ppt . เนื้อหาการอบรม.

Download Report

Transcript ppt . เนื้อหาการอบรม.

การประเมินการเรียนรู ้
ตามสภาพจริง
การออกแบบการว ัดและ
ประเมินผล
การกาหนดเกณฑ
์การ
วันที่ 25 มิถน
ุ ายน 2552
ณ ห้องประชุม
ประเมิ
น
Rubrics
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
สพท.เพชรบุร ี เขต 1
โดย...ผู ช
้ ว
่ ยศาสตราจารย ์ ดร.มา
เรียม นิ ลพันธุ ์
คณะศึกษาศาสตร ์ มหาวิทยาลัย
้ ด
ตัวชีวั
ของการอบรมว ันนี ้
่
1.รู ้ เข้าใจ เรืองการวั
ดและ
ประเมินผลตามหลักสู ตร
้ นฐาน
้
แกนกลางการศึกษาขันพื
พุทธศ ักราช 2551
2. รู ้ เข้าใจการประเมินการเรียนรู ้
ตามสภาพจริง
[email protected]
แนวปฎิบต
ั ก
ิ ารวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู ้
หลักสู ตรแกนกลาง
การศึกษา
้
้
ขันพืนฐาน
พุทธศ ักราช ๒๕๕๑
แนวปฏิบ ัติการวัดและ
ประเมิเปรี
นผลการเรี
ย
น
ยบเทียบการวัดและ
ประเมินผล
ยน
ตามผลการเรียตามมาตรฐานการเรี
นรู ้
้
่
และตัวชี
วั
ด
ทีคาดหวัง
สพฐ.กาหนดเกณฑ ์แกนก
สถานศึกษา
กาหนด เป็ นข้อกาหนดอย่างน้อ
หลักสู ตรฯ 51 เกิดผลดีกบั
ผู เ้ รียนอย่างไร
?
แก้ไขพัฒนา
การตรวจสอบ
ผู เ้ รียนได้
คุณภาพ
ลดภาระงาน
มีความ
ช ัดเจน
่
เรือง
เอกสารรายงานผล
สะดวกในการ
ตาม
เทียบโอน
ศ ักยภาพ
ระหว่
าง
สถานศึกษา
หลักสู ตรแกนกลาง๕๑กาหนดอะไร
กับการวัดและประเมินผลการเรียน
่ ฒนาการเรีย
การประเมินเพือพั
้
ลักการพืนฐานของ
วัดและประเมินผลการเรียนรู ้
่
การประเมินเพือตัดสิ
นผลการเร
สู ตรแกนกลาง๕๑กาหนดอ
่
เกียวก
ับการว ัดและประเมินผลการเรียน (ต่อ
หลักสู ตรแกนกลางกาหนดอะไร
ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียน
พั
ฒ
นาผู
เ
้
รี
ย
นเต็
ม
ศ
ักยภาพ
ภาระความร ับผิดชอบ
ในการพัฒนาผู เ้ รียตอบสนองตามความแตกต่
น
า
้
ระหว่างบุคคล
บนพืนฐาน
ของข้อมู ลการประเมิน ทันท่วงที
หลักสู ตรแกนกลางกาหนดอะไร
ารวัดและประเมินผลการเรียน (ต่อ)
การตัดสิน การให้ระดับ
และการรายงานผลการเรียน
เกณฑ ์การวัด การเลือนช
้ั
้ น
้ั
่
าช
นและการซ
และ
ระเมินผลการเรียน
เกณฑ ์การจบการศึกษ
หลักสู ตรแกนกลางกาหนดอะไร
วกับการวัดและประเมินผลการเรียน (ต
เอกสาร
ระเบียนแสดงผลการเรียน ปพ
ประกาศนี ยบัตร ปพ.2
หลักฐานการศึกษา
แบบรายงานผู ส
้ าเร็จการศึกษา ป
หลักสู ตรแกนกลางกาหนดอะไร
การวัดและประเมินผลการเรียน (ต่อ)
การเทียบโอนผลการเรียน
การจัดทาระเบียบว่าด้วยการวด
ั แล
ระเมินผลการเรียนของสถานศึกษ
วิธก
ี ารและ
่ อ
เครื
องมื
มาตรฐานเดียวกัน
การใช้ผลการ
ประเมิ
น
กาหนดนโย
่
เพื
อการต
ัดสิ
น
ใจ
ข้อสอบมาตรฐาน ระด ับชาติ
จัดสรรทร ัพ
่ ร ับมอบหมาย ยกระดับคุณภาพ
โดยหน่ วยงานทีได้
•ข้อสอบมาตรฐาน(ครู จ ัดทา) พัฒนาคุณภาพการศึก
ระด
ับ
•ตรวจสอบทบทวนคุณภาพ
ประเมินคุณภาพกา
ระดับการ
สพท.
ระด ับ
สถานศึ
กษ
ประเมิ
น
า
้ั
•ประเมินคุณภาพผู เ้ รียนทุกชน
•เก็บ/วิเคราะห ์ข้อมู ลหลักสู ตร
โครงการจ ัดการเรียนการสอน
•เป็ นทางการ/ไม่เป็ นทางการ
้ั ยน
•ประเมินผลย่อย/รวม
ระดับชนเรี
•ประเมินสภาพจริง/การปฏิบต
ั ิ
•การทดสอบ,ประเมินตนเอง
พัฒนาคุณภาพส
ประกันคุณภาพ
ข้อมู ลย้อนก
•ปร ับปรุง/พัฒนา
•ปร ับการสอน
•ต ัดสินผลการเร
่
•สือสารก
ับผู ป
้ กค
โครงการ
่
สนับสนุ นเพือให้
ผูเ้ รียน
้ั ยน
ได้พฒ
ั นาเต็มศ ักยภาพ
•ระดับชนเรี
้
•สถานศึกษา
บนพืนฐานความ
้ ่
•เขตพืนที
แตกต่างระหว่า่ งบุคคล
1. กลุ่มเด็กน
ทีมีผลการ
ดาเนิ
นงานวัดและประเมิ
•ชาติ
ับผู เ้ รียนกลุ่มต่าง
วัด/ประเมิน่ ด้วย สาหร
พรสวรรค
์
ที
เป็
นมาตรฐาน
ๆ
่
วิธก
ี ารทีหลากหลาย
์
การวัดและ
ประเมินผล
2. กลุ่มผลสัมฤทธิ
ทาง
่
การเรี
ย
นต
า
การนาผล
ั
การประเมินไปใช้ 3. กลุ่มปั ญหาวินย
และ
่
ฒนา
การวัดและการประเมินเพือการพั
คุณภาพผู เ้ รียน
หลังการพัฒนา
ระหว่างกระบวนการพัฒนา
ก่อนพัฒนา
่ องการ
คุณภาพทีต้
่ องการ
คุณภาพทีต้
่ องการ
คุณภาพทีต้
่ ตอ
ลักษณะทีไม่
้ งก
การตัดสินผลการเรียน
ลาเรียน 80%
อ่านคิดวิเคราะห ์แ

 คุณลักษณะอ ันพ
 กิจกรรมพัฒนาผ
ทุ
ก
รายวิ
ช
า
้
ตัวชีวัด
ได้ร ับการตัดสิน
การให้ระด ับผลการเรียนรายวิชา
ประถมศ ึ
กษา
ม ัธยมศ ึ
กษา
ให้ระด ับผลการ
เรียนเป็น
ให้ระด ับผลการ
• ระบบต ัวเลข
เรียนเป็น
• ระบบต ัวอ ักษร ระบบต ัวเลข
• ระบบร้อยละ
้ า
• ระบบทีใ่ ชค
8 ระด ับ
การให้ระด ับผลการเรียน
การอ่าน คิด
วิเคราะห์
และเขี
ย
น
และ คุณล ักษณะทีพ
่ งึ ประสงค์
ึ ษาและ
ระด ับประถมศก
ึ ษา
ม
ัธยมศ
ก
ระด ับการ
ประเมิน ่
ดีเยียม
ดี
ผ่าน
ไม่ผา
่ น
การให้ระด ับผลการเรียน
กิจกรรมพ ัฒนาผูเ้ รียน
ึ ษาและ
ระด ับประถมศก
ึ
ม
ัธยมศ
ก
ษา
ระด ับการ
ประเมิน
ผ่าน
ไม่
แนวทางการสง่ เสริม
และประเมิน
คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์(๘)
ึ ษา
ของสถานศก
กระบวนการ
ปลู กฝั งผ่านกลุ่ม
สาระและ
ไทย
กิจกรรม
คณิ ต
วิทย ์
สุข-พละ
สังคมฯ
การงานเทคโน
ศิลปะ
ภาษาต่างประเท
ศ
ชมรม/ชุมนุ ม
โครงการ/
กิจกรรม
คุณลักษณะอ ันพึง
ประสงค ์
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
้ อน/ครู ทรี่ ับผิดชอบโครงการ/
ครู ผูส
กิจกรรมส่งระด ับการประเมินตาม
่
กษากาหนด
เกณฑ ์ทีสถานศึ
รู ปแบบที่ 1
ครู
วัดผ
ล
ประมว
ลผล
โดยใช้
ฐาน
นิ ยม
อนุ มต
ั ิ
รู ปแบบที่ 2
วิทย ์
สุข-พละ
สังคมฯ
การงานอาชีพฯ
ศิลปะ
ภาษาต่างประเทศ
ชมรม/ชุมนุ ม
โครงการ/กิจกรรม
เลือกคุณลักษณะอน
ั
พึงประสงค ์ที่
1 2สอดคล้
3 4 อ5งกั6บสาระ
7 8
้
