Transcript การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
Slide 1
โดย ครูดลลดา สังฆสุวรรณ
โรงเรียนสงวนหญิง จังหวัดสุพรรณบุรี
Slide 2
• อธิบายพัฒนาการของการติดต่ อสื่ อสาร
• อธิบายชนิดของเครือข่ ายคอมพิวเตอร์
• อธิบายลักษณะตัวกลางของการสื่ อสารในเครือข่ าย
คอมพิวเตอร์
• อธิบายลักษณะอุปกรณ์ เครือข่ ายคอมพิวเตอร์
• บอกประโยชน์ เครือข่ ายคอมพิวเตอร์
Slide 3
Slide 4
• ผูส้ ่ ง(sender)
• ผูร้ ับ (Receiver)
• ข่าวสาร(message)
• ตัวกลาง(Media)
• โพรโทคอล(protocal) เป็ นข้อตกลงร่ วมกันในการสื่ อสาร
Slide 5
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็ นการ
นาเครื่องคอมพิวเตอร์ต้งั แต่ 2
เครื่องขึ้ นไปมาเชื่อมต่อโดย
ผ่านตัวกลางในการสื่อสาร
ข่าวสาร(message)
ตัวกลาง(Media)
ผูส้ ่ ง(sender)
โพรโทคอล(protocal) คือภาษาที่ใช้
ผูร้ ับ (Receiver)
Slide 6
ช่ วงเวลา
สมัยโบราณ
พัฒนาการของการสื่ อสาร
การส่ งข้อความระยะไกลต้องอาศัยคนนาสาร สัญญาณควันไฟ หรื อ
นกพิราบสื่ อสาร
Slide 7
ช่วงเวลา
พ.ศ.2379
พัฒนาการของการสื่อสาร
เซมมัวล์ มอร์ส(Samuel Morse) คิดค้นรหัสมอร์ส นามาใช้
อย่างกว้างขวางและใช้ในการสื่อสารด้วยโทรเลข
Slide 8
ช่วงเวลา
พ.ศ.2419
พัฒนาการของการสื่อสาร
อเล็กซานเดอร์ เกรแฮมเบล(Alexander Graham Bell)
ประดิษฐ์โทรศัพท์ เพื่อการสื่อสารด้วยเสียงผ่านสายตัวนา
Slide 9
ช่วงเวลา
พ.ศ.2444
พัฒนาการของการสื่อสาร
กูกลิโกโม มาร์โคนี (Gugligomo Marconi) ทดลองส่งรหัส
มอร์สด้วยคลื่นวิทยุเพื่อการสื่อสารได้สาเร็จ
Slide 10
ช่วงเวลา
พ.ศ.2501
พัฒนาการของการสื่อสาร
สหรัฐอเมริกาส่งดาวเทียมเพื่อการสื่อสารขึ้ นสู่อวกาศ
Slide 11
ช่วงเวลา
พ.ศ.2512
พัฒนาการของการสื่อสาร
อินเทอร์เน็ ต
Slide 12
ช่วงเวลา
พ.ศ.2513
พัฒนาการของการสื่อสาร
การสื่อสารระหว่างเครื่องปลายทางที่อยูห่ า่ งไกลเข้ามายัง
คอมพิวเตอร์ศนู ย์กลางเพื่อประมวลผล
Slide 13
ช่วงเวลา
พ.ศ.2516
พัฒนาการของการสื่อสาร
การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ในระยะใกล้เพื่อทางานร่วมกัน
เข่น ระบบอีเทอร์เน็ ต(Ethernet) โทเค็นริง(Token ring)
Slide 14
ช่วงเวลา
พัฒนาการของการสื่อสาร
พ.ศ.2522
ระบบโทรศัพท์เซลลูลาร์(cellular phone) เริ่มมีใช้เป็ นครั้ง
แรกที่ประเทศญี่ปุ่น
Slide 15
ช่วงเวลา
พ.ศ.2530
พัฒนาการของการสื่อสาร
การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย
Slide 16
Slide 17
การนาเครื่องคอมพิวเตอร์ ต้งั แต่ สองเครื่องขึน้ ไป
มาเชื่อมต่ อกัน โดยผ่ านตัวกลางในการสื่ อสารเพือ่
แลกเปลีย่ นข้ อมูลระหว่ างกัน และใช้ ทรัพยากรของ
ระบบร่ วมกัน(resource sharing) ให้ เกิดประโยชน์
