Transcript Document

เอกสารประกอบการบรรยาย
่
เรือง
การประเมินทางเลื
อกในวิชIn
าพล
Alternative
Assessment
ศึกษา
Physical Education
โดย: รศ. ดร.กรรวี บุญช ัย
ภาควิชาพลศึกษา คณะ
ศึกษาศาสตร ์
Albert Einstein ได้แสดงให้
เห็นภาวะของนักพลศึกษาที่
กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในการ
่
ทีจะพยายามประเมินผู เ้ รียน
่ ค
่ านวณได้จะ
มิใช่ทุกสิงที
สามารถนับได้ และมิใช่ทุก
่ นั
่ บได้จะสามารถ
สิงที
่ ท้
่ าทายยิงใหญ่
่
สิงที
ของนัก
่
พลศึกษาทีเผชิ
ญหน้าใน
ปั จจุบน
ั คือ การพัฒนา
่
เครืองมือในการประเมินผล
ไม่เฉพาะในการประเมิน
้
นักเรียนเท่านันแต่
รวมทัง้
การกาหนดคะแนนของ
่ น
วิธก
ี ารประเมินผลทีเป็
่ ได้
มาตรฐานมากมายทีใช้
เช่น แบบทดสอบทักษะทาง
กีฬา (skill tests) และ
ข้อสอบข้อเขียน (written
tests) อย่างไรก็ตาม นัก
พลศึกษาพบว่า
แบบทดสอบดังกล่าว เป็ น
่ ปแบบของการประเมิน
 ซึงรู
่
แบบทีเคยปฏิ
บต
ั ก
ิ น
ั มาไม่
สอดคล้องกับการจัดการ
่
เรียนรู ้ หรือเป็ นรู ปแบบทีดู
่ ครู
่
เหมือนว่าไม่วด
ั ในสิงที
ต้องการจะวัด เช่น ครูได้สอน
่
เกียวกั
บการตีลูกหน้ามือ หลัง
มือ การส่งลู ก ตีลูกวอลเลย ์
่
 เพือประเมินนักเรียน ครูใช้
แบบทดสอบทักษะ โดยให้
่
นักเรียนคนหนึ่ งยืนทีตาข่
าย
่
และโยนลู กบอลให้เพือนตี
ลูก
้
ทังหน้
ามือและหลังมือโดย
กาหนดเป้ าหมายไว้ในสนาม
แบบทดสอบดังกล่าวอาจจะ
่
เทียงตรงในการวั
ดการตีลูก
 แต่แบบทดสอบดังกล่าว
้
อาจจะไม่ใช่ตวั บ่งชีควา
สามารถของนักเรียนในการ
เล่นเทนนิ ส เพราะครูได้สอน
่ ๆในการเล่นด้วย
ทักษะอืน
เช่น ยุทธวิธใี นการเล่น
ตาแหน่ งในการเล่น และการ
 นักพลศึกษาจึงมองหา
แนวทางในการประเมิน
ความสามารถในการเล่นเกม
ของผู เ้ รียนด้วยการใช้ความรู ้
่
เกียวกับต
าแหน่ งในการเล่น
และแสดงความสามารถใน
การเล่นภายใต้กติกาที่
กาหนด จึงมีความจาเป็ น
่
จากการเคลือนไหวในการ
ปฏิรูปการศึกษา ในประเทศ
สหร ัฐอเมริกาในปี ค.ศ.
