0 - WordPress.com
Download
Report
Transcript 0 - WordPress.com
วิชาการจัดระบบเครือข่ ายและการสื่ อสารข้ อมูลธุรกิจ
ด้ วยคอมพิวเตอร์
บทที่ 7 TCP/IP และอินเตอร์ เน็ต(TCP/IP and Internet)
อ. รจนา วานนท์
roseyayee.wordpress.com
[email protected]
1
TCP/IP และอินเทอร์ เน็ต (TCP/IP and Internet)
TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internetworking
Protocol)
เพื่อใช้สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลบนเครื อข่ำยอินเทอร์ เน็ต
แบ่งหน้ำที่ควำมรับผิดชอบออกเป็ นชั้นซ้อนกันเรี ยกว่ำ
โปรโตคอลสแต็ก (Protocol Stack)
ั เครื อข่ำยแบบท้องถิ่น
สำมำรถใช้งำนเชื่อมโยงได้ดีกบ
ปั จจุบน
ั ได้รับควำมนิยมอย่ำงมำก
ประวัติโดยย่ อของเครือข่ ายอินเทอร์ เน็ต
อินเทอร์ เน็ตเกิดจำกโครงกำรเครื อข่ำยอำร์ พำเน็ต (Advanced Research Project
Agency Network : ARPANET) ภำยใต้กระทรวงกลำโหมของสหรัฐอเมริ กำ
แบบแพ็กเก็ตสวิตชิ่งเชื่อมจุดต่อจุดบนสำยสื่ อสำรควำมเร็ วสู ง วัตถุประสงค์
1 เพื่อให้นก
ั วิทยำศำสตร์ อยูต่ ่ำงพื้นที่สำมำรถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ขอ้ มูลทำง
ทหำร
2 จะยังคงสำมำรถติดต่อกันได้แม้จะโดนโจมตีดว้ ยนิ วเคลียร์
หลังจำกนั้นก็มีกำรนำมำใช้ในหน่วยงำนต่ำงๆ จนกลำยมำเป็ นเครื อข่ำยสำธำรณะ
ที่ประชำชนทัว่ ไปสำมำรถใช้งำนได้ “เครื อข่ำยอินเทอร์ เน็ต”
ประเทศไทยเรำเริ่ มใช้งำนอินเทอร์ เน็ตปี 2530
เครือข่ ายระดับสากล (Internetworking)
ทำงำนในระดับชั้นสื่ อสำรฟิ สิ คลั และดำต้ำลิงก์ รับส่ งข้อมูลจำกโหนดหนึ่ งสู่ โหนด
ถัดไป (Hop-to-Hop หรื อ Node-to-Node)
ชั้นสื่ อสารเน็ตเวิร์ก (Network Layer)
จำกปั ญหำก่อนหน้ำนี้ จึงต้องเพิม
่ ชั้นสื่ อสารเน็ตเวิร์กเข้ำมำ
สำหรับส่ งมอบข้อมูลในลักษณะ Host-to-Host ซึ่ งกำหนดหรื อ
วำงเส้นทำงแพ็กเก็ตข้อมูลส่ งผ่ำนอุปกรณ์เร้ำเตอร์ หรื อสวิตช์ ให้
ส่ งข้อมูลระหว่ำงเครื อข่ำยได้
โปรโตคอลอื่นที่สนับสนุนในระดับชั้นนี้ เช่น ARP, RARP,
ICMP, IGMP
โปรโตคอล IP (Internetworking Protocol)
เป็ นกลไกกำรส่ งข้อมูลที่ใช้โปรโตคอล TCP/IP ในลักษณะ
คอนเนกชัน่ เลส คือไม่รับประกันว่ำข้อมูลจะถึงปลำยทำง
หรื อไม
ทำให้กำรทำงำนของ IP ไม่ซบ
ั ซ้อน