สู งสุ ด
Slide 18
1. ทาให้เกิดการทางานร่วมกันเป็ นกลุ่มและสามารถทางาน
กับระบบคอมพิวเตอร์ได้พร้อมกัน
2.ส่งเสริมการใช้งานข้อมูลร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและ
ผลกาไรให้กบั องค์กร
3. สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้คมุ ้ ค่า เช่น แบ่งกันใช้ไฟล์ขอ้ มูล ใช้
เครื่องพิมพ์(printer) และอุปกรณ์ที่มีราคาแพงร่วมกัน
4. ทาให้ลดต้นทุน เพราะสามารถพัฒนาระบบให้เหมาะสมกับ
หน่วยงานได้
Slide 19
แบ่งตามขนาดบริเวณพื้นที่การบริการ
Slide 20
1. เครือข่ายส่วนบุคคล หรือ แพน(Personal Area Network :PAN)
2. เครือข่ายเฉพาะที่ หรือ แลน(Local Area Network :LAN)
3. เครือข่ายนครหลวง หรือ แมน(Metropolitan Area Network :MAN)
4. เครือข่ายบริเวณกว้าง หรือ แวน(Wide Area Network :PAN)
Slide 21
เป็ นการเชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่ใช้
ในปั จจุบนั คือ แพนไร้สาย (Wireless PAN:
WPAN) มีการใช้งานแพร่หลาย ระยะไม่เกิน 10
เมตร
เช่น ใช้เทคโนโลยีบลูทูธ(Bluetooth
technology) เชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่กบั หูฟัง
และไมโครโฟนไร้สาย ใช้คลื่นวิทยุเชื่อมต่อเครือ่ ง
คอมพิวเตอร์กบั เมาส์ หรือคียบ์ อร์ดไร้สาย เชื่อมต่อ
เครือ่ งพิมพ์กบั โทรศัพท์เคลื่อนที่
Slide 22
Slide 23
เป็ นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ตา่ งๆ
ที่อยูบ่ ริเวณใกล้เคียงกัน หรือพื้นที่เดียวกัน เช่น
ภายในบ้าน ภายในอาคาร หรือภายในองค์กรที่
ระยะทางไม่ไกลมากนัก เป็ นเครือข่ายที่แต่ละ
องค์กรดูและและบริหารจัดการด้วยตนเอง
Slide 24
ขอบเขตของแลน ภายในห้องเดียวกัน ระหว่าง
ห้อง หรือระหว่างอาคาร เช่น ภายในโรงเรียน
ภายในบริษัท ในระยะไม่เกิน 100 เมตร
Slide 25
เทคโนโลยีแลนที่นิยมในปั จจุบนั เช่น อีเทอร์เน็ต
สามารถรองรับการสื่อสารด้วยความเร็วสูงมาก
ตั้งแต่ 10 เมกะบิตต่อวินาทีข้ ึนไป มีความ
ผิดพลาดในการสื่อสารต ่า สามารถรับส่งข้อมูล
ปริมาณมาก
Slide 26
Slide 27
ปั จจุบนั มีแลนแบบไร้สาย(Wireless LAN:
WLAN) ได้รบั ความนิยมเนื่องจากสะดวกใน
การวางระบบ ไม่ตอ้ งอาศัยสายสัญญาณ ใช้
เทคโนโลยีไวไฟ(WiFi technology)
สามารถสื่อสารได้สูงกว่า 10 เมกะบิตต่อวินาที
ครอบคลุมรัศมี 100 เมตรในอาคาร หรือ 500
เมตรภายนอกอาคาร
Slide 28
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรือแลนหลาย
เครือข่าย ที่ต้งั อยูบ่ ริเวณไม่ไกล ภายในเมือง
เดียวกันเข้าด้วยกัน ในระยะไม่เกิน 1000 เมตร
หรือ 1 กิโลเมตร เช่น แลนของหน่วยงาน
เดียวกันที่ตง้ั อยูใ่ นบริเวณต่าง ๆ ของเมือง
เดียวกัน โดยอาจใช้สายไฟเบอร์ออปติก หรือ
แบบไร้สาย เช่น วิทยาเขตของมหาวิทยาลัย
