องรีบเข้ า
ไปสอนเขาให้ ใส่ รองเท้ าเป็ น แล้วเราจะได้ ครองตลาดเป็ นบริษัทแรก“
(มองเห็นโอกาสทีซ่ ่ อนอยู่อกี ด้ านของอุปสรรค)
การหัดคิดแง่ บวก
• ยามพบอุปสรรคในการทางาน
ไม่ เป็ นไร..เอาใหม่ : คาพูดนีส้ าคัญมาก หัดอุทานให้ ติดปาก โดยเฉพาะ
เวลาต้ องประสบกับปัญหาความล้มเหลวในการทางานหรือ เจอ
ข้ อผิดพลาดอะไรขึน้ มาอย่ างไม่ คาดฝัน หรือ เวลาเพือ่ นร่ วมงานทางาน
ผิดพลาด คาพูดนีจ้ ะเป็ นเครื่องปลอบใจและให้ กาลังใจได้ เป็ นอย่ างดี
คาว่ า "ไม่ เป็ นไร" เป็ นคาที่ทาให้ จิตใจปล่อยวางจากปัญหา ไม่ ถูกบีบคั้น
จากปัญหา คาว่ า "เอาใหม่ " เป็ น คาพูดทีป่ ลุกคุณธรรมข้ อ"วิริยะ"
แปลว่ า เพียรสู้ งาน ปลุกใจให้ เราคิดสู้ ปัญหา ไม่ ท้อถอย
การหัดคิดแง่ บวก
• ยามพบกับเหตุการณ์ ร้ายทีไ่ ม่ พงึ ปรารถนา
โชคดีนะเนี่ย : ไม่ ว่าคุณเจอะเจอกับความทุกข์ กายทุกข์ ใจอะไรใน
ชีวติ ประจาวัน ให้ คดิ เสี ยว่ าสิ่ งเลวร้ ายทีเ่ ราต้ องประสบทุก ๆ ครั้ง มัน
ไม่ ได้ ร้ายกาจจนถึงทีส่ ุ ดแม้ สักอย่ างเดียว มันเป็ นความ"โชคดี"ของเรา
จริง ๆ ที่ไม่ เจอหนักกว่ านี้
ยกตัวอย่ าง
• เดินหัวชนเสาหัวปูด อุทานว่ า " อูย ! ..โชคดีนะเรา หัวยังไม่ แตก "
โดนตัดเงินเดือน พูดกับตัวเองว่ า " เขาไม่ ไล่เราออก ก็บุญแล้ ว ถือว่ ายัง
โชคดีนะเนี่ย"
ทากาแฟร้ อน ๆหกรดขากางเกง พูดกับตัวเองว่ า " เหอ..ๆ โชคดี ทีม่ ันไม่
หกรดเป้ากางเกงเรา "
การหัดคิดแง่ บวก
• ยามมีปัญหากับเพือ่ นมนุษย์ ด้วยกัน
เขายังดีนะ : เวลาคุณมีปัญหากับเพือ่ นมนุษย์ เช่ นเพือ่ นร่ วมงาน คนข้ างบ้าน ฯลฯ
•
•
•
•
เช่ น บางคนอาจจะทางานไม่ ถูกใจ บางคนอาจจะทาอะไรผิดใจคุณ หรือ บางคนอาจจะมี
เจตนาไม่ ดกี บั คุณ ให้ คดิ เช่ นเดียวกันว่ าสิ่ งทีเ่ ขาทานั้นมันก็ยงั ไม่ ได้ ร้ายกาจถึงทีส่ ุ ดกับ
คุณแต่ อย่ างใด มันยังมีแง่ ดี ๆ ให้ เราคิดถึงเขาอยู่เสมอ
ยกตัวอย่าง
คนข้ างบ้ านนินทาเรา เราก็บอกกับตัวเองว่ า โอ้..นี่เขายังดีนะทีไ่ ม่ ถึงกับมาดักทาร้ ายเรา