วิชา/ตวั ชีวัด
2 3 4 5 6 7 8
2 3 4 5 6
8
2 3 4
6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
2 3 4
6
8
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5 6 7 8
ครู
วัดผ
ล
ประมวล
โดยคณะกรรมการ
ประเมิ
งระดับการ
้ นอนส่
ผูส
ครู
ประเมิน
ประเมิน
กระบวนการ
ปลู กฝั งผ่านกลุ่ม
สาระและ
ไทย
กิจคณิ
กรรม
ต
ผลโดย
ใช้
ฐาน
นิ ยม
อนุ มต
ั ิ
สังคมฯ
การงานเทคโน
ศิลปะ
ภาษาต่างประเ
ทศ
ชมรม/ชุมนุ ม
โครงการ
คุณลักษณะอ ันพึง
ประสงค ์
1 2 3 4 5 6 7 8
้ั
ครู ประจาชน
และหรือครู
ประจาวิชา
ประเมินหรือ
ร่วมกัน
ประเมิน
ดชอบ
นัครู
กผ
เรีู ร้ ยับผิ
นทุ
กคน
ส่งเสริมและ
ทุกข้อ
ั ิ
อนุ มต
กระบวนการ
ปลู กฝั งผ่านกลุ่ม
สาระและ
ไทย
กิจกรรม
คณิ ต
วิทย ์
สุข-พละ
้ั
ประดับ
ครู ประจาชนสรุ
คุณภาพตามสภาพจริง
รู ปแบบที่ 3
การรายงานผลการ
เรียน
ต้องสรุปผลการเรียน
รายงานให้ผูป
้ กครอง
ทราบความก้าวหน้า
• เป็ นระยะ ๆ หรือ
้
• ภาคเรียนละ 1 ครงั
เกณฑ ์การจบระด ับ
ประถมศึ
ก
ษา
่ กสู ตรแกนกลาง
• เรียนตามโครงสร ้างเวลาเรียนทีหลั
้ นฐานก
้
การศึกษาขันพื
าหนด
้
านเกณฑ ์
• ผลการประเมินรายวิชาพืนฐานผ่
่
ทีสถานศึ
กษากาหนด
• ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห ์และเขียนผ่าน
่
เกณฑ ์ทีสถานศึ
กษากาหนด
• ผลการประเมินเมินคุณลักษณะอ ันพึงประสงค ์ผ่าน
เกณฑ ์การจบระดับ
มัธยมศึกษาตอนต้น
้
่
• เรียนรายวิชาพืนฐานและเพิ
มเติ
มไม่เกิน 81 หน่ วย
้
กิต โดยเป็ นรายวิชาพืนฐาน
63 หน่ วยกิตและ
่
่
รายวิชาเพิมเติ
มตามทีสถานศึ
กษากาหนด
• ต้องได้หน่ วยกิตตลอดหลักสู ตรไม่น้อยกว่า 77
้
หน่ วยกิต โดยเป็ นรายวิชาพืนฐาน
63 หน่ วยกิต
่
และรายวิชาเพิมเติ
มไม่น้อยกว่า 14 หน่ วยกิต
• ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห ์และเขียนผ่าน
่
เกณฑ ์การจบระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย
้
่
• เรียนรายวิชาพืนฐานและเพิ
มเติ
มไม่น้อยกว่า 81
้
หน่ วยกิต โดยเป็ นรายวิชาพืนฐาน
39 หน่ วยกิต
่
่
และรายวิชาเพิมเติ
มตามทีสถานศึ
กษากาหนด
• ต้องได้หน่ วยกิตตลอดหลักสู ตรไม่น้อยกว่า 77
้
หน่ วยกิต โดยเป็ นรายวิชาพืนฐาน
39 หน่ วยกิต
่
และรายวิชาเพิมเติ
มไม่น้อยกว่า 38 หน่ วยกิต
• ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห ์และเขียนผ่าน
เอกสารหลักฐานการศึกษา
• เอกสารหลักฐานการศึกษาที่
กระทรวงศึกษาธิการกาหนด
– ระเบียนแสดงผลการเรียน
– ประกาศนี ยบัตร
– แบบรายงานผู ส
้ าเร็จการศึกษา
• เอกสารหลักฐานการศึกษาที่
การเทียบโอนผลการเรียน
• ดาเนิ นการในช่วงก่อนเปิ ดภาคเรียนแรก หรือต้น
ภาคเรียนแรก
• ผู เ้ รียนต้องศึกษาต่อเนื่องในสถานศึกษาทีร่ ับเทียบ
โอนอย่างน้อย 1 ภาคเรียน
• การเทียบโอนควรกาหนดรายวิชา/จานวนหน่ วยกิ
่
ตทีจะร
ับเทียบโอนตามความเหมาะสม
• การพิจารณาการเทียบโอน ให้ดาเนิ นการ ดังนี ้
– พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสาร
่ ๆ
อืน
อกาหนดด้านการวัดสู ่การปฏิบต
ั ไิ ด้อย
ความคิดร่วม
่ กสู ต
เป้ าหมายทีหลั
ขณะนี ้ รร.อยู ่ ณ
การนาสู ่การปฏิบต
ั ิ
• จัดทานโยบาย รู ปแบบการว ัดและประเมินผลการ
เรียนรู ้สถานศึกษา
้
• กาหนดเกณฑ ์การประเมิน การผ่านต ัวชีวัด
• จัดทาแนวปฏิบต
ั แ
ิ ละเกณฑ ์การประเมิน การอ่าน
คิดวิเคราะห ์และเขียน คุณลักษณะอ ันพึงประสงค ์
กิจกรรมพัฒนาผู เ้ รียน
• กาหนดกระบวนการตัดสินผลการเรียน
่
้ั การ
• กาหนดแนวปฏิบต
ั ก
ิ ารอนุ มต
ั ก
ิ ารเลือนช
น
่
้ั
้ น
้ั ฯลฯ
เลือนช
นระหว่
างปี การซาช
นักเรียน
1
ไม่
ผ่าน
2
วด
ั ผลภาคเรียนที่
1
ผ่าน
เวลาเรียน
ไม่ครบ
เหตุไม่สมควร
4
ครบ
เหตุสุดวิสย
ั
3
1. กระบวนการ
จัดการเรียนรู ้
และประเมินผล
ระหว่
างเรียน
2. กระบวนการสอน
ซ่อมเสริม
และประเมินผล
3. กรรมการ
พิจารณา ้ ้
4. เรียนซาชน
ั
1
ไม่ผ่าน ปลายปี
2
ผ่าน
ได้ผลการเรียน
่
้ั
้ั
เลือนช
น/จบระด
บ
ั ชน
้ั
แผนภู มแ
ิ สดงการประเมินผลการเรียนของนักเรียนระดบ
ั ชน
1. กระบวนการ
จัดการเรียนรู ้
และประเมินผล
ระหว่
างเรียน
2. - กระบวนการสอน
ซ่อมเสริม
- เงื่อนไข/เกณฑ ์
3. กระบวนการแก้
“0” สอบแก้ตวั 2 ครง้ั
ไม่
่านเรียนซา้
4. ผกระบวนการแก้
รายวิ
า
“ร” ช
“มผ”
นักเรียน
1
2
ไม่ผ่าน
ผ่าน
ว ัดผลกลางภาค
1
และ “มส”
ครบ
ว ัดผลปลายภาค
“ร”
4
ได้ระดับผลการ
เรียน 1-4
่
้ั
เลือนช
นจบ
้ั
ระดับชน
เวลาเรียน
ไม่ครบ
0
3
“มผ”
“มส”
4
4
้ั
แผนภู มแ
ิ สดงการประเมินผลการเรียนของนักเรียนระดบ
ั ชน
ได ้ “๐”
แก ้ “ร”
ได ้ “๑”
แก ้ตัวได ้อีก ๑ ครงั้
ผ่าน
ไม่แก ้
“ร”
ภายใน
๑ ภาค
เรียน
ไม่เข ้าวัดผลปลายภาค
ได ้ “๑”
ได ้ “๐”
สอนซ่อมเสริม/
สอบแก ้ตัว
ได ้ “๑”
สอบแก ้ตัว
ถ ้าจะแก ้ “๐”
่ าร ้อง
ยืนค
้ มเติ
่ ม
เรียนซาเพิ
เวลาเรียนครบ
ได ้ “๑-๔”
ได ้ “๐”
๖๐%<เวลาเรียน<๘๐%
ตัดสินผล
การเรียน
แก ้ “ร”
เรียบร ้อย
ไม่แก ้
“ร”
ภายใน
ภาค
เรียนนั้น
“ร” ไม่ใช่สุดวิสยั
ได ้ ๑
ได ้ “ร”
สอนซ่อมเสริม/สอบแก ้ตัว
ได ้ “๐”
“ร” สุดวิสยั
ได ้ ๑ - ๔
ได ้ “มส”
วัดผลปลาย
ภาคเรียน
ไม่อนุ ญาต
อนุ ญาต
ได ้ “ร”
ดุลยพินิจ
ผู ้บริหารสถานศึกษา
เห็นชอบ
ส่งงานไม่ครบ
เวลาเรียน < ๖๐%
มีเวลาเรียน ๘๐%
มีเวลาเรียน
ไม่ถงึ ๘๐%
ไม่แก ้
“มส”
ภายใน
ภาคเรียน
นั้น
วัดผลระหว่าง
ภาค
ไม่เข ้าสอบกลางภาค
เรียนซา้
เรียน
เรียนซา้
การประเมินผลการเรียนรู ้
ตามสภาพจริง
(Authentic
Assessment)
โดย...ผู ช
้ ว
่ ยศาสตราจารย ์ ดร.