1990 (2533) และใน
ประเทศไทยก็เช่นเดียกัน
(พ.ศ. 2542) มีผลต่อการ
ประเมินและการประกัน
คุณภาพทางการศึกษา
รู ปแบบใหม่ของการประเมิน
่ ามาใช้ในกระบวนการ
ทีน
สอนและการเรียนรู ้ ได้แก่
“alternative
assessment” และ
“authentic assessment”
Alternative
Assessment
หมายถึงรู ปแบบการประเมิน
่
ใด ๆก็ตามทีแตกต่
างไปจาก
่
การประเมินทีเคยปฏิ
บต
ั ก
ิ น
ั
มา (traditional test)
้ ยกอีก
การประเมินแบบนี เรี
อย่างหนึ่ งว่า
การประเมินผลในลักษณะ
้ นการส่งเสริมการ
นี เป็
สร ้างสรรค ์ของเด็กซึง่
สนับสนุ น Creative
Education อนุ ญาตให้
้
ผู เ้ รียนสร ้างชินงาน/
ผลงาน เช่น การวาดภาพ
่ กต้อง การจัดทา
การเตะทีถู
ตัวอย่างของ Alternative
Assessment
 Projects
 Portfolio
 Even
 Student
Tasks
 Observatio
ns
 Checklists
Log or
Journals
 Rating
Scales
ตัวอย่างของ Alternative
Assessment
 Slide
Shows
 Video
production
 Poster
 Essays/Rep
 Personal
Fitness Log
 Oral
Reports
 Worksheets
 Interview/F
Alternative
Assessment/Authentic
Assessment
Wiggins (อ้างใน Lacy &
Hastad, 2003, p. 314)
่
ได้ปร ับมาตรฐานเพือ
่
ประเมินว่าเครืองมือในการ
ประเมินเป็ น Authentic
Assessment หรือไม่ และ
่
คล้ายคลึงกับเกมเท่าทีจะ
้ เ้ รียน
เป็ นไปได้ งานนันผู
สามารถปฏิบต
ั ข
ิ ณะที่
ผู เ้ รียนอยู ่ในการเล่นเกม
ต้องการองค ์ความรู ้ด้วย
เช่น กติกา ยุทธวิธ ี และ
่
่
ตาแหน่ งในการเล่น ซึงสิง
้
กระตุน
้ ให้ผูเ้ รียนใช้ทก
ั ษะ
เช่นเดียวกับการเล่นเกม
่
่
หรือในสภาพการเคลือนที
่
ไม่ใช่ในลักษณะอยู ่กบ
ั ที
 จากแหล่งข้อมู ลพบว่า
ใช้คา
ว่า “Alternative” และ
“Authentic” สลับก ัน
อย่างไรก็ตามในสาขาวิชาพล
่
ศึกษา เครืองมื
อในการ
ประเมินทางเลือก
(alternative assessment)
เช่น Portfolio, Student
 และ
Authentic
Assessment ใช้ในการ
อธิบายการประเมินงานใน
บริบทของเกมหรือกีฬา และ
วัดความสามารถในการเล่น
เกมมากกว่าการแยกทักษะ
้ “Authentic
 ดังนัน
Assessment” เป็ นรู ปแบบ
เหตุผลสาหร ับการใช้การ
ประเมินทางเลือก
 ครู จะต้องประเมินในการสอนแต่
่
ละครง้ั ซึงอาจจะไม่
จาเป็ นต้อง
เป็ นทางการทุกครง้ั ครู จะ
่
ตัดสินใจอย่างต่อเนื่ องเกียวกั
บ
ความสามารถของผู เ้ รียน ซึง่
อาจจะใช้แบบการประเมินเป็ น
้ั การ
ระยะ หรือในบางครงใช้
การประกันคุณภาพ
(Accountability)
 ความกดดันของโรงเรียนใน
ปั จจุบน
ั คือ ต้องแสดงให้เห็น
ถึงความก้าวหน้า
(progress) และการเรียนรู ้
(learning) และยังต้องแสดง
ให้เห็นว่าผู เ้ รียนบรรลุตาม
้
 ดังนันประสิ
ทธิภาพของนัก
พลศึกษาก็คอ
ื แสดงให้เห็นถึง
่ ดขึนในช
้
้ั
การเรียนรู ้ทีเกิ
น
เรียน นักพลศึกษาต้องแสดง
ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ
โปรแกรม พลศึกษาใน
โรงเรียน แนวทางหนึ่ งก็คอ
ื
่