มีหน้ำที่เพียงนำส่ งข้อมูลไปยังปลำยทำงด้วยหมำยเลขไอพี
การกาหนดตาแหน่ งทีอ่ ยู่ใน IPv4 (IPv4 Addressing)
่ ว้ ยไอพีแอดเดรส
TCP/IP จะกำหนดที่อยูด
ชุดตัวเลขฐำนสองขนำด 32 บิต
มีควำมสำคัญต่อกลไกในกำรสื่ อสำรจำกโฮสต์หนึ่ งไปยังโฮสต์หนึ่ งใน
ระบบสื่ อสำร
เรำจะแบ่งออก 2 ส่ วนคือ NetID และ HostID
NetID จะระบุเครื อข่ำย (Physical Network)
HostID จะระบุตำแหน่ งอุปกรณ์ เช่นตัวเครื่ องคอมพิวเตอร์
แมคแอดเดรสเป็ นฟิ สิ คลั แอดเดรส ส่ วนไอพีแอดเดรสเป็ นแค่ลอจิคลั
แอดเดรส
การกาหนดตาแหน่ งทีอ่ ยู่ใน IPv4 (IPv4 Addressing)
แบ่งออกเป็ น 4 ไบต์หรื อ 4 ออคเทต
ออคเทตแรกถูกแบ่งออกไปเป็ นตัวบ่งบอกว่ำเป็ นคลำสอะไร
การแทนค่ าไอพีแอดเดรสแบบเลขฐานสองและฐานสิ บ
(Binary and Dotted Decimal Notation)
จำนวนตัวเลข 32 bit สำมำรถแทนเลขหมำยได้ประมำณ 4
พันล้ำนเครื่ องหรื อ 2^32
แต่ไม่สำมำรถใช้ได้ท้ งั หมดต้องสงวนไว้สำหรับเฉพำะอย่ำง
ด้วยควำมยำกต่อกำรจดจำเรำจึงต้องกำหนดด้วยเลขฐำนสิ บและ
ใช้จดทศนิยมในกำรคัน่ ระหว่ำงออคเทต
10000000
00001011
00000011
128.11.3.31
00011111
การจัดสรรไอพีแอดเดรสแบบใช้ คลาส
(Classful Addressing)
แบ่งออกเป็ น 5 ชนิ ดมีคลำส A, B ใช้งำนเต็มแล้ว C
ยังใช้งำนอยูใ่ นปัจจุบนั
คลำส D ถูกสงวนไว้ใช้มลั ติคลำสแอดเดรส
คลำส E ถูกสงวนไว้ใช้ในอนำคต
คลาส A (Class A)
ใช้หมำยเลย NetID ขนำด 7 บิต
บิตแรกของออคเทตแรกจะมีค่ำเป็ น 0 สงวนไว้ บ่งบอกว่ำเป็ นคลำส A
จะมีจำนวนเครื อข่ำยได้ 27 -2
เครื อข่ำย
ออคเทตแรกที่มีค่ำ 0 (00000000) และ 127 (011111111) จะสงวนไว้
จะมีจำนวนของโฮสต์ขนำด 24 บิตสำมำรถมีจำนวนโฮสต์ได้ 224 – 2
เหมำะกับองค์กรหรื อหน่วยงำนขนำดใหญ่ที่ตอ้ งมีโฮสต์เยอะๆ
คลาส A (Class A)(cont.)
สำมำรถคำนวณหำแอดเดรสเริ่ มต้นกับแอดเดรสสุ ดท้ำย
ได้ดงั นี้
27
26
25
24
23 22 21
128 64 32 16 8
20
4
2
1
0
0
0
0
0
0
0
0
Decimal = 0
0
1
1
1
1
1
1
1
Decimal = 127
คลาส B (Class B)
ใช้หมำยเลย NetID ขนำด 14 บิต
บิตแรกของออคเทตแรกจะมีค่ำเป็ น 10 สงวนไว้ บ่งบอกว่ำเป็ นคลำส B
จะมีจำนวนเครื อข่ำยได้ 214 -2
เครื อข่ำย
จะมีจำนวนของโฮสต์ขนำด 16 บิตสำมำรถมีจำนวนโฮสต์ได้ 216 – 2
เหมำะกับองค์กรหรื อหน่วยงำนขนำดกลำง เช่นสถำบันศึกษำ หน่ วยงำน
รัฐ เอกชน
คลาส B (Class B)(cont.)