มาเรียม นิ ลพันธุ ์
คณะศึกษาศาสตร ์
มหาวิทยาลัยศิลปากร
การประเมินผล (การ
ตัดสิน)
Evaluation
การประเมิ
น
(การตี
ค
า
่
(Judgement)
ข้อมู ล)
Assessment (Data
Interpretation)
การวัดผล (การเก็บรวบรวม
ข้อมู ล)
[email protected]
จุดมุ่งหมายการวัดและประเมินผ
วินิจฉัยการเรียนรู ้
่ ฒนา
1.เพือพั
ผู เ้ รียน
่ ดสินผล
2.เพือตั
การเรียน
Diagnostic assessment
ประเมินระหว่างการเรียน
การสอน
(Formative
สรุปผลการเรียนรู ้
assessment)
(Summative
assessment)
36
การประเมิน ( Assessment
คื
อ
อะไร
การประเมินทาง
)
การศึกษา คือ
กระบวนการเก็บข้อมู ล
ตีความ บันทึกและใช้
่
ข้อมู ลเกียวก ับคาตอบของ
่
นักเรียน ทีทาในภาระ
เมินการประเมิ
สรุปรวบยอดความรู
้ นระหว่
นผลการเรี
ยนรู
้ตามหลั
ก
ประเมิ
างการเรี
ยนการ
(Successful
Summative
Assessment )
( Formative Assessment)
นักเรียน
ประเมินระหว่างการเรียนการ
มินระหว่างการเรียนการสอน ( Formative Assessment)
( Formative Assessment)
3P :Product ผู เ้ รียนรู ้และสามารถ
ปฏิบต
ั อ
ิ ะไรได้
:Process ผู เ้ รียนมีวธ
ิ ก
ี ารเรียนรู ้อย่างไร
:Progress ผู เ้ รียนมีพฒ
ั นาการจากเดิม
บันทึก
แฟ้มผล
การ
เรียน
วิเคราะห ์
ผลการ
เรียนรู ้เดิม
จัดการ
เรียนรู ้
ตอบสนอง
ความแตกต่าง
ระหว่างบุคคล
ประเมินสรุป
ผลการเรียนรู ้
สังเกต ตรวจสอบ
ประเมินความก้าวหน้า
ใช้ขอ
้ มู ล :
- วางแผนและ
ประเมิน
- ให้ขอ
้ มู ล
ย้อนกลับ
วงจรการเรียนการสอน
กลุม
่ พัฒนาและส่งเสริมการวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู ้
่
วิธก
ี ารและเครืองมื
อประเมิน
การประเมินแบบเลือกคาตอบ
Selected responses
่
วิธก
ี ารและเครืองมื
อ
ประเมิน2 ประเภทหลัก
การประเมินแบบสร ้างคา
Constructed responses
40
การประเมินแบบเลือก
คาตอบ
่
ประเภทเครืองมือ
•
•
•
•
multiple choice
ถู ก-ผิด
จับคู ่
เติมคา
41
การประเมินแบบเลือก
คาตอบ (ต่อ)
ข้อดี
- เหมาะในการประเมินความรู ้
่
เกียวกับ
้
ข้อเท็จจริง แนวคิดพืนฐาน
่ ซ ับซ ้อน
ทักษะทีไม่
- ตรวจให้คะแนนรวดเร็ว
42
การประเมินแบบเลือก
(ต่อ)
ข้อคจาตอบ
า
กัด
ไม่เหมาะในการ
ประเมินทักษะการคิด
ระดับสู ง ซ ับซ ้อน การ
ประเมินจากสภาพจริง
43
การประเมินแบบสร ้างคาต
่
ประเภทเครืองมื
อ
-
เรียงความ
การเขียนสะท้อน
้
การตอบแบบสัน
แผนภู ม ิ กราฟ รายงานผลผลิต
การจัดแสดงผลงาน
(
แฟ้มสะสมงาน
Product
โครงการ
s)
44
การประเมินแบบสร ้างคาต
่
ประเภทเครืองมื
อ
- การพู ดนาเสนอ
-
การอ่านออกเสียง
การอ่านทานองเสนาะ
การปฏิบต
ั ิ
การโต้วาที การอภิ
ปราย
(Performances)
่
กิจกรรมทีแสดงออก
การแสดงดนตรี กีฬา
การวาดภาพ การสาธิต
กลุม
่ พัฒนาและส่งเสริมการวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู ้
45
การประเมินแบบสร ้าง
คาตอบ (ต่อ)
ข้อดี
ประเมินความสามารถใน
การนาความรู ้และทักษะไป
ใช้ในสถานการณ์ตา
่ งๆ
- เหมาะในการประเมิน
-
46
การประเมินแบบสร ้างคาต
ข้ออจจาากัด
การตรวจมีความ
กัด
ซ ับซ ้อน ต้องใช้
่
เกณฑ ์ทีช ัดเจน
่
เจาะจง และวัดได้ เพือ
47
การวัดและประเมินผล
ตามสภาพจริง
(Authentic Assessment)
ทิศทางใหม่ของการประเมิน
โดย...ผู ช
้ ว
่ ยศาสตราจารย ์ ดร.
มาเรียม นิ ลพันธุ ์
คณะศึกษาศาสตร
์
[email protected]
การประเมินผลการเรียนรู ้ตาม
สภาพจริง
(Authentic Assessment) คืออะไร
่ ดโอกาสให้
กระบวนการประเมินทีเปิ
ผู เ้ รียนได้ปฎิบต
ั งิ านในชิวต
ิ จริงโดยใช้
่
เทคนิ ควิธก
ี ารประเมินทีหลากหลาย
มี
การตัดสินโดยการใช้เกณฑ ์หรือ
้
มาตรฐานเป็ นตัววัด ตังแต่
การใช้
[email protected]
่ รป
เป็ นการประเมินทีมี
ู แบบ
หลากหลาย ไม่เฉพาะเจาะจง
่
่
้
ในเรืองใดเรื
องของผู
เ้ รียน ทังการ
แสดงออก การจัด
ระบบความคิด การแสดงความคิดเห็น
อย่างมีวจ
ิ ารณญาณ การแก้ปัญหาทัง้
ภายในและภายนอก
ห้องเรียน ครู ผูส
้ อนจะประเมินโดยการ
สังเกต บันทึก รวบรวมข้อมู ลจากงาน
่ เ้ รียนทา
และวิธก
ี ารทีผู
[email protected]
เป็ นการวัดและประเมินผล
กระบวนการทางานในด้านสมอง
การคิดและจิตใจของผู เ้ รียนอย่าง
่ ผู
่ เ้ รียนกระทา
ตรงไปตรงมาตามสิงที
โดยพยายามตอบคาถามว่า ผู เ้ รียน
้
ทาอย่างไร และทาไมจึงทาอย่างนัน
การได้ขอ
้ มู ลว่า “เขาทาอย่างไร”
และ “เขาทาทาไม”จะช่วยให้ผูส
้ อน
[email protected]
ความสามารถและท ักษะต่างๆ
่
ของผู เ้ รียนในสภาพทีสอดคล้
อง
่
กับชีวต
ิ จริง โดยใช้เรืองราว
เหตุการณ์ สภาพจริง หรือคล้าย
่
จริงทีประสบในชี
วต
ิ ประจาวัน เป็ น
่ ้าให้ผูเ้ รียนตอบสนอง โดย
สิงเร
การแสดงออก ลงมือกระทา หรือ
ผลิต จากกระบวนการทางาน
่
่
ตามทีคาดหวั
ง และผลผลิตทีมี
[email protected]
เป็ นการประเมินจากการ
ปฏิบต
ั งิ านหรือกิจกรรมอย่างใด
อย่างหนึ่ ง โดยงานหรือกิจกรรมที่
มอบหมายให้ผูป
้ ฏิบต
ั ิ จะเป็ นงาน
หรือสถานการณ์ทเป็
ี่ นจริง (Real
Life) หรือใกล้เคียงกับชีวต
ิ จริง จึง
่ สถานการณ์ซ ับซ ้อน
เป็ นงานทีมี
[email protected]
เป็ นการประเมิน การกระทา การ
แสดงออกหลายๆด้านของนักเรียน
ตามสภาพความเป็ นจริงทงใน
ั้ และ
นอกห้องเรียน มีลกั ษณะเป็ นการ
ประเมินแบบไม่เป็ นทางการ การ
ทางานของผู เ้ รียน ความสามารถ
ในการแก้ไขปั ญหาและการ
[email protected]
กระบวนการเรียนการสอน
Authentic Learning Outcomes
ผลลัพธ ์การเรียนรู ้ตามสภาพจริง
Authentic Assessment
รวัดและประเมินผลตามสภาพจริง
Authentic Learning
การเรียนการสอนตามสภาพจ
[email protected]
การประเมินแบบ
้ ม
ดังเดิ
• เน้นพฤติกรรม
้
พืนฐาน
• แยกการเรียนและ
การสอบออกจาก
กัน
การประเมินตาม
สภาพจริง
• เน้นพฤติกรรมที่
เป็ นความคิด
ซ ับซ ้อนและวิธก
ี าร
่ ในการเรียนรู ้
ทีใช้
• ไม่แยกการเรียน
และการสอบออก
จากกัน เปิ ดโอกาส
ให้การเรียนรู ้
[email protected]
การประเมินแบบ
้ ม
ดังเดิ
การประเมินตาม
สภาพจริง
่
่
• เชือในเรื
องตั
วเลข
่ จากการสอบ
ทีได้
ของผู เ้ รียน
่
่ ยน
• เชือในค
าทีเขี
บรรยายของ
ผู เ้ รียน
• ดึงการวัดออกจาก • การวัดถือเป็ นส่วน
บริบทของการ
หนึ่ งของ
เรียนการสอน
กระบวนการเรียน
การสอน[email protected]
• ครู เปรียบเสมือนผู ้
การประเมินแบบ
้ ม
ดังเดิ
การประเมินตาม
สภาพจริง
่
่
• เชือในการให้
• เชือในการ
ผู อ
้ นเป็
ื่
นผู ้
ประเมินของ
ประเมิน
ตนเอง
• มีเกณฑ ์
• มีเกณฑ ์
่ ง หลากหลาย
มาตรฐานเพือบ่
่
บอกความสาเร็จ
ตามสภาพเพือ
[email protected]
การประเมินแบบ
้ ม
ดังเดิ
การประเมินตาม
สภาพจริง
่ องคิ
่
่
่ อง
• ความเชือเรื
ด • ความเชือเรื
เอกนัย
คิดอเนกนัย คือ