Slide 29
เป็ นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระบบ
คอมพิวเตอร์ในระยะห่างไกล เช่น ระหว่าง
จังหวัด ระหว่างประเทศ ระหว่างทวีป การสร้าง
แวนจึงต้องพึ่งพาระบบบริการเครือข่าย
สาธารณะ เช่น วงจรสื่อสารผ่านดาวเทียม
Slide 30
เทคโนโลยีที่ใช้กบั แวน มีท้งั แบบไร้สายและแบบ
ใช้สายนาสัญญาณ เช่น ช่องสัญญาณดาวเทียม
คลื่นไมโครเวฟ คลื่นวิทยุ สายเคเบิ้ลที่วางตาม
ถนนและวางใต้ทอ้ งทะเล
อินเทอร์เน็ต เป็ นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันทั ่วโลก
และเป็ นเครือข่ายแวน
Slide 31
แบ่งตามลักษณะการให้บริการ
Slide 32
1. เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ(Client-server network)
2. เครือข่ายระดับเดียวกัน (Peer to Peer network :P2P)
Slide 33
• เป็ นเครือข่ายที่มีเครื่องบริการ(Server) ที่มี
ประสิทธิภาพและความเร็วสูง สามารถให้บริการ
เครือ่ งรับบริการหลายเครื่องในเวลาเดียวกัน ทาให้
สะดวกในการบริหารจัดการ บารุงรักษาทรัพยากร
ของระบบ เช่น เครื่องบริการไฟล์(File server)
เครื่องบริการเมล(Mail Server)
Slide 34
Slide 35
• เป็ นเครือข่ายที่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถทา
หน้าที่ได้ท้งั เป็ นเครือ่ งรับและให้บริการได้ใน
ขณะเดียวกัน และสามารถใช้ทรัพยากรของเครื่อง
อื่นได้อย่างเท่าเทียมกัน
Slide 36
โดย ครูดลลดา สังฆสุวรรณ
โรงเรียนสงวนหญิง จังหวัดสุพรรณบุรี
Slide 2
• อธิบายพัฒนาการของการติดต่ อสื่ อสาร
• อธิบายชนิดของเครือข่ ายคอมพิวเตอร์
• อธิบายลักษณะตัวกลางของการสื่ อสารในเครือข่ าย
คอมพิวเตอร์
• อธิบายลักษณะอุปกรณ์ เครือข่ ายคอมพิวเตอร์
• บอกประโยชน์ เครือข่ ายคอมพิวเตอร์
Slide 3
Slide 4
• ผูส้ ่ ง(sender)
• ผูร้ ับ (Receiver)
• ข่าวสาร(message)
• ตัวกลาง(Media)
• โพรโทคอล(protocal) เป็ นข้อตกลงร่ วมกันในการสื่ อสาร
Slide 5
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็ นการ
นาเครื่องคอมพิวเตอร์ต้งั แต่ 2
เครื่องขึ้ นไปมาเชื่อมต่อโดย
ผ่านตัวกลางในการสื่อสาร
ข่าวสาร(message)
ตัวกลาง(Media)
ผูส้ ่ ง(sender)
โพรโทคอล(protocal) คือภาษาที่ใช้
ผูร้ ับ (Receiver)
Slide 6
ช่ วงเวลา
สมัยโบราณ
พัฒนาการของการสื่ อสาร
การส่ งข้อความระยะไกลต้องอาศัยคนนาสาร สัญญาณควันไฟ หรื อ
นกพิราบสื่ อสาร
Slide 7
ช่วงเวลา
พ.ศ.2379
พัฒนาการของการสื่อสาร
เซมมัวล์ มอร์ส(Samuel Morse) คิดค้นรหัสมอร์ส นามาใช้
อย่างกว้างขวางและใช้ในการสื่อสารด้วยโทรเลข
Slide 8
ช่วงเวลา
พ.ศ.2419
พัฒนาการของการสื่อสาร
อเล็กซานเดอร์ เกรแฮมเบล(Alexander Graham Bell)
ประดิษฐ์โทรศัพท์ เพื่อการสื่อสารด้วยเสียงผ่านสายตัวนา