การพัฒนาเครืองมื
อในการ
Weakness of Standard
Testing Practices
ทาไมแบบทดสอบ
มาตรฐานในการวัดทักษะ
(standardized skill
่
tests) จึงไม่เป็ นตัวเลือกทีดี
่ ดในการนามาประเมิน
ทีสุ
่
การเรียนรู ้ของผู เ้ รียนซึงก็
 ประการแรก
แบบทดสอบ
่ เกณฑ ์
มาตรฐานทีมี
่
มาตรฐาน (norms) เทียงตรง
สาหร ับเฉพาะกลุ่ม เช่น
AAHPER Football Skills
Test, 1966 สาหร ับนักเรียน
่
ชาย อายุ 10-18 ปี ซึงเกณฑ
์
มาตรฐานอาจจะไม่เหมาะกับ
ประการที่
2 แบบทดสอบ
้
มาตรฐานอาจจะวัดเนื อหา
่ สอน แบบทดสอบ
สาระทีครู
อาจจะวัดเพียงทักษะเดียว
่ ตอ
ในขณะทีครู
้ งการ
้
ประเมินในการเล่นทังหมด
 ประการที่
3 แบบทดสอบ
มาตรฐานใช้เวลาในการ
ดาเนิ นการ ต้องจัดเตรียม
่ั
อุปกรณ์ ครู ทมี
ี่ ชวโมงสอน
มาก อาจจะมีเวลาไม่มาก
ระหว่างห้องเรียนในการ
่
จัดเตรียมสถานทีและอุ
ปกรณ์
ในการดาเนิ นการทดสอบ ทา
ประการสุดท้าย
แบบทดสอบมาตรฐานจะ
้
่
ขึนอยู
่กบ
ั สิงแวดล้
อมที่
้ เพือนนั
่
สร ้างขึน
กเรียนจะ
เป็ นคนโยนลู กบอลหรือกลิง้
่
่
ลู กบอลในขณะทีอยู ่กบ
ั ที
ไม่ใช่จากการตีดว้ ย
้
ดังนัน อาจจะกล่าวได้วา
่
แบบทดสอบมาตรฐานมี
ประโยชน์สาหร ับการ
ประเมินแบบเป็ นระยะ
(formative feedback)
สาหร ับทักษะเฉพาะอย่าง
หรือในการประเมินตนเอง
การประเมินตามสภาพจริง
(Authenticity)
่ า
นักพลศึกษาเห็นด้วยทีว่
เป้ าหมายสู งสุดของการ
สอนกีฬาประเภททีม และ
่
ประเภทเดียว คือให้นก
ั เรียน
่
มีทก
ั ษะเพือความ
สนุ กสนานในการเล่นเกม
่
 ถ้านักพลศึกษาต้องการทีจะรู
้
ว่านักเรียนสามารถเล่นเกม
ได้ดแ
ี ค่ไหน ครู กต
็ อ
้ งใช้
่ นระบบ ใน
วิธก
ี ารสังเกตทีเป็
การประมินการเล่นเกม ครู
อาจจะสนใจองค ์ความรู ้ด้าน
เจตพิสย
ั เช่น ความมีน้ าใจ
นักกีฬา ความร่วมมือ หรือ
ความเป็ นปรนัย
(Objectivity)
 นักพลศึกษาต้องการ
ประเมินความชานาญในการ
่
เล่นเกมจริง ๆซึงอาจจะใช้
การสังเกตอย่างง่ าย ๆและ
สร ้างการตัดสินแบบอ ัตนัย
(subjective judgment)
การเฝ้าดู นก
ั เรียนเล่มเกม
่ ยกว่า “eyeballing”
ซึงเรี
วิธด
ี ังกล่าวถือว่าขาดความ
เป็ นปรนัย ขาดความ
่ อได้ และไม่สามารถ
เชือถื
ประกันได้วา
่ นักเรียนทุกคน
มีโอกาสในการแสดงทักษะ
 เช่น
สมมติวา
่ ครู ประเมิน
ความสามารถในการเล่น
ฟุ ตบอลของนักเรียนระดับ
มัธยมศึกษา ทีมที่ 1 มี
่ ทก
นักเรียนทีมี
ั ษะและ
่ เกมรุกที่
ประสบการณ์สูง ซึงมี
ดีตลอดเกม นักเรียนในทีมนี ้
จะได้คะแนนดีในการเล่มทีม
่ กเรียนในอีก
ในขณะทีนั
่ ทก
กลุ่มหนึ่ งทีมี
ั ษะน้อยกว่า
อาจจะไม่สามารถแสดง
ทักษะ ถ้าขาดการสังเกต
อย่างมีระบบ นักเรียนที่
่
ขาดทักษะคงเคลือนไหวไป
ตามเกม แต่การทุ่มเทให้ก ับ
้
ความถู กต้อง
(accuracy)
 ถ้าครู ตอ
้ งการประเมินทักษะ
ส่วนบุคคลมากกว่าการเล่น
เกม การประเมินผลทางเลือก
จะมีประสิทธิภาพในประเด็นนี ้
ครู สามารถปร ับการประเมิน
่
่
ในสภาพการเคลือนที