มีคาตอบที่
หลากหลาย
• เน้นการประเมิน
โดยแยกทักษะ
• เน้นการประเมิน
โดยบู
ร
ณาการ
• เน้นรายวิชา
[email protected]
้ ม
การประเมินแบบดังเดิ
• วางแผนโดยยึด
พฤติกรรม
• สอนและสอบไป
ตามหัวข้อของ
้
เนื อหา
การประเมินตามสภาพจริง
่ ่
• วางแผนจากสิงที
นักเรียนอยากรู ้
และอยากทาใน
กรอบของหน่ วย
การเรียน
• สอนและสอบตาม
มาตรฐาน
่
[email protected]
้ ม
การประเมินแบบดังเดิ
- ภาระงานและ
กระบวนการถู ก
แบ่งเป็ น
ส่วนย่อย
- ให้นก
ั เรียน
ปฏิบต
ั งิ านโดย
ไม่ทราบ
จุดมุ่งหมายที่
การประเมินตามสภาพจริง
- ภาระงานและ
กระบวนการ
รวมอยู ่ดว้ ยกัน
- ให้นก
ั เรียน
ปฏิบต
ั งิ านโดยมี
จุดมุ่งหมายที่
ช ัดเจน
- ประเมินผล
[email protected]
้ ม
การประเมินแบบดังเดิ
- ครู เป็ นผู ป
้ ระเมิน
- ครู รู ้เกณฑ ์การ
ประเมินแต่ผูเ้ ดียว
- ประเมินผลเฉพาะ
ภาคความรู ้
การประเมินตามสภาพจร
- ผู ส
้ อน ผู เ้ รียน ผู ร้ ู ้
ผู ป
้ กครองเป็ นผู ้
ประเมิน
- ครู และนักเรียนรู ้
เกณฑ ์การประเมิน
ทัง้ 2 ฝ่าย
้
- ประเมินผลทังความรู
้
ความเข้าใจ และ
่
[email protected]
กระบวนการที
้ ม
การประเมินแบบดังเดิ
การประเมินตาม
- เน้นที่
พฤติกรรม
่
เดียว
- หยุดเรียน/
สอนในขณะ
ประเมิน
- ประเมินแคบ
สภาพจริง
- เน้นหลาย
พฤติกรรมและ
การใช้
ความคิด
- การเรียนการ
สอนดาเนิ นไป
[email protected]
้ั การประเมิ
นตาม
การประเมินแบบดงเดิ
ม
สภาพจริง
- ใช้ตวั เลข
- ใช้ขอ
้ ความ
่
- ใช้เครืองมื
อ
- ใช้วธ
ิ ก
ี าร
วิธก
ี ารเฉพาะ
ประเมินหลาย
แบบเดียว
ชนิ ด
่
- ความถีในการ
่
- ความถีในการ
ประเมิน1-2
ประเมินหลาย
้
ครงั
[email protected]
้ ม
การประเมินแบบดังเดิ
- ไม่เป็ นสภาพจริง
ของ
กระบวนการ
เรียนรู ้
- ครู อยู ่นอกระบบ
การประเมิน
- อาศ ัยการวัดและ
ประเมินจาก
การประเมินตาม
สภาพจริง
- เป็ นส่วนหนึ่ งของ
กระบวนการ
เรียนรู ้โดยปกติ
- ครู เป็ นส่วนหนึ่ ง
ของกระบวนการ
ประเมิน
- อาศ ัยการ
[email protected]
้ ม
การประเมินแบบดังเดิ
- ใช้เกณฑ ์มาตรฐาน
ตายตัว เป็ น
ตัวกาหนด
ความสาเร็จ
- ใช้วธ
ิ ค
ี ด
ิ ที่
เหมือนกันกับ
่ กต้อง
คาตอบทีถู
เพียงคาตอบเดียว
- จุดเน้นอยู ่ทการ
ี่
การประเมินตามสภาพจริง
่ ดหยุ่น
- ใช้เกณฑ ์ทียื
หลากหลาย
-อาศ ัยวิธค
ี ด
ิ และ
่ างกันได้
คาตอบทีต่
- จุดเน้น คือ การบู ร
ณาการการเรียนรู ้
ทุกด้านเข้า
ด้วยกัน
- ใช้กระบวนการของ
[email protected]
แนวคิดเดิม
ประเ
ด็น
ผู เ้ รีย เป็ นผู ถ
้ ู กกระทา
น
(Passive)
ไม่มส
ี ่วนร่วมใน
การประเมิน
ประเมินเป็ น
รายบุคคล
แนวคิดใหม่
ปัจจุบ ัน
เป็ นผู ก
้ ระทา
(Active)
มีส่วนร่วมใน
การประเมิน
ประเมินเป็ น
กลุ่ม
[email protected]
แนวคิดเดิม
ประเด็
น
คาตอ คาตอบถูกเดียว
บ
ั ันธ์ก ับ
ไม่สมพ
ั
บริบทสงคม
พิจารณาการ
เขียนตอบ
ข้อสอ เน้นวิชาเดีย
่ วๆ
บ
Unity
แนวคิดใหม่ ปัจจุบ ัน
ไม่มค
ี าตอบทีผ
่ ด
ิ /
เน้นเหตุผล
สอดคล้องก ับบริบท
ั
สงคม
ตามสภาพจริง
บูรณาการ
Multi Methods
[email protected]
ประเด็น
ล ักษณะ
การว ัด
แนวคิดเดิม
แนวคิดใหม่
ปัจจุบ ัน
ตลอดเวลา
กลางภาค ่
อง
ต่
อ
เนื
ปลายภาค
่
ับปรุง /
เพือ
่ ตรวจสอบ เพือปร
พัฒนา
ผูส
้ อน
ผู เ้ รียน /
สอน / ออก
่
เพื
อน
/
ข้อสอบ /
ผู
ป
้
กครอง
/
ิ
ตรวจ / ต ัดสน
ผู ร้ ู ้ร่วมสอน
[email protected]
การออกแบบ
การวัดและ
ประเมินผลตาม
ลักษณะของ
การประเมินผลตาม
สภาพจริง (Authentic
[email protected]
คุณลักษณะของการประเมินตามสภาพจริง
่
สามารถเชืองโยงสู
่
ชีวต
ิ จริง
มีการประเมินในทุกขณะ
ของการเรียน
ผลงานมีคณ
ุ ภาพ
่ าหนด
ตามเกณฑ ์ทีก
้
อยู ่บนพืนฐาน
ของชีวต
ิ จริง
การประเมินตามสภาพจริง
่
เป็ นผลงานทีให้
ผู เ้ รียนปฏิบต
ั จ
ิ ริง
มีวธ
ิ ก
ี ารประเมินที่
เป็ นการประเมินใน
หลากหลาย เช่น สังเกต
เชิงบวก มุ่งพัฒนาผู เ้ รียน
ตรวจผลงาน
มากกว่าจ ับผิด
มีการบู รณาการความรู
มีผูป
้ ้ ระเมินจากหลายฝ่าย
้ ง
ใช้ความคิดขันสู
เช่น ผู เ้ รียน ครู
่
แก้ปัญหาสร ้างสรรค ์สิงใหม่
และผู ป
้ กครอง
[email protected]
2. ประเมินรอบด้าน
ด้วยวิธท
ี หลากหลาย
ี่
่
1.งานทีปฏิบต
ั เิ ป็ น
3. ผลผลิตมีคุณภาพ
่ ความหมาย
งานทีมี
10. เป็ นการบู รณาการ
ความรู ้
9. เป็ นการประเมิน
อย่างต่อเนื่อง
4. ใช้ความคิดระดับสู ง
ลักษณะสาคัญของ
การประเมินตาม
สภาพจริง
5. มีปฏิสม
ั พันธ ์ทางบวก
6. งานและมาตรฐาน
8. มีความสัมพันธ ์
ต้องช ัดเจน
กับชีวต
ิ จริง
7. มีการสะท้อนตนเอง
[email protected]
่
1. เน้นการปฏิบต
ั เิ พือประเมิ
นว่าผู เ้ รียนมี
ศ ักยภาพ
รู ้อะไรได้บา้ งและสามารถทาอะไรได้บา้ ง
(indicators)
่
2.เน้นการประเมินแบบตรงเพือประเมิ
น
่ งไว้
้
เป้ าหมายการเรียนรู ้ทีตั
่ นิจฉัยในส่วนทีควรส่
่
3. เพือวิ
งเสริมและ
พัฒนาผู เ้ รียนอย่างเต็มศ ักยภาพตาม
ความสามารถ ความสนใจ และความ
ต้องการของแต่ละบุคคล
่
4. ใช้ขอ
้ มู ลจากการประเมินเพือวาง
[email protected]
่ ดขึนจริ
้
่
6. ใช้ปัญหาทีเกิ
งเพือให้
ผู เ้ รียนฝึ กวิเคราะห ์
่
ปั ญหาทีพบในชี
วต
ิ ประจาวันถ่ายโอน
7. สนับสนุ นการคิดอย่างอิสระด้วย
การเรี
ย
นรู
้สู
ช
่
ว
ี
ต
ิ
จริ
ง
่
วิธก
ี ารทีหลากหลาย ใน
สถานการณ์ตา
่ งๆอย่างต่อเนื่อง
่
เพือให้
ผูเ้ รียนฝึ กทางานเป็ นกลุ่ม
ทางานร่วมกันและคิดหาคาตอบ
อย่างหลากหลาย
[email protected]
9. เน้นการวัดความสามารถใน
การคิดระดับสู ง หรือซ ับซ ้อน
10.เน้นการวัดผลการเรียนรู ้ทาง
่
สติปัญญาทีหลากหลาย
11. ส่งเสริมปฏิสม
ั พันธ ์เชิงบวก
่
เพือให้
ผูเ้ รียนเรียนรู ้อย่างมี
ความสุขสนุ กสนานกับการ
เรียน ไม่เครียด
[email protected]
้
12.ไม่เน้นการประเมินทักษะพืนฐาน
แต่เน้นการประเมินทักษะการคิดที่
ซ ับซ ้อน
13.เป็ นการวัดและประเมิน
ความก้าวหน้าของนักเรียน
14.เป็ นการสะท้อนให้เห็นการสังเกต
สภาพงานปั จจุบน
ั (Current
่ ่
Work) ของนักเรียน และสิงที
[email protected]
16.ควรมีหลายๆคนประเมิน โดยมี
การประชุมระหว่างกลุ่มผู ป
้ ระเมิน
่
่
เพือแลกเปลี
ยน
17.ดาเนิ นการไปพร ้อมกับการเรียน
การสอนอย่างต่อเนื่อง
18.นาการประเมินตนเองมาใช้เป็ น
ส่วนหนึ่งของการประเมิน
่ นการปฏิบต
19.การประเมินทีเน้
ั จ
ิ ริง
[email protected]
ทาไมจึงต้องประเมินตาม
สภาพจริ
ง
1. การใช้ขอ
้ สอบแบบเลือกตอบ ไม่ประสบ
ผลสาเร็จในการว ัดความรู ้ ความเข้าใจ
และความสมารถในการปฏิบต
ั ท
ิ ซ
ี่ ับซ ้อน
ได้
2. การใช้ขอ
้ สอบแบบเลือกตอบในการวัด
ความรู ้ความสามารถ ส่งผลให้ผูเ้ รียน
มุ่งเน้นการท่องจาโดยปราศจากการ
เรียนรู ้อย่างมีความหมาย
3. การวัดและประเมินผลค่อนข้างเป็ น