สำมำรถคำนวณหำแอดเดรสเริ่ มต้นกับแอดเดรสสุ ดท้ำยได้ดงั นี้
27
128
1
1
26
64
0
0
25
32
0
1
24
16
0
1
23
8
0
1
22
4
0
1
21
2
0
1
20
1
0 Decimal = 128
1 Decimal = 191
คลาส C (Class C)
ใช้หมำยเลข NetID ขนำด 21 บิต
บิตแรกของออคเทตแรกจะมีค่ำเป็ น 110 สงวนไว้ บ่งบอกว่ำเป็ นคลำส C
จะมีจำนวนเครื อข่ำยได้ 221 -2
เครื อข่ำย
จะมีจำนวนของโฮสต์ขนำด 8 บิตสำมำรถมีจำนวนโฮสต์ได้ 28 – 2
เหมำะกับองค์กรหรื อหน่วยงำนขนำดเล็ก
คลาส C (Class C)(cont.)
สำมำรถคำนวณหำแอดเดรสเริ่ มต้นกับแอดเดรสสุ ดท้ำยได้ดงั นี้
27
128
1
1
26
64
1
1
25
32
0
0
24
16
0
1
23
8
0
1
22
4
0
1
21
2
0
1
20
1
0 Decimal = 192
1 Decimal = 223
ความกว้ างของไอพีแอดเดรสแต่ ละคลาส
Class
A
B
C
From
0.0.0.0
128.0.0.0
192.0.0.0
To
127.255.255.255
191.255.255.255
223.255.255.255
การจัดสรรไอพีแอดเดรสแบบใช้ คลาส (ต่ อ)
จะเห็นได้วำ่ ไอพีแอดเดรสนั้นไม่ ได้ ใช้ สาหรับชี้ตาแหน่ งคอมพิวเตอร์ แต่ ละเครื่อง
อย่างเฉพาะเจาะจงแต่ ไอพีแอดเดรสจะใช้ บ่งชี้ตาแหน่ งการเชื่อมโยงระหว่ าง
คอมพิวเตอร์ กบั เครือข่ าย
การแบ่ งเครือข่ ายย่ อย (Subnetting)
141.14.2.12
141.14.23.10
141.14.2.10
141.14.24.110
Network Class B
Nกดกฟด
141.14.0.0
To the rest of
the Internet
141.14.25.10
141.14.4.110
141.14.27.12
141.14.23.130
การแบ่ งเครือข่ ายย่ อย (Subnetting) (cont.)
141.14.2.12
141.14.2.10
To the rest of
the Internet
141.14.2.16
Subnetwork Class B
Nกดกฟด
141.14.2.0
141.14.2.110
Site
141.14.0.0
Subnetwork Class B
Nกดกฟด
141.14.4.0
141.14.4.110
141.14.4.10
141.14.4.12
141.14.4.130
การแบ่ งเครือข่ ายย่ อย (Subnetting) (cont.)
จำกรู ปเมือมีขอ้ มูลเข้ำมำตัวเร้ำเตอร์ จะรู ้วำ่ จะต้องส่ งไปเครื อข่ำยย่อยใดเพรำะทั้ง
สองเครื อข่ำยยังสังกัดเครื อข่ำยเดียวกันคือ 141.14
กำรแบ่งซับเน็ตออกเป็ น 2 เครื อข่ำยดังนั้นเร้ำเตอร์ กจ็ ะใช้ 2 ออคเทตแรกเป็ น
NetID ออคเทตที่ 3 เป็ น SubnetID (2) และออคเทตที่ 4 คือ HostID (21)
ลาดับชั้น 3 ระดับ (Three Levels of Hierarchy)
เป็ นกำรยืมบิตของ HostID มำใช้เพื่อกำหนดซับเน็ต เรำจะกำหนดไอพีออกเป็ น 3
ระดับ
1. NetID ระดับแรกที่ใช้ระบุไซต์ (Network)
2. SubNetID ระดับที่สองใช้ระบุฟิสิ คลั ซับเน็ตเวิร์ก
ั ซับเน็ตเวิร์ก
3. HostID ระดับที่สำมเป็ นกำรระบุกำรเชื่อมต่อของโฮสต์กบ
Without subnetting
141
141 .. 14
14 .. 22
NetID
With Subnetting
141 . 14
NetID
..
21
21
HostID
.
2
.