มีคนมาขโมยปากกาที่โต๊ ะทางานเราไป เราก็คดิ ว่ า เจ้ าขโมยนี่ยงั ดี ทีไ่ ม่ ยกเครื่องคอมพ์
เราไป
สาวหักอก เราก็คดิ ว่ า เธอยังดีนะเนี่ย ทีไ่ ม่ ควงคู่แข่ งมาเย้ ยเราให้ เจ็บใจหนักไปกว่ านี้
เพือ่ นร่ วมงานเอาเปรียบ เราก็คดิ ว่ า เขาก็ยงั ดีทไี่ ม่ ใส่ ร้ายป้ายสี เราข้ างหลัง
ตัวอย่ างการคิดเชิงบวกเริ่มจากที่บ้าน
• มีแม่ ขบี้ ่ น แต่ ที่เค้ าบ่ นก็เพราะว่ า เค้ าเป็ นห่ วงและรักเรา เค้ าไม่ บ่นนะซิ
แปลก นั่นก็แสดงถึงความไม่ ใส่ ใจ
• แม่ ไม่ จ่ายค่ าอินเตอร์ เน็ตรายเดือนให้ ก็ดีไม่ เล่นคอม ไม่ เปลืองไฟ ไม่ เล่น
เกม มีเวลาอ่านหนังสื อมากขึน้
• ถ้ าครอบครัวมีปัญหาทีไ่ ม่ สามารถแก้ไขได้ จงคิดว่ าดีกว่ าคนที่เป็ นเด็ก
กาพร้ า ไม่ มีพ่อแม่ ไม่ มีครอบครัว จงคิดบวกว่ าดีเหมือนกันถ้ าเรารู้ว่า
ปัญหาครอบครัวสร้ างผลกระทบต่ อจิตใจของเราอย่ างไร เราจะได้ จาไว้
เตือนใจตัวเองว่ าจะไม่ ทากับครอบครัวของเรา
ตัวอย่ างการคิดเชิงบวกเริ่มจากคนใกล้ ตัว
• ถ้ าเพือ่ นยืมตังค์ แล้วไม่ จ่ายคืน ก็ให้ คดิ เสี ยว่ าชาติที่แล้ว เราคงเป็ นหนีเ้ ขา
มาก่อน ชาตินีเ้ ราเลยต้ องมาชดใช้ คนื ให้ เขา หรือคิดเสี ยว่ าถึงแม้ เราจะ
ไม่ ได้ เงิน แต่ เราได้ ประสบการณ์
• ถ้ ามีเรื่องผิดใจกับเพือ่ นสนิท ก็ให้ คดิ ว่ าดีเหมือนกันจะได้ มีเวลาทบทวน
ตัวเอง และเป็ นข้ อควรระวังว่ าถ้ าเราจะคบใครนั้น ยิง่ สนิทสนมมาก
เท่ าไหร่ เวลาผิดใจกันแล้ว จะรุนแรงกว่ าเพือ่ นคนอืน่
• การไม่ มีแฟนในชีวติ มหาลัย ก็ใช้ ว่ามันจะเป็ นเรื่องแปลกอะไร ใครเค้ าจะ
รักกันก็ช่างปะไร ฉันอยู่คนเดียวก็มีความสุ ข ไม่ ต้องนั่งคุยโทรศัพท์ ไม่
ต้ องเสี ยอารมณ์ ให้ หงุดหงิด ไม่ ต้องนั่งร้ องไห้ และไม่ ต้องอกหัก 555+
เรื่องแบบนี้ "พรหมลิขิต ล้วนๆ”
• มีแฟนไม่ สวย ไม่ หล่อ ก็มองซะว่ ามันเป็ นงานศิลปะ มีคุณค่ าในตัว
เวลาเจองานหนักให้ บอกกับตัวเองว่ านี่คอื
โอกาสในการเตรียมพร้ อมสู่
ความเป็ นมืออาชีพ
เวลาเจอความทุกข์ หนักให้ บอกตัวเองว่านี่คอื
แบบฝึ กหัดที่จะช่ วยให้ เกิด