[email protected]
่ ในการประเมินผลการ
4. เกณฑ ์ทีใช้
เรียน ส่วนใหญ่ใช้เพียงความรู ้และ
้ โดยมิได้ตระหนักถึง
ทักษะเท่านัน
่ นเจตคติและพฤติกรรม
เกณฑ ์ทีเป็
่ ก ันอยู ่ มี
5. แบบทดสอบทีใช้
่
แนวโน้มการวัดแบบอิงกลุ่ม เพือ
เปรียบเทียบผู เ้ รียนด้วยกันเอง
หรือเปรียบเทียบระหว่างโรงเรียน
ไม่ได้มุ่งเน้นในการวัด
[email protected]
7. แยกกระบวนการวัดผลและ
ประเมินผลออกจากกระบวน
การเรียนการสอน
8. สถานการณ์การวัดผลและ
ประเมินผลเน้นในห้องเรียน
เป็ นหลัก
9. ความไม่เหมาะสมในการใช้
[email protected]
่
วิธก
ี าร - เครืองมื
อในการประเมิน
ตามสภาพจริง
่ ด
วิธก
ี ารกิจกรรมทีวั
่
เครืองมื
อวัด
1. การ
สังเกต
้ั
การสังเกตอย่างไม่ตงใจ
(ไม่เป็ ทางการ) โดย
่ าลัง
สังเกตขณะทีก
ทางาน
้
การสังเกตแบบตังใจ(เป็
น
[email protected]
วิธก
ี าร่
เครืองมื
อวัด
2. การ
บันทึก
พฤติกรร
ม
่ ด
กิจกรรมทีวั
บันทึกข้อมู ลสาคัญใน
เหตุการณ์ หรือ
้
ปรากฏการณ์ทเกิ
ี่ ดขึน
ในแต่ละวัน การบันทึก
ข้อมู ลอาจทาอย่าง
ละเอียด หรืออย่างย่อก็
[email protected]
วิธก
ี าร ่
เครืองมื
อว ัด
3. แบบ
ตรวจสอบ
(สารวจ)
รายการ
่
กิจกรรมทีวัด
บันทึกพฤติกรรมที่
กาหนดไว้โดยมี
่ าคัญ
องค ์ประกอบทีส
อ ันได้แก่ คุณลักษณะที่
พึงประสงค ์ ทักษะความ
สนใจ และพฤติกรรมที่
มุ่งหวังตามมาตรฐาน
[email protected]
วิธก
ี าร ่
เครืองมื
อ
วัด
่
กิจกรรมทีว ัด
4. แบบ คล้ายกับแบบ
ส
ารวจรายการ
แต่
สารวจ
จะมองภาพรวม
เหตุการ
[email protected]
วิธก
ี าร ่
เครืองมื
อวัด
5. แบบ
มาตรา
ส่วน
ประมาณ
ค่า
่ ด
กิจกรรมทีวั
ใช้ประกอบการสังเกต
โดยต้องการให้ผูถ
้ ูก
่
สังเกตคิดค้นเกียวกับ
ความรู ้ ทักษะ ความรู ้สึก
่ ใน
และคุณลักษณะทีดี
่
ขอบเขตทีจะสั
งเกต โดย
[email protected]
วิธก
ี าร ่
เครืองมื
อว ัด
่
กิจกรรมทีวัด
6. การสุ่ม ผู ส
้ อนจะบันทึก
เวลา
เหตุการณ์ทปรากฏ
ี่
หรือไม่ปรากฏในการ
เลือกพฤติกรรมใน
่ าหนดไว้
เวลาทีก
แน่ นอน เช่น ครู
[email protected]
วิธก
ี าร ่
เครืองมื
อวัด
่ ด
กิจกรรมทีวั
7. การสุ่ม สุ่มบันทึกเหตุการณ์
เหตุการ หรือบางหัวข้อของ
่
เหตุ
ก
ารณ์
ท
ปรากฏ
ี
ณ์
เช่น ต้องการสังเกต
ความคิดสร ้างสรรค ์
ในงานศิลปะ จะ
[email protected]
วิธก
ี าร ่
เครืองมื
อ
วัด
่ ด
กิจกรรมทีวั
8. การ ครู จะสนทนากับผู เ้ รียน
สัมภาษ โดยแสดงการโต้ตอบและ
ค
าสนทนาจะไม่
ม
ค
ี
าว่
า
ณ์
ถู ก ดี หรือ ใช้ได้ โดย
เปิ ดโอกาสให้ผูเ้ รียน
[email protected]
วิธก
ี าร ่
เครืองมื
อวัด
9. การ
ทดสอบ
่ ด
กิจกรรมทีวั
ทดสอบทักษะ ความรู ้
่ องการ
ความสามารถต่างๆ ทีต้
่ อาจสังเกตได้
วัดกิจกรรมทีไม่
่ ง
ทุกเวลา และอย่างทัวถึ
10. แฟ้ม กิจกรรมทีผู
่ เ้ รียนทาเป็ น
้
สะสมงาน ชินงานออกมา
อาจเป็ น
รายงาน แบบบันทึก เทป
[email protected]
วิธก
ี าร ่
เครืองมื
อ
วัด
่ ด
กิจกรรมทีวั
11.
ระเบียน
พฤติกา
รณ์
ครู จะบันทึกข้อมู ลจาก
การสังเกตพฤติกรรม
พัฒนาการของนักเรียน
อย่างไม่เป็ นทางการ
บันทึกการให้ความ
[email protected]
เดิม
3
Rs
ปั จจุบ ั
น
3 Ps
Reading Product
Writing Process
Progress
Arithmatics
[email protected]
Objecti
ves
OLE
CURRICULUM
Learni
Evalua
[email protected]
TEI
Teaching and Learning
Evaluation
Improvement, Development
[email protected]
CIA
Curriculum
Instruction
Assessment
[email protected]
AID
Assessment
Instruction
Development
[email protected]
RIAM
Research
Management
Instruction
Assessment
[email protected]
การประเมินตามสภาพจริง
Authentic Assessment
*
* Public
Performanc
Standard
e / Practice
* Process
* Oral
* Products
Presentation
* Portfolio
* People not
Self Assessment
* Alternative
Assessment
[email protected]
การประเมินตามสภาพ
จริง
Authentic Assessment
่ องการให้ผูเ้ รียน
• เป็ นการประเมินทีต้
แสดงทักษะและสมรรถภาพซึง่
่ เกิ
่ ดขึนจริ
้
สะท้อนสิงที
งใน
ชีวต
ิ ประจาวัน
• การบู รณาการความรู ้
การ
[email protected]
การประเมินตามสภาพจริง
(Authentic Assessment)
- เน้นการสร ้างงาน
- วัดผลการปฏิบต
ั งิ าน
- ผู กติดก ับการสอน
่
- ผู เ้ รียนมีสว
่ นเกียวข้
องในการ
ประเมิน
่ ทามีความหมาย
- งานทีให้
- สะท้อนทักษะความสามารถ
[email protected]
วิธก
ี ารประเมินใช้ขอ
้ มู ลจาก
หลายแหล่ง
• การมีส่วนร่วมใน
• ความรู ้
้
ช
นเรี
ั ยน
ความสามารถ
• การประเมินการ
•ทักษะ
ปฏิบต
ั งิ าน
•แฟ้มผลงาน
• การประเมิน
•การบ้าน
ตนเอง
•รายงาน
• การประเมินใน
•โครงงาน
้
ช
นเรี
ั ยน
•การนาเสนอ
[email protected]
การประเมินรายบุคคล/
การประเมินกลุ่ม
Individual assessment
Group assessment
่ ใ่ น
- การให้คะแนนผู เ้ รียนทีอยู
กลุ่มเดียวกัน
เท่าก ันหมดทุกคน
- การให้คะแนนเป็ นรายบุคคล
[email protected]
บทบาทของการประเมิน
Formative
ระหว่
างเรียน + ข้อมู ลป้ อนกลับ
Evaluation
+พัฒนาปร ับปรุง
Summative
Evaluation
้
สินสุดการเรียน +
[email protected]
การกาหนด
เกณฑ ์การ
ประเมิน
[email protected]
Rubrics คืออะไร
่
• เป็ นเครืองมื
อสาหร ับจัดระบบและแปล
ความข้อมู ล
่ จากการสังเกตการเรียนรู ้ / ชินงาน
้
ทีได้
ของนักเรียน
่
่ ัดภาระงานทีเป็
่ น
• เป็ นเครืองมื
อเพือว
อ ัตนัยให้มค
ี วามเป็ นปรนัย
่ ต ัดสินการปฏิบต
• เป็ นเกณฑ ์ทีใช้
ั งิ าน
หรือผลการเรียนรู ้
104
[email protected]
ประเภทของ Rubrics
Analytic Rubrics
• Formative evaluation
Rubrics
Holistic Rubrics
• Summative evaluation
105
[email protected]
Rubrics มีลก
ั ษณะ
ประกอบด้
วย
อย่างไร
เกณฑ ์ / ประเด็นการ
ประเมิน
•
•
ระดับคุณภาพและคาอธิบาย
106
[email protected]
เกณฑ ์ /
ประเด็นการ
ประเมิน
ร่วมใน
การ
อภิปราย
กลุ่ม
ตัวอย่าง
่
ดีเยียม
น่ าพอใจ
Rubrics
กาลัง
ต้อง
พัฒนา ปร ับปรุง
เอาใจใส่ เอาใจใส่ เอาใจใส่ ไม่รว่ ม
ในทุก
บาง
บาง
อภิปราย
ประเด็นที่ ประเด็นที่ ประเด็นที่ และไม่
อภิปราย อภิปราย อภิปราย พยายา
ให้
ร่วมให้
เป็ น
มในร่วม
ข้อเสนอ ข้อเสนอแ บางครง้ั
ปร ับแต่ง
แนะและ นะและ
ไม่ให้
ข้อแนะ
แนวทาง แนว
ข้อเสนอแ นาที ่
แก้ปัญหา ทางแก้ไข นะและ
ผู อ้ น
ื่
กลุม
่ พัเป็
ฒนาและส่
งเสริมการวัดและแนวทาง
น
เสนอ 107
ประเมินผลการเรียนรู ้
บางครง้ั
ปั ญหาแต่
[email protected]
การสร ้าง
1. กาหนดภาระงาน
Rubrics :
ผลผลิต
กระบวนการ การปฏิบต
ั ิ
2.กาหนดประเด็นการประเมิน
3.เลือกประเภทเกณฑ ์การประเมินที่
ต้องการใช้ : Holistic ? หรือ
Analytical ?