SubNet
21
HostID
ซับเน็ตมาสก์ (Subnet Mask)
เป็ นกำรทำควบคู่ไปกับกำรทำซับเน็ต
ซับเน็ตมำสก์หรื อมำสกิ้ง (Masking)เป็ นขบวนกำรที่บอกให้รู้วำ่ เครื อข่ำยมีกำรแบ่ง
ซับเน็ต
บิตที่ยม
ื ไปทำกำรแบ่งซับเน็ตกีบิตและใช้ตำแหน่งใดเพื่อระบุเครื อข่ำยย่อย
ค่ำดีฟอลต์ (Default)
ซับเน็ตมาสก์ (binary)
A 11111111000000000000000000000000
B 11111111111111110000000000000000
C 11111111111111111111111100000000
Dotted-Decimal
255.0.0.0
255.255.0.0
255.255.255.0
CIDR
/8
/16
/24
ซับเน็ตมาสก์ (Subnet Mask)(cont.)
กำรตั้งค่ำให้กบั ซับเน็ตมำสก์น้ นั ค่ำที่เป็ น 1 จะตรงกับหมำยเลขเครื อข่ำยและ
เครื อข่ำยย่อย ค่ำที่เป็ น 0 จะตรงกับหมำยเลขโฮสต์
IP Address
Subnet Mask
หมายเลขเครือข่ าย
A 15.25.2.4
255.0.0.0
15.0.0.0
B 135.67.23.45
255.255.0.0
135.67.0.0
C 201.34.23.45
255.255.255.0
201.34.23.0
IP Address Subnet
A 15.25.2.4
B 135.67.23.45
C 201.34.23.72
Subnet Mask
255.255.0.0
255.255.255.0
255.255.255.192
หมายเลขเครือข่ าย
15.25.0.0
135.67.23.0
201.34.23.64
การจัดสรรไอพีแอดเดรสแบบไม่ ใช่ คลาส
(Classless Addressing)
เป็ นกำรมุ่งเน้นไปที่ไอพีแอดเดรสที่จะนำมำใช้งำนกับ
โฮสต์ได้จริ งโดยจะไม่สนใจเรื่ องคลำส จึงทำให้สำมำรถมี
ไอพีเหลือให้บริ กำรลูกค้ำอีกจำนวนมำก
CIDR Notation (Classless Inter-Domain Routing)
CIDR (ไซเดอร์ CI-DER) ใช้สำหรับกำรทำมำสกิ้งด้วย
สัญลักษณ์ / (Slash) แล้วตำมด้วยขนำดของมำสก์
ตัวอย่ำง 128.10.0.0 จะมี NetID 16 บิตแรก (Prefix) และ HostID
16 บิตหลัง(Suffix) ก็จะแทนด้วย 128.10.0.0/16
การคานวณหาแอดเดรสซับเน็ต
กำรคำนวณหำแอดเดรสซับเน็ตจะใช้ประโยชน์จำกซับเน็ตมำสก์และไอพี
แอดเดรส
กำรมำสก์แบบ Boundary-Level
เป็ นกำรตั้งค่ำซับเน็ตมำสก์ตำมค่ำดีฟอลต์ของแต่ละคลำสด้วยกำรกำหนดบิตเป็ น 1
หรื อ 0 ทั้งหมดในแต่ละออคเทต ค่ำจะตรงกับเลขฐำนสิ บคือ 255 หรื อ 0 เป็ นวิธีที่
คำนวณหำแอดเดรสซับเน็ตได้ง่ำย
IP Address
Mask
Subnetwork Address
Octet 1
173
255
173
Octet 2
23
255
23
Octet 3
21
255
21
Octet 4
8
0
0
กำรคำนวณหำแอดเดรสซับเน็ต (ต่อ)
กำรมำสก์แบบ Nonboundary-Level
เป็ นกำรมำสก์ที่ไม่ได้กำหนดเป็ น 255 หรื อ 0 ถือว่ำเป็ นกำรกำหนดภำยนอก
ขอบเขต เป็ นกำรกำหนดแบบ Custom จะใช้ค่ำซับเน็ตมำสก์เป็ นตัวกำหนดจำนวน
ซับเน็ตและจำนวนโฮสต์ตำมควำมเหมำะสม กำรหำแอดเดรสซับเน็ตด้วยกำรนำ
ออคเทตมำงมำสก์ไปเทียบบิตกับหมำยเลขไอพีดว้ ยโอเปอเรชัน่ And
ตัวอย่ำง
IP Address
