Transcript Powerpoint
Sounds Multimedia Application viii ่ ความรู ้ทัวไป • เสียงจากแหล่งกาเนิ ดจะเดินทางผ่านตัวกลางใน ่ ยง รูปคลืนเสี ่ ยงจะแปรผันไปตามขนาดความถี่ • คลืนเสี ่ • ความถี่ = จานวนลูกคลืนใน 1 หน่ วยเวลา (Hertz) ่ ่ • ความดัง = ขนาดของคลืนหรื อความสูงของคลืน (Amplitude) เสียงในคอมพิวเตอร ์ ่ ์ = MIDI • เสียงจากการสังเคราะห อาศ ัยความสามารถทางฮาร ์ดแวร ์ช่วย ้ สร ้างเสียงขึนมาใหม่ • เสียงจากการบันทึก = Wave บันทึกเสียงจริงแล้วแปลงเป็ นข้อมู ล ดิจต ิ อลเก็บในคอมพิวเตอร ์ เสียงแบบมิด ี ้ (MIDI) ้ ปี ค.ศ. 1980 • ได ้ร ับการพัฒนามาตังแต่ ่ สาหร ับใช ้กับเครืองดนตรี อเิ ล็กทรอนิ กส ์และ คอมพิวเตอร ์ • MIDI ไม่ได ้เก็บสัญญาณเสียงแต่เก็บตัวโน้ต ่ ของเครืองดนตรี แทน • การแสดงผลเสียงฮาร ์ดแวร ์จะต ้องทาการสร ้าง ่ เสียงตามตัวโน้ต และชนิ ดของเครืองดนตรี ่ ้ • ฮาร ์ดแวร ์ทีสามารถสร ้างเสียงขึนมา ได ้เหมือนจริงมีราคาสูงมาก มาตรฐานมิด ี ้ • มีเสียงออเคสตร ้า 128 ชนิ ด สามารถ สังเคราะห ์เสียง ใส่เทคนิ คพิเศษในเสียง เช่น เปี ยโน เบส กีตาร ์ ทร ัมเปต แซกโซโฟน ฯลฯ • ต ้องเล่นเสียงแบบ Polyphony อย่างน้อย 24 ตัวโน๊ต และสามารถกาหนดเสียงได ้ 16 ช่อง เสียง • เสียงดนตรีชนิ ดต่างๆจะอยู่ที่ ช่องเสียง 1-9 เสียงพิเศษจะอยู่ที่ 10 เป็ นต ้นไป • ลักษณะของเสียงจะแบ่งเป็ น กลุม ่ ได ้ 16 กลุม ่ การกาหนดช่องเสียงมิด ี ้ ่ งเสย ี ง ชอ 1 ถึง 9 หน้าทีก ่ ารทางาน จานวนของต ัวโน๊ต สำหรับ extended-level เมโลดี้ 16 ตัวโน ้ต 10 สำหรับ extended – level percussion 16 ตัวโน ้ต 11 ้ ไม่ใชงำน 12 ้ ไม่ใชงำน 13 ถึง 15 16 สำหรับ base-level เมโลดี้ 6 ตัวโน ้ต สำหรับ base-level percussion 3 ตัวโน ้ต ี งแบบดิจต เสย ิ อล • เกิดจากการแปลงสัญญาณเสียงแอนาล็อก แล ้ว แปลงเป็ นดิจต ิ อลในรูปของบิตและไบต ์ ด ้วยการสุม ่ จับ(Sampling • การสุม ่ จับ – อัตราการสุม ่ จับ(Sampling Rate) จานวนครง้ั ในการสุม ่ จับในหน่ วยเวลา(วินาที) – ขนาดของการสุม ่ จับ(Sampling Size) คือ ่ ้จากการสุม ขนาดของข ้อมูลทีได ่ จับ • ขนาดขอมูลเสียงดิจต ิ อลมีขนาดใหญ่มากต ้องการ ทร ัพยากรในการประมวลผลสูง ี ง การประมวลผลไฟล์เสย • คือ การป้ อนเสียงเข ้าสูค ่ อมพิวเตอร ์ ทาการปร ับ ่ ขนาด ความถี่ ผสมผสาน เพิมเทคนิ กพิเศษ ตาม ต ้องการไปจนถึงการแสดงผลทางลาโพง ี ง การบ ันทึกข้อมูลเสย • บันทึกเสียง คน เช่นการพากย ์ เสียง ให ้เสียง ตัวละคร • บันทึกเสียงจากธรรมชาติ จากแหล่งต่างๆ ่ เพือประกอบเทคนิ กพิเศษ ่ • บันทึกเสียงดนตรีเพือการพาณิ ชย ์และการ บันเทิง ่ ากลับมาใช ้ใหม่ในอนาคต • บันทึกเพือน – MIDI บันทึกเป็ นตัวโน้ตดนตรี – Wave บันทึกเสียงจริงในรูปแบบดิจต ิ อล ี ง การนาเข้าข้อมูลเสย ่ ่ ทีมี ่ • นาเข ้าจากสือภายนอกอื นๆ อยู่แล ้ว ผ่านทางช่องทาง – Aux-in – Line-in – Microphone – CD ่ เช่น USB , Network – อืนๆ • อาจต ้องนาไปผ่านกระบวนการ ่ ้งานได ้ แปลงให ้อยู่ในรูปแบบทีใช การแก้ไขและการเพิม ่ เทคนิค พิเศษ ่ • กระบวนการปร ับแต่งเสียงซึงอาจประกอบไปด ้วย... – – – – ่ การเพิมหรื อลดความดัง ่ ่ การปร ับเปลียนความถี การกรองเสียงรบกวน ่ การเพิมเทคนิ กพิเศษต่างๆ เป็ นต ้น ่ • ต ้องใช ้ซอฟต ์แวร ์ทางานร่วมกับฮาร ์ดแวร ์ทีมี ประสิทธิภาพ ี ง การจ ัดเก็บข้อมูลเสย • ขนาดแฟ้มข้อมู ลกับคุณภาพของเสียง – ขนาดของการบันทึกจะอยู่ทคุ ี่ ณภาพของเสียง (Audio Resolution) ้ – ขนาดขึนอยู ่กบั ระบบเสียง Mono หรือ Stereo ้ – ขนาดขึนอยู ่กบั ขนาดของการสุม ่ จับ • การปร ับระดับในการบันทึกเสียง – อาศัยดิจต ิ อลมิเตอร ์(Digital meter) สาหร ับวัด และปร ับระดับความดังให ้พอดีกบั การใช ้งาน – ระดับความดังต ้องไม่ต่ากว่าข ้อจากัดและไม่เกิน ขีดจากัด ่ – ระดับความดังทีเหมาะสมอยู ่ที่ -10 ถึง -3 ี ง การบีบอ ัดไฟล์เสย • ไฟล ์เสียงคุณภาพสูงมีขนาดใหญ่มาก • ไฟล ์เสียง 1 เพลง 3 นาทีอาจมีขนาดความจุเท่ากับ 30 MB หรือมากกว่า • รูปแบบการบีบอัดมีหลายวิธก ี ารได ้แก่ ADPCM ย่อ มาจาก Adaptive Differential Pulse Code ่ ้ร ับความนิ ยมมาก Modulation แต่รป ู แบบทีได ่ ดคือ MPEG ทีสุ ้ั าไม่ได ้มาก จนอาจต ้องยอม • การบีบอัดบางครงท สูญเสียบางอย่างไป MPEG : Motion Picture Expert Group • มาตรฐานการบีบอัดภาพวีดท ิ ศ ั น์และเสียง • มาตรฐานการบีบอัดเสียง – MPEG-1 : เป็ นเทคโนโลยีกำรบีบอัดข ้อมูล ี ง รูปแบบทีน เสย ่ ย ิ มนำมำใชคื้ อ Mp3(MPEG Mp3(MPEG 1 Audio Layer 3) โดยจะมี อัตรำในกำรบีบอัดข ้อมูลประมำณ 10:1 – MACE : เป็ นเทคโนโลยีทม ี่ จ ี ด ุ เด่นคือ สำมำรถบีบอัดและขยำยข ้อมูลให ้มีขนำดเท่ำ ้ ้เฉพำะข ้อมูลเสย ี ง 8 บิต อัตรำ เดิม ซงึ่ ใชได ่ กำรบีบอัดประมำณ 3:1 และ 6:1 สาหร ับเครือง ่ MAC เครือง – μ-Law, A-Law : เป็ นมำตรฐำนทีก ่ ำหนดโดย ี ง รูปแบบของแฟ้มข้อมูลเสย • ไฟล ์เสียงประเภท .WAV ถูกสร ้างโดยบริษท ั ่ บสนุ นการใช ้ Microsoft และ IBM เป็ นไฟล ์ทีสนั ่ ซมี ากกว่าบนเครืองแมคอิ ่ งานบนเครืองพี นทอช • รูปแบบ CD-I (Compact Disc-Interactive) ่ ้วิธก พัฒนาโดยบริษท ั ฟิ ลิปส ์ ซึงใช ี ารแปลงสัญญาณ แบบ “Adaptive Delta Pulse Code Modulation”(ADPCM) สามารถบันทึกเสียง 20 ่ั ชวโมงใน CD 1 แผ่น • รูปแบบ NIFF มีจด ุ ประสงค ์หลักสาหร ับการทา ่ ข ้อมูลทางด ้านดนตรีอย่าง เอกสารอิเล็กทรอนิ กส ์ทีมี ี ง(ต่อ) รูปแบบแฟ้มข้อมูลเสย • Linear Pulse Code Modulation (LPCM) ี งจำกสญ ั ญำณ เป็ นวิธก ี ำรแปลงข ้อมูลเสย ั ญำณดิจต อนำลอกเป็ นสญ ิ อลแล ้วซงึ่ วิธก ี ำรนี้ ใชส้ ำหรับบันทึก CD เพลงทั่วไป สำมำรถเล่น ได ้นำน 74 - 80 นำที • MPEG จำกกำรบีบอัดภำพ แยกออกมำเป็ น ี งโดยเฉพำะ โดยมีกำรบีบอัด อัดข ้อมูลทำงเสย สำมระดับ ี ง Red Book มาตรฐานทางเสย • ISO 10149 หรือทีเ่ รียกว่ำมำตรฐำน “Red Book” มำตรฐำนนี้ ได ้กำหนดSampling Rate ให ้มี มำตรฐำนที่ 44.1 kHz และ Sampling Size มี มำตรฐำนที่ 16 บิต แบบเสตอรีโอ ี ง • กำรคำนวณขนำดของไฟล์เสย (Sampling Rate x Sampling Size)/8 = ขนำดพืน ้ ที่ เป็ น bps (Byte per second) End.