108
[email protected]
การสร ้าง
Rubrics(ต่
อ
)
้
6. กาหนดค่านาหนักของแต่
ละประเด็นการรประเมิน
กรณี เลือกใช้แบบ
Analytical rubric
่
7. วิพากษ ์ร่วมกันกับเพือนครู
109
[email protected]
ตัวอย่าง : เกณฑ ์
การให้คะแนน
แบบRubrics
110
[email protected]
การนาเสนอผลงานของนักเรียน
ประเด็น
การ
ประเมิน
ระดับคะแนน
4
วิธก
ี าร การ
นาเสน นาเสนอ
อ
มีลาด ับ
้
ขันตอน
น่ าสนใจ
และใช้
่
สือ
ประกอบ
3
การ
นาเสน
อมี
ลาด ับ
้
ขันตอน
น่ าสนใ
จ แต่ใช้
่
สือไม่
2
1
น้ าหนั
ก
การ
การ
4
นาเสน นาเส
อมี
นอไม่
ลาด ับ เป็ น
้
ขันตอน
ลาด ับ
้
แต่ไม่ ขันต
น่ าสนใ อน
111
[email protected]
จ
การนาเสนอผลงานของนักเรียน(ต่อ
ประเด็น
การ
ประเมิน
การใช้
ภาษา
ระดบ
ั คะแนน
4
่
สือ
ความห
มาย
เข้าใจ
ช ัดเจน
ไม่วกวน
และออก
เสียง
อ ักขระ
3
่
สือ
ความห
มายได้
เข้าใจ
ช ัดเจน
แต่ออก
เสียง
อ ักขระ
ไม่
2
่
สือ
ความห
มายได้
เข้าใจ
แต่ออก
เสียง
อ ักขระ
ไม่
ถูกต้อง
1
่
สือ
ความ
หมาย
ไม่
เข้าใจ
น้ าห
นัก
3
112
[email protected]
การนาเสนอผลงานของนักเรียน
ประเด็น
การ
ประเมิน
บุคลิก
ท่าทาง
4
มีความ
่ น
่
เชือมั
ลีลา
ท่าทาง
เหมาะส
ม การ
แต่ง
กาย
ระดับคะแนน
3
2
มีความ
่ น
่
เชือมั
ลีลา
ท่าทาง
เหมาะส
ม การ
แต่ง
กายไม่
มีความ
่ น
่
เชือมั
ลีลา
ท่าทาง
เหมาะส
ม การ
แต่ง
กายไม่
1
ขาด
ความ
่ ่
เชือมั
น
น้ าห
นัก
2
113
[email protected]
การน
าเสนอผลงานของนั
ก
เรี
ย
น
ประเด็น
ระดับคะแนน
การ
ประเมิน
4
3
การ
ประสา ประสา
ประสาน น
น
สายตา สายตา สายตา
ผู ฟ
้ ัง
ผู ฟ
้ ัง
ตลอดเ ค่อนข้า
วลา
งมาก
โดย
แต่
นานๆ บ่อยคร ้ั
้ั ่ งทีจะดู
่
ครงที
2
ประสา
น
สายตา
ผู ฟ
้ ัง
บ้าง แต่
ส่วน
ใหญ่จะ
อ่าน
บันทึก
1
น้ าห
นัก
อ่าน
1
บันทึก
่
ทีจด
ไว้
โดยไม่
ประสา
น
สายต
114
ากับ
[email protected]
ระดั
บคุณ
คะแนน
31ภาพ
– 40 หมายถึง ดี
มาก
คะแนน 21 – 30 หมายถึง ดี
คะแนน 11 – 20 หมายถึง
พอใช้
่
คะแนน ตากว่
า 10 หมายถึง
ปร ับปรุง
115
[email protected]
ตัวอย่าง : เกณฑ ์การ
ให้คะแนน
การเขียน
116
[email protected]
ระด ับ 5
ระด ับ 4
ระด ับ 3
ระด ับ 2
ระด ับ 1
นาเสนอ
นาเสนอ มีการกาหนด พยายาม
ไม่กาหนด
่ การนาเสนอ
่
เรืองราวตาม
เรืองราว
จุดประสงค ์แต่ กาหนด
จุดประสงค ์
จุดประสงค่ ์ได้ ตาม
ไม่สามารถ
จุดประสงค ์แต่ และไม่มก
ี าร
เรืองราว
อย่างช ัดเจน จุดประสง นาเสนอ
ไม่สามารถ
นาเสนอ
่
่
มีเ้ ขียนปร ับ
คเ้ ์ ขียน
เรืเ้ องราวได้
นเาเสนอ
เรืองราวตาม
ผู
ผู
ผู
ขียน
ผู
้ ขียนให้
ไม่
ให้
่
ประสิทาเสนอ
ธิภาพ ตระหนั
ที่
อย่างสมบู
รณ์ ความส
เรืองราวตาม
จุดประสงค
์
การน
ก
ตระหนั
ก
ใน
าคั
ญ
ความส
าคั
ญ
ความเหมาะสมกั
บ
กลุ
ม
่
ผู
อ
้
า
่
น
ต้
อ
งการ
จุด
ประสงค
ให้เหมาะสม ใน
ความ สาคัญ กั
บผู
อ
้ า
่ นน้อ์ได้
ย กับผู อ
้ า
่ นเลย
ได้
กับกลุ่มผู อ
้ า
่ น ความส
า ของผู อ
้ า
่ น
มาก
การนาเสนอ การ
การนาเสนอ การนาเสนอ การนาเสนอ
แต่ละกลุ่ม
ค ัญของ
ความคิด
นาเสนอ ความคิด
ความคิด
ความคิด
ผู อ
้ า
่ น
การล
าดั
บ
ความคิ
ด/เหตุ
เหตุการณ์
ความคิด เหตุ
การณ์ การณ์
เหตุการณ์
เหตุการณ์
ตามลาด ับ
เป็ นไป
ส่วนใหญ่
บางส่วนที่
ไม่ช ัดเจน
่
เรืองราว
ตาม
เป็ นไป
เป็ นไป
ไม่เป็ นระบบ
เป็ นไปอย่างมี เหตุการ ตามลาด ับที่
ตามลาดับ
117
่
ประสิทธิภาพ ณ์ลาดบ
ั
เหมาะสม
ทีเหมาะสม
[email protected]
่
(ต่อ)
ระด ับ 5
ระด ับ 4
ระด ับ 3
ระด ับ 2
การใช้
โดยรวม ใช้คาศ ัพท ์ ใช้
การใช้
าศ ัพท ์ ง่ าย
คาศ
ัพท ์ คใช้
คาศ ัพท ์
น่ าสนใจ
คาศ ัพท ์ เหมาะก ับ บางคา
่ ความ ผู อ
แจ่มช ัด
ทีมี
้ า
่ นและ ไม่กระช ับ
เป็ นไปตาม ซ ับซ ้อน จุดประสงค ์ หรือไม่
ลักษณะ
เหมาะส
เหมาะสม
ความ
ของผู
้ พลา
า
่ น พบ
มก ับ
กับผู
อ
้ า
่ น
ข้
อผิดอ
มีการสะกด มี
ดระวังอ
่
และยวก
ผู อ
้ ผิ
า
่ น
และ/หรื
ดเกี
ับ ข้
ดพ คาผิดบ้าง ระมั
รูจุปดแบบการ
จุ
ด
ประสงค
์
และ
ประสง
การสะกด ลาด
แต่
สะกดคา มี
การสะกดค
า/วรรคตอน
่
จุดยวก
ประสง
คอ์ ผิดพลา
คา
เกี
ับ ข้อผิดพลา ข้
่
้
์ ัพท ์ ดนันไม่
่ กสร ้าง
เครืองหมา
คาศ
ดทีมั
กลุม
่ พัฒนาและส่งเสริมการวัดและ
่
ย
เครืองห
สร
้างความ
ประเมิ
นผลการเรียนรู ้ ความเข้าใจ
วรรคตอน มาย
เข้าใจผิด ผิดและพบ
ระด ับ 1
คาศ ัพท ์ไม่
กระช ับ
ไม่เหมาะสม
พบ
ข้อผิดพลาด
่
เกียวกับการ
่ า
สะกดคา ทีท
ให้เกิดความ
เข้าใจผิด การ
่ 118
ใช้เครืองหมาย
วรรคตอน
(ต่อ)
ระด ับ 5
ระด ับ 4
ระด ับ 3
คาที่
คาที่
คาส่วน
เขียน
เขียน
ใหญ่อยู ่บน
้
้
ทังหมดอยู
่ ทังหมด
แนวบรรทั
มารยาทในการเขี
ยน ด
บนแนว
อยู ่บน
มีระยะห่าง
เส้นบรรทัด แนวเส้น ระหว่างคา
และมี
บรรทัด
พอดี
ระยะห่าง
และมี
ระหว่างคา ระยะห่าง
ที่
ระหว่าง
่
สม่าเสมออ คา ทีพอดี
ถูกต้อง
ระด ับ 2
ระด ับ 1
คาบางคา
อยู ่บนแนว
บรรทัด
และมี
ระยะห่าง
ระหว่างคา
่ ยนไม่
คาทีเขี
อยู ่บน
บรรทัด ไม่ม ี
ระยะห่าง
ระหว่างคา
119
[email protected]
่
ความเทียงตรง
่ ต้
่ องการวัด
วัดสิงที
ได้จริง
่
่
ความเชือมัน
ให้ผลการว ัดคง
เส้นคงวา
ยิงถู ก
เป้ า
ยิงถู กหรือ
ใกล้เคียง
ตาแหน่ งเดิม
แต่อาจถู ก
หรือไม่ถูกเป้ า
[email protected]
[email protected]
•
•
•
•
•
การประเมินความสามารถ
(Performance Assessment)
• การทาโครงงาน
แฟ้มสะสม
ผลงาน
• การโต้วาที
การนาเสนอ • การจัดนิ ทรรศการ
่
่
การเคลือนไหว
• การเล่นดนตรีเดียว,
ปฏิบต
ั ก
ิ ารทาง การบรรยาย
วิทยาศาสตร ์ • การอ่านออกเสียง
ทักษะพละ
• การเขียนประกาศ/
[email protected]
่ อทีใช
่ ้ประเมินในชนเรี
้ั ยน
เครืองมื
แบบสอบ (Tests)
้
ภาระงาน/ชินงาน(task)
และแนวทาง
การให ้คะแนน (Rubrics)
แบบบันทึกการสังเกต
แบบสารวจ(Checklist)
การจัดอันดับคุณภาพ
[email protected]
้
ลักษณะผลงาน/ภาระงาน/ชินงาน
ผลผลิต
ความเรียง
รายงาน
่
บันทึกเรืองราว
ผลการปฏิบต
ั ิ
รายงานปากเปล่า
เต้นรา/การแสดง