Mask
Subnetwork Address
Octet 1
45
255
45
Octet 2
123
192
64
Octet 3
21
0
0
Octet 4
8
0
0
กำรคำนวณหำแอดเดรสซับเน็ต (ต่อ)
โอเปอเรชัน่ AND
0 and 0 = 0, 0 and 1 = 0, 1 and 0 = 0, 1 and 1 = 1
ผลที่ได้คือ
123 = 0 1 1 1 1 0 1 1
192 = 1 1 0 0 0 0 0 0
64 = 0 1 0 0 0 0 0 0
ดังนั้นไอพีแอดเดรส 45.123.21.8 ที่มีค่ำมำสก์เป็ น 255.192.0.0 จะมีแอดเดรส
ซับเน็ตคือ 45.64.0.0
โอเปอเรชัน
่ OR กับ bitwise not Mask ก็จะได้ Broadcast Address
Bitwise not เช่น 0011 ก็จะได้ 1100
เครื อข่ำยไอพีภำยใน (Private IP Network)
เรำสำมำรถ Private IP นี้ได้โดยไม่ตอ้ งจดทะเบียนกับทำงบริ ษทั ที่บริ กำร
อินเทอร์เน็ต
คลาส เริ่มต้ น
สุ ดท้ าย
A
10.0.0.0
10.255.255.255
B
172.16.0.0
172.31.255.255
C
192.168.0.0
192.168.255.255
Loopback Address 127.0.0.1 ใช้สำหรับทดสอบหำข้อผิดพลำดจะส่ งแพ็กเก็ต
กลับมำยังเครื่ องตนเอง
Network Address Translation (NAT)
เพื่อกำรทำมัลติเพล็กซ์จรำจรเครื อข่ำยภำยในให้สำมำรถออกไปยังเครื อข่ำย
อินเทอร์เน็ตได้
่ ี่เร้ำเตอร์
เป็ นโปรแกรมที่รันอยูใ่ นระบบหรื อบรรจุอยูท
ช่วยแก้ปัญหำกำรขำดแคลนไอพีดว้ ย
จะดำเนิ นกำรแปลง (Mapping) ไปรเวตไอพีมำเป็ นไอพีแอดเดรสจริ งที่ได้รับกำร
จดทะเบียน (Registered IP Address) เพื่อให้สำมำรถเชื่อมต่ออินเทอร์ เน็ตได้
NAT แบบสเตติก (Static NAT)
เป็ นกำรจับคู่ระหว่ำงไปรเวตไอพีกบั ไอพีแอดเดรสจริ งแบบหนึ่ งต่อหนึ่ ง
ไม่ได้ช่วยประหยัดไอพี
ทำให้บุคคลภำยนอกเข้ำถึงเครื อข่ำยได้
NAT แบบไดนำมิก (Dynamic NAT)
เป็ นกำรจับคู่ระหว่ำงไปรเวตไอพีกบั ไอพีแอดเดรสจริ งแบบหมุ่นเวียนไม่ตำยตัว
ไม่ได้ช่วยประหยัดไอพี
ทำให้บุคคลภำยนอกไม่สำมำรถเข้ำถึงเครื อข่ำยได้
ไอพีจริ งจะมีกำรกำหนดช่วงให้และหมุ่นเวียนไปเรื อยๆภำยในช่วงที่กำหนดไว้
NAT แบบโอเวอร์โหลดดิ้ง (Overloading NAT)
เป็ นกำรจับคู่ระหว่ำงไปรเวตไอพีกบั ไอพีแอดเดรสจริ งแบบแปลงไอพีจริ งเพียง
หมำยเลขเดียวเท่ำนั้นแต่จะมีหมำยเลขพอร์ ตที่แตกต่ำงกัน
ช่วยประหยัดไอพี
มีชื่อเรี ยกอีกแบบ เช่น Port Address Translation (PAT), Single Address NAT,
Port-Level Multiplexed NAT
NAT แบบโอเวอร์แลปปิ้ ง (Overlapping NAT)
เครื อำข่ำยภำยในที่ได้นำไอพีแอดเดรสจริ งมำใช้ซ่ ึ งแอดเดรสดังกล่ำวเป็ นของ
เครื อข่ำยอื่นหรื อกรณี ที่ได้เปลียน ISP รำยใหม่ ทำให้ได้หมำยเลขใหม่แทนของเดิม
ที่ยกเลิกไป แต่ไม่ตอ้ งคอนฟิ กหมำยเลขไอพีภำยในเครื อข่ำยทั้งหมด
จะทำกำรแปลงไอพีจริ งที่ไม่ใช่ของเรำมำเป็ นไอพีจริ งที่เรำได้จดทะเบียนไว้