Slide 9
ช่วงเวลา
พ.ศ.2444
พัฒนาการของการสื่อสาร
กูกลิโกโม มาร์โคนี (Gugligomo Marconi) ทดลองส่งรหัส
มอร์สด้วยคลื่นวิทยุเพื่อการสื่อสารได้สาเร็จ
Slide 10
ช่วงเวลา
พ.ศ.2501
พัฒนาการของการสื่อสาร
สหรัฐอเมริกาส่งดาวเทียมเพื่อการสื่อสารขึ้ นสู่อวกาศ
Slide 11
ช่วงเวลา
พ.ศ.2512
พัฒนาการของการสื่อสาร
อินเทอร์เน็ ต
Slide 12
ช่วงเวลา
พ.ศ.2513
พัฒนาการของการสื่อสาร
การสื่อสารระหว่างเครื่องปลายทางที่อยูห่ า่ งไกลเข้ามายัง
คอมพิวเตอร์ศนู ย์กลางเพื่อประมวลผล
Slide 13
ช่วงเวลา
พ.ศ.2516
พัฒนาการของการสื่อสาร
การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ในระยะใกล้เพื่อทางานร่วมกัน
เข่น ระบบอีเทอร์เน็ ต(Ethernet) โทเค็นริง(Token ring)
Slide 14
ช่วงเวลา
พัฒนาการของการสื่อสาร
พ.ศ.2522
ระบบโทรศัพท์เซลลูลาร์(cellular phone) เริ่มมีใช้เป็ นครั้ง
แรกที่ประเทศญี่ปุ่น
Slide 15
ช่วงเวลา
พ.ศ.2530
พัฒนาการของการสื่อสาร
การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย
Slide 16
Slide 17
การนาเครื่องคอมพิวเตอร์ ต้งั แต่ สองเครื่องขึน้ ไป
มาเชื่อมต่ อกัน โดยผ่ านตัวกลางในการสื่ อสารเพือ่
แลกเปลีย่ นข้ อมูลระหว่ างกัน และใช้ ทรัพยากรของ
ระบบร่ วมกัน(resource sharing) ให้ เกิดประโยชน์
สู งสุ ด
Slide 18
1. ทาให้เกิดการทางานร่วมกันเป็ นกลุ่มและสามารถทางาน
กับระบบคอมพิวเตอร์ได้พร้อมกัน
2.ส่งเสริมการใช้งานข้อมูลร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและ
ผลกาไรให้กบั องค์กร
3. สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้คมุ ้ ค่า เช่น แบ่งกันใช้ไฟล์ขอ้ มูล ใช้
เครื่องพิมพ์(printer) และอุปกรณ์ที่มีราคาแพงร่วมกัน
4. ทาให้ลดต้นทุน เพราะสามารถพัฒนาระบบให้เหมาะสมกับ
หน่วยงานได้
Slide 19
แบ่งตามขนาดบริเวณพื้นที่การบริการ
Slide 20
1. เครือข่ายส่วนบุคคล หรือ แพน(Personal Area Network :PAN)
2. เครือข่ายเฉพาะที่ หรือ แลน(Local Area Network :LAN)
3. เครือข่ายนครหลวง หรือ แมน(Metropolitan Area Network :MAN)
4. เครือข่ายบริเวณกว้าง หรือ แวน(Wide Area Network :PAN)
Slide 21
เป็ นการเชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่ใช้
ในปั จจุบนั คือ แพนไร้สาย (Wireless PAN:
WPAN) มีการใช้งานแพร่หลาย ระยะไม่เกิน 10
เมตร
เช่น ใช้เทคโนโลยีบลูทูธ(Bluetooth
technology) เชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่กบั หูฟัง
และไมโครโฟนไร้สาย ใช้คลื่นวิทยุเชื่อมต่อเครือ่ ง
คอมพิวเตอร์กบั เมาส์ หรือคียบ์ อร์ดไร้สาย เชื่อมต่อ
เครือ่ งพิมพ์กบั โทรศัพท์เคลื่อนที่
Slide 22
Slide 23
เป็ นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ตา่ งๆ