มากกว่า closed
่
่
 เครืองมื
อทีสามารถน
ามาใช้
มีหลากหลาย เช่น แบบ
ประมาณค่า (rating scales)
หรือตรวจสอบรายการ
(checklists) สามารถใช้ได้
้
ทังในการประเมิ
นทักษะและ
การเล่นเกม
 ส่วน แฟ้มสะสมงาน
่
ความเทียงตรงและความ
่
เชือถือได้ (Validity และ
Reliability)
แม้วา
่ การประเมินทางเลือก
ดู จะทาให้การประเมิน
่
นักเรียนน่ าตืนเต้
น แต่ม ี
่
ประเด็นสาคัญ 2 ประการที
ควรได้ร ับการพิจารณา
่
ความเทียงตรงและความ
่ อได้ตอ
เชือถื
้ งร ักษาไว้
ในการใช้การประเมิน
ทางเลือกครู ตอ
้ งให้
ความสาคัญทัง้ 2 ประเด็น
ดังกล่าว
ประเด็นของความ
่
เทียงตรง
่
 จากทีกล่าวมาแล้วว่า
แบบทดสอบมาตรฐานอาจจะ
้
่
ไม่วด
ั เนื อหา/สาระจริ
ง ๆทีครู
่ ยวข้
่
สอน ประเด็นทีเกี
องคือ
่
่นเอง วิธท
ความเทียงตรงนั
ี ี
่ ดในการตรวจความ
ง่ ายทีสุ
่
เทียงตรงของการประเมิ
น คือ
 ตัวอย่าง
จุดประสงค ์ของการ
เรียนรู ้คือ นักเรียนสามารถ
ปฏิบต
ั ท
ิ ก
ั ษะการตีลูกหน้ามือ
(groundstroke) ไปยังสนาม
่
ด้านตรงข้ามด้วยฟอร ์มทีดี
่ จะวั
่ ดว่านักเรียนสามารถ
 เพือที
ตีลูกหน้ามือ (groundstroke)
่
่
ได้หรือไม่เครืองมื
อทีสารถน
า
เกณฑ ์ในแบบประเมินควร
สอดคล้องกับส่วนประกอบ
่ น
ของการตีลูกหน้ามือทีเน้
้
ในชนเรี
ั ยน ในลักษณะ
้
เช่นนี จะเป็
นการประเมินที่
่
เทียงตรง
เพราะว่าวัดตาม
จุดประสงค ์การสอน
(instructional
 หรือนักเรียนสามารถปฏิบต
ั ิ
ทักษะการตีลูกหน้ามือ
(groundstroke) ไปยัง
สนามด้านตรงข้ามด้วย
่ และใช้ยุทธวิธท
ฟอร ์มทีดี
ี ี่
เหมาะสมในการเล่นประเภท
้ องมื
่
คู ่ ในกรณี นีเครื
อในการ
ประเมินต้องควรสอดคล้อง
ความสามารถในการตีลูก
หน้า(groundstroke) มี
่
ฟอร ์มทีดี และใช้ยุทธวิธ ี
่
่
ทีเหมาะสม ซึงสามารถ
ใช้ได้ระหว่างการเล่น
ประเภทคู ่
ประเด็นของความ
่ อได้
เชือถื
่
่
 ความเชือถือได้เป็ นประเด็นที
ต้องพิจารณาสาหร ับ
่
เครืองมื
อในการประเมิน
ทางเลือก เช่นเดียวกับ
่ ๆคือ
แบบทดสอบอืน
่
“แบบทดสอบทีมีความ
่ อง
อีกประเด็นหนึ่ งทีต้
พิจารณาคือความเป็ น
ปรนัย – is as free bias as
possible
Types of Alternative
Assessments
Students Projects
Portfolios
Even Tasks
Student Logs and
Journals
แบบตรวจสอบรายการ
(Checklist)
่ องทราบว่า
 ใช้เมือต้
ใช่ หรือ
้
ไม่ใช่เท่านัน
 ใช้มากในการประเมินแบบเป็ น
ระยะ (formative
assessment)
่ าหนดจุดประสงค ์
 และใช้เมือก
แบบตรวจสอบรายการ
(Checklist)
การใช้แบบตรวจรายการ
ครู ตอ
้ งแน่ ใจว่านักเรียนมี
การฝึ กซ ้อมอย่างเพียงพอ
้
ในทักษะนัน ๆ
กาหนดขุน
้ ตอนในการ
สร ้าง
แบบตรวจสอบรายการ
่
(Checklist):การวิ
ง
้
ลงสู พ
่ นด้
ื วยส้นเท้า-ปลายเท้า
Yes No
่
วิงอย่
างเต็มฝี เท้า
Yes No
โน้มตัวไปข้างหน้า
Yes No
แขนแกว่งในระดับไหล่และ
 แบบตรวจสอบรายการ
(Checklist):ควบม้า (Gallop)