ทักษะในการดาเนินชีวติ
เวลาเจอนายจอมละเมียดให้ บอกตัวเองว่ านี่คือการ
ฝึ กตนให้ เป็ นคน
สมบูรณ์ แบบ (Perfectionist)
เวลาเจอคาตาหนิให้ บอกตัวเองว่ านี่คอื การชี้
ขุมทรัพย์ มหาสมบัติ
เวลาเจอคานินทาให้ บอกตัวเองว่ านี่คอื การ
สะท้ อนว่ าเรายังมีความหมาย
เวลาเจอความผิดหวังให้ บอกตัวเองว่ านี่คือวิธีที่
ธรรมชาติกาลังสร้ างภูมคิ ุ้ม
กันให้ กบั ชีวติ
เวลาเจอความป่ วยไข้ ให้ บอกตัวเองว่ านี่คอื การ
เตือนให้ เห็นคุณค่ าของการ
รักษาสุ ขภาพให้ ดี
เวลาเจอความพลัดพรากให้ บอกตัวเองว่านี่คือ
บทเรียนของการรู้ จกั หยัด
ยืนด้ วยขาตัวเอง
เวลาเจอคนทีใ่ ช่ แต่ เขามีคู่แล้วให้ บอกตัวเองว่ านี่
คือประจักษ์ พยานว่ าไม่ มี
ใครได้ ทุกอย่ างทีใ่ จหวัง
เวลาเจอแฟนทิง้ ให้ บอกตัวเองว่ านี่คอื ความเป็ น
อนิจจังทีท่ ุกชีวติ มีโอกาสพบ
เวลาเจอคนกลิง้ กะล่อนให้ บอกตัวเองว่ านี่คอื
อุทาหรณ์ ของชีวติ ทีไ่ ม่ น่า
เจริญรอยตาม
เวลาเจอศัตรู คอยกลัน่ แกล้างให้ บอกตัวเองว่ านี่คอื
บททดสอบที่ว่า “มาร
ไม่ มีบารมีไม่ เกิด”
เวลาเจอวิกฤตให้ บอกตัวเองว่ านีค้ อื บท
พิสูจน์ สัจธรรม “ในวิกฤตย่ อมมีโอกาส”
ได้ ดเี พราะถูกด่ า
•
•
•
•
•
•
•
•
•
•
•
•
ฉันมีดี เพราะถูกด่ า น่ าหัวไหม
ยิง่ ดีใจ เพราะถูกด่ า ดูน่าหัว
ใครจะด่ า สั กเท่ าไร ไม่ เคยกลัว
เรื่องจะชั่ว อย่ างเขาด่ า นั้นอย่ าเกรง
ใครมีดี คนก็คดิ ริษยา
หาแง่ ด่า กันโขมง ล้วนโฉงเฉง
เมื่อยปากเข้ า ปากก็มุบ หุบปากเอง
ยิง่ ครื้นเครง คือฉันท้ า ให้ ด่าฟรี
ฉันเป็ นคน ได้ ดี เพราะคาด่ า
กลายเป็ นสิ่ ง นามา ซึ่งศักดิ์ศรี
ด่ าเท่ าไร ก็เห็นไม่ จริงสั กที
เลยได้ ดี เพราะถูกด่ า น่ าหัวครันฯ
สนใจข้ อมูลการบรรยายเพิม่ เติมหรือ
ต้ องการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ ติดต่ อ
กุลธร เลิศสุ ริยะกุล
ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้ านการพัฒนาหลักสู ตร
โทร: 081-8556222 , 081-9490679
E-mail : Kulthorn.nfe @ hotmail.Com
www. kulthorn . Net
Thank you