สาธิต/ละคร
โต้วาที
กระบวนการ
บทกวี
นิ ทรรศการ
สมุดภาพ
รา/
อ่าน/บรรยาย/
[email protected]
เกณฑ ์การ
ประเมิน
กาหนด
ภาระ
งาน
้ อย่างไร/ออกแ
การออกแบบประเมินชินงาน
ใครเป็ นผู ้
ภาระงาน
บบ
ประเมิน
อย่
า
งไ
บ้าง
ร
ลั
ก
ษณะผลงาน
/ภา
สร ้างเกณฑ ์การให้คะแนน ้
ชิ
นงานมี
ล
ก
ั
ษณะอย
(Scoring Rubric) อย่างไร
[email protected]
้
ชินงาน/ภาระงาน
้
ชินงาน
ได้แก่
1.งานเขียน เช่น เรียงความ จดหมาย โคลงกลอน
การบรรยาย การเขียนตอบ ฯลฯ
2.ภาพ / แผนภู ม ิ เช่น แผนผัง แผนภู ม ิ ภาพวาด
กราฟ ตาราง ฯลฯ
่
3.สิงประดิ
ษฐ ์ เช่น งานประดิษฐ ์ งานแสดง
นิ ทรรศการ หุ่นจาลอง ฯลฯ
ภาระงาน
ได้แก่
การพู ด / รายงานปากเปล่า เช่น การอ่าน
กล่าวรายงาน โต้วาที ร ้องเพลง สัมภาษณ์ บทบาท
่
สมมติ เล่นดนตรี การเคลือนไหวร่
างกาย
ฯลฯ
[email protected]
มาตรฐานการออกแบบภาระงาน
่ กซึง้
1. ผู เ้ รียนได้ใช้องค ์ความรู ้ทีลึ
2. ผู เ้ รียนได้ใช้ทก
ั ษะ /
้ั ง
กระบวนการคิดชนสู
3. ภาระงานสัมพันธ ์สอดคล้องกับ
สังคมอาชีพภายนอก
4. ส่งเสริมการปฏิสม
ั พันธ ์ระหว่าง
ครู และผู เ้ รียน
[email protected]
้
ขันตอนการก
าหนดภาระ
กงาน
าหนด
เป้ าหมาย
สร ้าง
สถานการณ์
้
เขียนคาชีแจง
ตัดสินใจเลือกผู ต
้ ิ /ชม
หรือผู ป
้ ระเมิน
กาหนดแนวทางการ
ให้คะแนน
ทบทวนและปร ับปรุง
[email protected]
1. การกาหนดเป้ าหมาย
1.) ความคาดหว ังตามมาตรฐานการเรียนรู ้
- นักเรียนควรเรียนรู ้อะไรและปฏิบต
ั อ
ิ ะไรไร
่
- ควรเริมจากความคาดหวั
งจากมาตรฐาน
เพียง 1
มาตรฐานก่อน
่
- ได้รา่ งภาระงานแล้ว ทบทวน เพิมความ
คาดหวัง มาตรฐาน
- เรียงลาดับความคาดหวังและมาตรฐาน ควร
[email protected]
ใช้ 3 – 6 มาตรฐาน
1.การกาหนดเป้ าหมาย
(ต่
อ
)
2.) กาหนดหลักฐาน/ร่องรอยของการเรียนรู ้
- หลักฐาน/ร่องรอยเป็ น
่
บรรทัดฐานเพือประเมิ
นผลสาเร็จ
ของนักเรียนตามมาตรฐานการ
เรียนรู ้
- หลักฐาน/ร่องรอยเป็ นฐาน
่
ของการประเมินผลซึงจะได้
มก
ี าร
[email protected]
2.การสร ้างสถานการณ์เงื่อนไข
่
เกียวกั
บภาระงาน
สถานการณ์ในภาระงานมีอยู ่ 3 ส่วน
- บริบทของสถานการณ์
่
เงือนไข(ทาไมต้องทา)
้
- คาแนะนาชีแนวทางให้
กบ
ั
นักเรียน (ทาอย่างไร)
[email protected]
้
3.เขียนคาชีแจง
้
อง
คาชีแจงต้
่
- เขียนด้วยถ้อยคาทีง่ าย
ช ัดเจน ว่าต้องการให้นก
ั เรียน
ทาอะไร
- ผลผลิตสุดท้าย(product) /
ผลการปฏิบต
ั งิ าน
[email protected]
4.ตัดสินใจเลือกผู ้ ติ/ชม
(ประเมิน)
่ ทสุ
ผู ป
้ ระเมินทีดี
ี่ ด คือ ผู ท
้ มี
ี่ ความ
สนใจอย่างแท้จริงในผลงาน/ผล
การปฏิบต
ั งิ านของนักเรียน
นักเรียนในห้องเรียน
ครู ผูส
้ อน
ผู ป
้ ระเมินภายนอกผู ร้ ู ้ ปราชญ ์
[email protected]
5.กาหนดแนวทางการให้
คะแนน
1.แนวทางการให้คะแนนควรควรอยู ่บน
หลักฐานการเรียนรู ้
่ นของการสร ้างแนวทางการให้
2.จุดเริมต้
คะแนนจากรายละเอียดคุณภาพผลงานของ
นักเรียน
3.รายละเอียดของคุณภาพการปฏิบต
ั /ิ ผลงาน
้
ควรจาเพาะเจาะจงในภาระงานนันๆ
่ คณ
4.ควรมีต ัวอย่างผลงานทีมี
ุ ภาพ
[email protected]
6.การปร ับปรุงภาระงาน
1.การออกแบบภาระงานเป็ นกระบวนการ
่ องการการทบทวน
ย้อนกลับ ซึงต้
ปร ับปรุง แก้ไขได้ใหม่อก
ี
่
2.ถ้ามีการเพิมเติ
มความคาดหว ัง/
มาตรฐานการเรียนรู ้ ต้องมีการปร ับ
หลักฐานการเรียนรู ้ สถานการณ์
้
เงื่อนไข คาชีแนะ
แนวทางการให้
้
คะแนนขึนใหม่
ตามมาด้วย
[email protected]
้
เกณฑ ์ การพิจารณาผลงาน / ชินง
1
2
3
4
5
6
สรุปรวมยอดและตรงตามม
เกิดความรู ้ใหม่และใช้ความรู
ใช้ความคิดระดับสู งและสร ้างส
สภาพบริบทจริงและเหมือนจร
้
ดึงดู ด น่ าสนใจ ช ัดเจน มีขน
ั
่
่
มีการสือสารแลกเปลี
ยนระหว
[email protected]
้
เกณฑ ์ประเมินชินงาน
/ ภาระงาน
7
8
9
10
11
12
่
เกิดผลอย่างต่อเนื อง ปร ับปรุง
่
ผูเ้ รียนมีโอกาสเลือกและพึงตน
เป็ นไปได ้ในบริบทของโรงเรียน /
ชวนคิด ท ้าทาย อิสระ ยุตธิ
มีเกณฑ ์และการให ้คะแนน
่
เปิ ดโอกาสทางานเดียวหรือกล
[email protected]
แนวทางการให้คะแนน (R
เกณฑ ์ (Criteria)
ระดับน้ าหนักของคะแนน (Scales)
คาอธิบายคุณภาพงาน (Perform
แนวการให้คะแนน (Scoring Guid
ผลงานตัวอย่าง (Exemplars)
[email protected]
การประเมินผล
(rubric) คืออะไร
่
เป็ นการประเมินทีเน้น
้
คุณภาพของชินงานหรือ
่
้
ภาระงานทีชีให้เห็นระดับ
[email protected]
องค ์ประกอบของ
รู
บ
ริ
ก
ส
์
่
(1) จุดมุ่งหมายทีต้องการประเมิน
– ปฏิบต
ั งิ าน (performance)
– พฤติกรรม (behavior)
– คุณภาพ (quality)
(2) พิสย
ั ของการปฏิบต
ั งิ าน (range of
performance)
(3) คุณลักษณะของการปฏิบต
ั งิ านหรือ
พฤติกรรมในแต่ละ
่
ระด ับ ซึงสะท้
อนระด ับของมาตรฐาน
[email protected]
้
ขันตอนการสร
้างรู บริกส ์
Chicago Public Schools
(2004)
1. กาหนดมิตท
ิ ใช้
ี่ ในการประเมินการ
ปฏิบต
ั งิ านหรือผลงาน
่
2. ดู ต ัวอย่างงานของผู เ้ รียนว่าเพือ
ตรวจสอบว่ามีการลืมมิต ิ
สาค ัญอะไรบ้าง
3. ปร ับรายการของมิตท
ิ ประเมิ
ี่
น
่
[email protected]
่ นแบบรวม
6. อาจจะสร ้างมาตรว ัดทีเป็
(holistic) หรือแบบตรวจ
่
สอบรายการซึงจะใช้
ในการบันทึก การมี
่
หรือไม่มค
ี ณ
ุ ลักษณะทีสะท้
อนการ
่ คณ
ปฏิบต
ั งิ าน/ ผลงานทีมี
ุ ภาพ
่ าหนด
7. ประเมินรู บริกส ์ตามเกณฑ ์ทีก
ต่อไป
8. ทดลองใช้รูบริกส ์กับตัวอย่างการ
[email protected]
เกณฑ ์การให้คะแนน (rubric
scoring)
Reading
1
3
่
ความเข้าใจ
ดีเยียม
ต้องปร ับปรุง
่
การเลือกสาระ
เกียวข้
องมาก
2
พอใช้
ปาน
[email protected]
เกณฑ ์การให้คะแนน (rubric
scoring)
ความเข้าใจในการอ่าน
3
2
1
มีความเข้าใจในการ
เข้าใจการอ่านพอใช้
ยังอ่านไม่คอ
่ ยเข้าใจ
อ่านดี ตีความได้ จับ
แต่ความรู ้อาจจะยัง
ไม่มค
ี วามรู ้เลย
ใจความถูกต้อง สัมพันธ ์ ไม่ดพ
ี อ ยังเข้าใจผิด
ตีความผิด
กับจุดมุ่งหมายของ
บ้าง การจ[email protected]
ับใจความยัง