เกณฑ ์ (Criteria):
่
่
่
หันหน้าไปยังทิศทางทีเคลื
อนที
Yes No
่
่
เคลือนที
ไปข้
างหน้า
Yes No
่
วิงโหย่
งด้วยเท้าหลัง
แบบตรวจสอบรายการ ด้านจิต
พิสย
ั
่ จารณ์เพือนในช
่
้ั ยน
กล้าทีจะวิ
นเรี
Yes No
่ ของคู ต
ยอมร ับการเล่นทีดี
่ อ
่ สู ้
Yes No
เคารพการตัดสิน
Yes No
่
้
แบบประมาณค่า
(rating Scales)
 เป็ นการกาหนดตว
ั เลข
หรือ
แสดงเชิงคุณภาพ การประเมิน
ส่วนใหญ่จะมีลก
ั ษณะเป็ นแบบ
analytic assessment หรือ
holistic assessment
 ประเมินทักษะเฉพาะใช้
analytic
่ ามาใช้
เกณฑ ์ทีน
 1-3
 1-4
 1-5
 ตัวอย่าง
Soccer
Shooting Skill
Rating Scale
งานเฉพาะกรณี (Event
Task)
่
 เป็ นงานทีแสดงความสามารถ
่ นสุ
้ ดการ
ของนักเรียนเมือสิ
่ ยนในชนเรี
้ั ยน
เรียน ใช้สงที
ิ่ เรี
นามาใช้จริง เช่น สาธิตทักษะ
ความสามารถในการทางาน
ภายในกลุ่ม
่
 ใช้การสังเกต (ครู เพือน)
โครงงาน (Student
Project)
 ให้นก
ั เรียนทาโครงงาน
เฉพาะบุคคลหรือเป็ นกลุ่มเล็ก
ๆ ครู เสนอข้อแนะนาโครงงาน
่
อาจจะเกียวกับองค
์ความรู ้ที่
้ั ยน
ได้เรียนในชนเรี
 ช่วงเวลาจะมากกว่า Even
Task และทานอกเวลาเรียน
Student
Journals
่
 เป็ นการแลกเปลียนข้
อมู ล
่
ข่าวสาร เกียวกับควารู
้สึก
่
เจตคติ การสะท้อนเกียวกับ
่
้ั
กิจกรรมต่าง ๆทีจัดในช
น
่
เรียน ซึงอาจจะเป็
นช่วงของ
้ ดกิจกรรมให้แสดง
การสินสุ
่
ความรู ้สึกเกียวกับ
Student
Journals
ผู เ้ รียนมีอส
ิ ระในการแสดง
ความคิดเห็น ไม่มผ
ี ด
ิ หรือ
ถู กในการสะท้อนความรู ้สึก
่
ครู พจ
ิ ารณาข้อมู ลเพือ
ประโยชน์ในการจัด
กิจกรรมต่อไป
สมุดจดบันทึกของผู เ้ รียน
(Student Log)
่
สมุดบันทึกเกียวกั
บการ
ออกกาลังกาย (Exercise
Log)
่
สมุดบันทึกเกียวกั
บ
โภชนาการ (Nutrition
Log)
แฟ้มสะสมงาน
(Portfolios)
่ ่
หมายถึง สิงที
ต้องประกอบไปด้วย 3 ส่วน
ดังต่อไปนี ้
 แฟ้มสะสมงาน
1. การสะสม (Collection)
หมายถึงสะสมผลงานหรือ
่ ยวข้
่
หลักฐานต่าง ๆ ทีเกี
องกับ
นักเรียน ผู ป
้ กครอง แฟ้มสะสม
2.การจัดระบบข้อมู ล
(Organization) หรือสะสาง
หลักฐานต่าง ๆ ในแฟ้ม
ประกอบด้วยกระบวนการย่อย
ๆ ดังนี ้
การให้นก
ั เรียนมีส่วนร่วมใน
้
การกาหนดเนื อหาของแฟ
้ม
สะสมงาน
การมีเกณฑ ์ในการตัดสิน
คุณค่า (Criteria for
judging merit)
การเขียนสรุปโดยย่อ
่
เกียวกั
บกระบวนการ
้
ทางานแต่ละชินโดย
นักเรียนเขียนเอง
บรรณานุ กรม
Baumgartner, T. A., A. S.
Jackson, M. T.
Mahar & D. A. Rowe.
(2007). Measurement for
Evaluation in Physical
Education and Exercise
Lacy, A.C. & D. N. Hastad.
(2003).
Measurement
and Evaluation in
Physical Education and
Exercise. San Francisco,
CA: Benjamin Cummings.
Lacy, A. C. (2011).
Measurement and
Evaluation in Physical
Education and Exercise
Science. San Francisco,
CA: Pearson Benjamin
Cummings.