ไอพีเวอร์ชนั่ 6 (IPv6)
ปั จจุบนั ถือว่ำเป็ นมำตรฐำนแล้ว
ยังคงสำมำรถทำงำนร่ วมกัน IPv4 ได้
มีกำรเปลี่ยนแปลงในรำยละเอียดบำงส่ วนเช่น
มีกำรใช้ขนำดของแอดเดรสที่ใหญ่ข้ ึน
รู ปแบบของดำต้ำแกรมเฮดเดอร์ ได้มีกำรเปลี่ยนโครงสร้ำงใหม่ท้ งั หมด
ใช้เฮดเดอร์ แบบ Fixed-Length ในกำรควบคุมข้อมูลเฮดเดอร์
กำรกำหนดตำแหน่งที่อยูใ่ น IPv6 (IPv6 Addressing)
1. ยูนิคำสต์ (Unicast) คือแอดเดรสที่ใช้ติดต่อกับคอมพิวเตอร์ เครื่ องเดียวจะส่ งไป
ยังแอดเดรสปลำยทำงสำหรับเครื่ องนั้นเพียงเครื่ องเดียว
2. มัลติคำสต์ (Multicast) คือแอดเดรสที่ใช้ติดต่อไปยังกลุ่มคอมพิวเตอร์ จะส่ งไป
ยังกลุ่มสมำชิก
3. เอนนี คำสต์ (Anycast) คือแอดเดรสที่ใช้ติดต่อยังกลุ่มทีใช้ฟรี ฟิกซ์เหมือนกันจะ
ส่ งมอบไปยังเครื่ องที่อยูใ่ กล้กบั ผูส้ ่ งมำกที่สุด
กำรแทนค่ำไอพีแอดเดรสด้วยเลขฐำนสิ บหก
(IPv6 Colon Hexadecimal Notation)
จะมีขนำด 128 บิต
แทนค่ำแอดเดรสในรู ปแบบเลขฐำนสิ บหก
แบ่งออกเป็ น 8 กลุ่มแต่ละกลุ่มมี 16 บิตใช้เครื่ องหมำย “:” (Colon)ในกำรแบ่งส่ วน
แต่ละกลุ่ม
เช่น 69DC:8864:FFFF:FFFF:0:1280:8C0A:FFFF
สำมำรถย่อได้ถำ้ มี 0 นำหน้ำสำมำรถตัดออกได้ หรื อ 0 ติดกันเป็ นชุดแทนด้วย “::”
แต่จะใช้ได้เพียงครั้งเดียว
กำรแทนค่ำไอพีแอดเดรสด้วยเลขฐำนสิ บหก
(IPv6 Colon Hexadecimal Notation)(cont.)
ตัวอย่ำง
69DC:0064:FFFF:FFFF:0000:1280:8C0A:000F
69DC:64:FFFF:FFFF:0:1280:8C0A:F
ตัวอย่ำง
FDEC:0:0:0:0:BBFF:0:FFF
FDEC::BBFF:0:FFF
แบบฝึ กหัด
1. ให้ตอบคำถำมในช่องที่วำ่ ง
Address
130.4.102.1
Mask
255.255.255.0
AND result (Subnet) …………
Broadcast address 130.4.102.255
2. ให้ตอบคำถำมในช่องที่วำ่ ง
Address
199.1.1.100
Mask
…………
AND result (Subnet) …………
Broadcast address …………
10000010 00000100 01100110 00000001
11111111 11111111 11111111 00000000
………………………………
10000010 00000100 01100110 11111111
11000111 00000001 00000001 01100100
11111111 11111111 11111111 00000000
11000111 00000001 00000001 00000000
…………………………………
แบบฝึ กหัด
3. ให้ตอบคำถำมในช่องที่วำ่ ง จำกไอพีแอดเดรสที่กำหนดให้ต่อไปนี้จงระบุดค่ำดี
ฟอลต์ซบั เน็ตมำสก์
1 177.100.18.4
…………….
2 119.18.45.0
…………….
3 191.249.234.191
…………….
4 223.23.223.109
…………….
5 10.10.250.1
…………….
6 126.123.23.1
…………….
7 223.69.230.250
…………….
8 1.1.10.50
…………….
แบบฝึ กหัด
4. จงอธิบำยหลักกำรทำงำนของ NAT โดยมีกี่แบบอะไรบ้ำง