ที่อยูบ่ ริเวณใกล้เคียงกัน หรือพื้นที่เดียวกัน เช่น
ภายในบ้าน ภายในอาคาร หรือภายในองค์กรที่
ระยะทางไม่ไกลมากนัก เป็ นเครือข่ายที่แต่ละ
องค์กรดูและและบริหารจัดการด้วยตนเอง
Slide 24
ขอบเขตของแลน ภายในห้องเดียวกัน ระหว่าง
ห้อง หรือระหว่างอาคาร เช่น ภายในโรงเรียน
ภายในบริษัท ในระยะไม่เกิน 100 เมตร
Slide 25
เทคโนโลยีแลนที่นิยมในปั จจุบนั เช่น อีเทอร์เน็ต
สามารถรองรับการสื่อสารด้วยความเร็วสูงมาก
ตั้งแต่ 10 เมกะบิตต่อวินาทีข้ ึนไป มีความ
ผิดพลาดในการสื่อสารต ่า สามารถรับส่งข้อมูล
ปริมาณมาก
Slide 26
Slide 27
ปั จจุบนั มีแลนแบบไร้สาย(Wireless LAN:
WLAN) ได้รบั ความนิยมเนื่องจากสะดวกใน
การวางระบบ ไม่ตอ้ งอาศัยสายสัญญาณ ใช้
เทคโนโลยีไวไฟ(WiFi technology)
สามารถสื่อสารได้สูงกว่า 10 เมกะบิตต่อวินาที
ครอบคลุมรัศมี 100 เมตรในอาคาร หรือ 500
เมตรภายนอกอาคาร
Slide 28
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรือแลนหลาย
เครือข่าย ที่ต้งั อยูบ่ ริเวณไม่ไกล ภายในเมือง
เดียวกันเข้าด้วยกัน ในระยะไม่เกิน 1000 เมตร
หรือ 1 กิโลเมตร เช่น แลนของหน่วยงาน
เดียวกันที่ตง้ั อยูใ่ นบริเวณต่าง ๆ ของเมือง
เดียวกัน โดยอาจใช้สายไฟเบอร์ออปติก หรือ
แบบไร้สาย เช่น วิทยาเขตของมหาวิทยาลัย
Slide 29
เป็ นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระบบ
คอมพิวเตอร์ในระยะห่างไกล เช่น ระหว่าง
จังหวัด ระหว่างประเทศ ระหว่างทวีป การสร้าง
แวนจึงต้องพึ่งพาระบบบริการเครือข่าย
สาธารณะ เช่น วงจรสื่อสารผ่านดาวเทียม
Slide 30
เทคโนโลยีที่ใช้กบั แวน มีท้งั แบบไร้สายและแบบ
ใช้สายนาสัญญาณ เช่น ช่องสัญญาณดาวเทียม
คลื่นไมโครเวฟ คลื่นวิทยุ สายเคเบิ้ลที่วางตาม
ถนนและวางใต้ทอ้ งทะเล
อินเทอร์เน็ต เป็ นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันทั ่วโลก
และเป็ นเครือข่ายแวน
Slide 31
แบ่งตามลักษณะการให้บริการ
Slide 32
1. เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ(Client-server network)
2. เครือข่ายระดับเดียวกัน (Peer to Peer network :P2P)
Slide 33
• เป็ นเครือข่ายที่มีเครื่องบริการ(Server) ที่มี
ประสิทธิภาพและความเร็วสูง สามารถให้บริการ
เครือ่ งรับบริการหลายเครื่องในเวลาเดียวกัน ทาให้
สะดวกในการบริหารจัดการ บารุงรักษาทรัพยากร
ของระบบ เช่น เครื่องบริการไฟล์(File server)
เครื่องบริการเมล(Mail Server)
Slide 34
Slide 35
• เป็ นเครือข่ายที่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถทา
หน้าที่ได้ท้งั เป็ นเครือ่ งรับและให้บริการได้ใน
ขณะเดียวกัน และสามารถใช้ทรัพยากรของเครื่อง
อื่นได้อย่างเท่าเทียมกัน
Slide 36