ระดับคะแนน
งาน
ลักษณะของ
0
- ไม่มผ
ี ลงาน
1
-เขียนไม่ตรงประเด็น
ี ารจัดระบบการเขียน
(ต้อง -ไม่มก
่ ทาให้ผูอ
ปร ับป -ภาษาทีใช้
้ า
่ นเกิด
รุง) ความสับสน
[email protected]
ระดับคะแนน
งาน
ลักษณะของ
2
- เขียนได้ตรงประเด็นตามที่
(ผ่าน กาหนดไว้
)
-มีการจัดระบบการเขียน เช่น
้
คานา เนื อหา
และบทสรุป
่ ทาให้ผูอ
-ภาษาทีใช้
้ า
่ นเกิด
[email protected]
ระดับคะแนน
ลักษณะของ
งาน - เขียนได้ตรงประเด็นตามทีก
่ าหนด
3 (ดี)ไว้
-มีการจัดระบบการเขียน เช่น คานา
้
เนื อหา
และบทสรุป
อย่างช ัดเจน
่ มีความถู กต้อง สมบู รณ์
-ภาษาทีใช้
ทาให้ผูอ
้ า
่ นเข้าใจง่ าย
[email protected]
เกณ
ฑกา
์ รประเมนิ ชนิ้ งาน
นา
ห
้ นกั คะแนน ขนั้ หนูเก่งแล้ว
เกณ
ฑ์
(๔)
ขนั้ หนูทา
ได ้
(๓)
ขนั้ หนูเรมิ่ เรียน
(๒)
่ หนูดว้ย
ขนั้ ชวย
(๑)
-การบอก
อวัยวะสาคัญ บอกอวัยวะสาคัญ บอกอวัยวะสาคัญ บอกอวัยวะสาคัญ บอกอวัยวะสาคัญ
พรอ้ มทังห
้ นา้ทีก่ าร พรอ้ มทังห
้ นา้ที่ พรอ้ มทังห
้ นา้ทีก่ าร พรอ้ มทังห
้ นา้ทีก่ าร พรอ้ มทังห
้ นา้ที่
ทา
งาน
การทา
งานได ้
ทา
งานอย่างถูกตอ้ง ทา
งานไดถู้กตอ้ง ๓ การทา
งานได ้
อย่างถูกตอ้งตัง้ แ ๔-๕รายการ
รายการ
๑-๒ รายการ
๖รายการขึนไ
้ ป
-ตารางการดูแลรักษา บอกการปฏิบัติ บอกการปฏิบัติตน บอกการปฏิบัติตน บอกการปฏิบัติตน
ในการดูแลรักษา ในการดูแลรักษา
ในการดูแลรักษา
ความสะอาดของ
ตนในการดูแล
่
่
่
ความสะอาดสวน
ความสะอาดสวน
ความสะอาดสวน
อวัยวะต่างๆ
รักษาความ
้
่
ว ๑.๑
สั
ั งๆข
าถาม
อภิปต่ารายและอธิ
ทีร่าของ
า
องร่างกาย
งๆของร่างกายไบ
ดายหน้
้ ต่างๆขา
อง
งกาย
่ เกต
สะอาด
สง
วนต่
างๆ ตต่งค
ไดถู้กตอ้ง๔-๕
ถูกตอ้ง๓รายการ
ไดถู้กตอ้ง๑-๒
องร่าง
ายได
้
อวัยขวะต่
ากงๆ
ของมนุ
ษ
ย
์
รายการ
รายการ
ถูกตอ้งตัง้ แต่๖
การท
รายการขึนไ
้ ป างานสัมพันธ ์กันของอวัยวะต่างๆ ของมนุ ษย ์
-ทักษะการเขียน และน
สาม
ารถเขียนสอื่ ้ใช้ใ
สา
มารถเขียนสอื่
สามารถเขียนสอื่
สามารถเขียนสอื่
าความรู
นการ
ความใหผูดู
้ อื้น
่ ลร ักษาสุ
ความให
้นเ
่ ขาใจ
้
ความใหผู้ อื้นเ
่ ขาใจ
้
ความใหผู้ อื้น่
แ
ขผู้อื
ภาพ
เขาใจ
้ ไ
ดเป็้ นอย่างดี ไอ
ดค่
นขาวางแผนปฏิ
ง
้ ดี
ไดพ้ อส
าใจ
้ ไดพีด
้ ยง
ง ๑.๑
รวบรวมข้
มู้อล
บมต
ั ควร
งิ าน มีคเข
วามคิ
เล็กนอ้ ย
สร ้างสรรค ์ มีความร ับผิดชอบ
คูมื
่ อการปฏิบัติ คูมื
่ อการปฏิบัติตน คูมื
่ อการปฏิบัติตนมี คูมื
่ อการปฏิบัติตน
-ความคิดริเริม
่
และมี
ค
วามสุ
ข
ในการท
างาน
ตนมีลักษณะ
มีลักษณะสรา้ งสรรค์ ลักษณะสรา้ งสรรค์ ไม่มีความคิดริเริม
่
สรา้ งสรรค์
สรา้ งสรรค์
แป
พอประมาณสวย
าม เน
พียทึ
งเล็
กน
ไม่แส
ดง แว
ปล
ใหม่ไม่าวัน
ท ๒.๑
ใช้
ทลก
ักษะในการเขี
ยงนบั
ก
ต่อ้ ายงๆ
ในชี
ต
ิ กประจ
ม่สวยงาม
น่าสนใจพอควร
ถึงแนวคิดริเริม
่ ใหม่ๆ น่าสนใจ
่ ให
เพือถ่
า
ยทอดความ
น่าสนใจสามาร
นัก
สอื่ เขาใจ
้ ได
้ ยก ความคิด จินตนาการต่างๆ ตามวัย
รูง่า้สึ
่
การว ัดประเมินผลในหน่ วยเชือมโยงก
บ
ั
มาตรฐานโดยตรง
้
กาหนดชินงานหรือ
่ ภาระงาน
่ กาหนดให้ หรือครู และ
เป็ นสิงที
ครู
้ เพือให้
่
นักเรียนร่วมก ันกาหนดขึน
นักเรียนได้ลงมือปฏิบต
ั ใิ นแต่ละหน่ วย
้
ชินงานหรื
อภาระงานต้องแสดงให้เห็นถึง
พัฒนาการในการเรียนรู ้ของนักเรียน
่ กซึง้ ใช้ทกั ษะ/
ได้ใช้ความรู ้ทีลึ
กระบวนการคิดชนสู
ั ้ ง และเป็ นร่องรอย
[email protected]
้
วั อย่างชินงาน
1. งานเขียน : เรียงความ จดหมาย
โคลงกลอน
การบรรยาย การเขียนตอบ ฯลฯ
2. ภาพ/แผนภู ม ิ : แผนผัง แผนภู ม ิ
ภาพวาด กราฟ
ตาราง ฯลฯ
[email protected]
ัวอย่างภาระงาน
การพู ด/รายงานปากเปล่า : การ
อ่าน กล่าวรายงาน โต้วาที ร ้อง
เพลง สัมภาษณ์ บทบาทสมมติ
่
เล่นดนตรี การเคลือนไหว
่
งานที
มีลฯลฯ
ก
ั ษณะผสมผสาน
ร่างกาย
กัน : การทดลอง การสาธิต
[email protected]
้
ชินงานหรื
อภาระงานของหน่ วยการ
เรียนรู ้
้
่
ก
าหนดขึ
นเพื
ออะไร
?
และ
้
ชินงานหรื
อภาระงานเป็ นหลักฐาน
ก
าหนดได้
อ
ย่
า
งไร
?
/ ร่องรอย ว่านักเรียนบรรลุมาตรฐาน
้
การเรียนรู ้ / ตัวชีวัดในหน่
วยการ
้ ๆ อาจเกิดจากผู ส
เรียนรู ้นัน
้ อน
กาหนดให้ หรืออาจให้ผูเ้ รียนร่วมกัน
้
กาหนดขึนจากการ
วิเคราะห ์
[email protected]
้
หลักการกาหนดชินงาน
1. ดู จากมาตรฐานการเรี
ยนรู ้ /
หรือภาระงาน
ต ัวชีว้ ัดในหน่ วยการเรียนรู ้ ระบุไว้
ช ัดเจนหรือไม่
้
2. ภาระงานหรือชินงานครอบคลุ
ม
่
ต ัวชีว้ ัดทีระบุไว้
หรือไม่ อาจระดม
่
ความคิดจากเพือนครู
หรือผู เ้ รียน
่ จกรรมให้เกิด
หรืออาจปร ับเพิมกิ
้
่
ชินงานหรื
อภาระงานทีครอบคลุ
ม
[email protected]
้
่
4. ควรเลือกตัวชีวัดที
จะให้
เกิดงานที่
จะส่งเสริมให้ผูเ้ รียนได้พฒ
ั นา
สติปัญญาหลาย ๆ ด้านไปพร ้อมกัน
เช่น การแสดงละคร บทบาทสมมติ
่
เคลือนไหวร่
างกาย ดนตรี เป็ นต้น
่ เ้ รียนมีโอกาสเรียนรู ้
5. เลือกงานทีผู
่
และทางานทีชอบใช้
วธ
ิ ท
ี าที่
หลากหลาย
่ ทางเลือกในการ
6. เป็ นงานทีให้
[email protected]
้
หรือ
ทาไม ? ประเมินชินงาน
ภาระงานด้
ว
ย
rubric
การประเมินโดยใช้ Rubrics
่
ช่วยในการสือสารอี
กทางหนึ่ ง
ให้ผูเ้ รียนมองเห็นเป้ าหมาย
้
ของการทาชินงานหรื
อภาระ
งานของตนเอง และได้ร ับ
ความยุตธ
ิ รรมในการให้คะแนน
[email protected]
้
ทาไม ?การประเมินชินงาน
หรือ
ภาระงาน
ใช้วธ
ิ อ
ี นได้
ื่ ้ หรือไม่
ประเมินชินงานหรือภาระ
่
งานอาจใช้วธ
ิ ก
ี ารอืน...ได้
ตามความเหมาะสมกับ
้
ธรรมชาติของชินงานหรื
อ
ภาระงาน
[email protected]
จะทราบได้อย่างไรว่าผู เ้ รียนรู ้
และปฏิ
บ
ต
ั
ไ
ิ
ด้
ประเมินตามมาตรฐานและ
้
ตัวชีวัดออกแบบวั
ดและประเมิน
้
ตามสภาพจริงกาหนดชินงาน
หรือภาระงานกาหนดเกณฑ ์
การประเมินแบบ
Rubrics............
[email protected]
คนบางคน ไม่ตอ
้ งสอน
เขาก็รู ้
คนบางคน ไม่ยอมรู ้
แม้ถูกสอน
คนเป็ นครู ไม่มส
ี ท
ิ ธิ ์
จะ
่
เกียงงอน
[email protected]