Transcript ดิน - th
จุดประสงคการเรี ยนรู้ ์ 1. อธิบายองคประกอบของดิ น ์ ได้ 2. จาแนกประเภทของดินได้ 3. บอกประโยชนของดิ นได้ ์ ดิน ดิน เป็ นทรัพยากรธรรมชาติทใี่ ห้ ประโยชนและมี ความสาคัญตอการด ารงชีวต ิ ของ ์ ่ มนุ ษย ์ สั ตว ์ และพืช เพราะสิ่ งมีชว ี ต ิ ทุกชนิด ลวนต องอาศั ยอยูบนดิ น ดินแตละแหล งมี ้ ้ ่ ่ ่ ลักษณะแตกตางกั น ่ ส่วนประกอบของดิน ดิน มีส่วนประกอบของซากพืชซากสั ตว ์ ทีเ่ น่าเปื่ อยผุพงั ทับถมกันอยู่ เช่น ใบไม้ กิง่ ไม้ ซากแมลง ซากสั ตวที ่ าย ก๊าซออกซิเจน แร่ ์ ต ธาตุตางๆ กรวด ทราย และน้าในสั ดส่วนที่ ่ ตางกั น จึงเป็ นสาเหตุให้ดินแตละแหล งมี ิ ี่ ่ ่ ่ สมบัตท แตกตางกั น ่ ส่วนประกอบของดิน ภาพแสดง ส่วนประกอบของดิน :http://www.nakhamwit.ac.th/pingpong_web/Soil_Rock.htm สมบัตข ิ องดิน ดินเป็ นสิ่ งแวดลอมที เ่ กิดขึน ้ ตามธรรมชาติ ้ เกิดจากหินและแรที ่ ตกหักสลายตัวดวย ่ แ ้ กระบวนการผุพงั รวมกับซากพืชซากสั ตว ์ น้า และอากาศ ประกอบดวยส ้ ่ วนทีเ่ ป็ นของแข็ง ของเหลว และก๊าซ ดินแตละแห งจะมี ลก ั ษณะ ่ ่ และสมบัตแ ิ ตกตางกั นขึน ้ อยูกั ่ ่ บปริมาณ ส่วนประกอบของดิน ทาให้ดินมีเนื้อดิน สี ของดิน และปริมาณแรธาตุ แตกตางกั น ่ ่ ชัน ้ ของดิน ภาพแสดง ชัน ้ ของดิน ทีม ่ า : http://mordin.ldd.go.th/nana/webldd/soil/page01.htm ดินเหนียว(Clay) เป็ นดินทีม ่ เี นื้อละเอียด ในสภาพดินแห้ง จะแตกออกเป็ นกอนแข็ งมาก เมือ ่ เปี ยกน้าแลว ้ ้ จะมีความยืดหยุน อ ่ สามารถปั้นเป็ นกอนหรื ้ คลึงเป็ นเส้นยาวได้ เหนียวเหนอะหนะติดมือ เป็ นดินทีม ่ ก ี ารระบายน้าและอากาศไมดี ่ แต่ ่ นธาตุ สามารถอุมน ้ ้า ดูดยึด และแลกเปลีย อาหารพืชไดดี ่ ะใช้ทานาปลูกข้าว ้ เหมาะทีจ เพราะเก็บน้าไดนาน ้ ดินเหนียว(Clay) ภาพแสดง ลักษณะดินเหนียว ทีม ่ า : http://pirun.ku.ac.th/~b5310703306/p4.html ดินรวน (Loam) ่ เป็ นดินทีเ่ นื้อดินคอนข าง ละเอียดนุ่ มมือ ่ ้ ในสภาพดินแห้งจะจับกันเป็ นกอนแข็ ง ้ พอประมาณ ในสภาพดินชืน ้ จะยืดหยุนได บ ่ ้ าง ้ เมือ ่ สั มผัสหรือคลึงดินจะรูสึ้ กนุ่ มมือแตอาจจะ ่ รูสึ้ กสากมืออยูบ ก น้อย เมือ ่ กาดินให้ ่ างเล็ ้ แน่นในฝ่ามือแลวคลายมื อออก ดินจะจับกัน ้ เป็ นกอนไม แตกออกจากกั น เป็ นดินทีม ่ ก ี าร ้ ่ ระบายน้าไดดี ่ ี ้ ปานกลาง จัดเป็ นเนื้อดินทีม ความเหมาะสมสาหรับการเพาะปลูก ดินรวน (Loam) ่ ภาพแสดง ลักษณะดินรวน ่ ทีม ่ า : http://pirun.ku.ac.th/~b5310703306/p4.html ดินทราย (Sand) เป็ นดินทีม ่ อ ี นุ ภาคขนาดทราย เป็ น องคประกอบอยู มากกว าร 85 เนื้อดินมี ์ ่ ่ อยละ ้ การเกาะตัวกันหลวมๆ มองเห็ นเป็ นเม็ดเดีย ่ วๆ ได้ ถาสั ่ ยูในสภาพแห ้ มผัสดินทีอ ่ ้งจะรูสึ้ กสาก มือ ดินทราย เป็ นดินทีม ่ ก ี ารระบายน้าและ อากาศดีมาก แตมี ่ ความสามารถในการอุมน ้ ้า ตา่ มีความอุดมสมบูรณต ์ า่ เพราะความสามารถ ในการดูดยึดธาตุอาหารพืชมีน้อย พืชทีข ่ น ึ้ บน ดินทรายจึงมักขาดทัง้ ธาตุอาหารและน้า ดินทราย (Sand) ภาพแสดง ลักษณะดินทราย ทีม ่ า : http://pirun.ku.ac.th/~b5310703306/p4.ht ประโยชนของดิ น ์ 1. นามาใช้ประโยชนในการเพาะปลู ก ์ 2. เป็ นวัตถุดบ ิ ในการผลิตผลิตภัณฑอื ่ ๆ ์ น เช่น เครือ ่ งปั้นดินเผาตางๆ ่ 3. เป็ นแหลงกั ่ กเก็บน้า 4. เป็ นแหลงอาหารของจุ ลน ิ ทรียที ่ าหน้าที่ ่ ์ ท ยอยสลายซากพื ช ่ ซากสั ตวให ์ ้กลายเป็ นฮิวมัส ซึง่ เป็ น แหลงอาหารของพื ช ่ เอกสารอางอิ ง ้ http ://www.nakhamwit.ac.th/pingpong_web/Soil _Rock.htm http://www.myfirstbrain.com http://mordin.ldd.go.th/nana/webldd/soil/page01.htm http://pirun.ku.ac.th/~b5310703306/p4.html พืน ้ หลัง PPT : มหาวิทยลัยธุรกิจบัณทิตย ์ ผู้จัดทา ครูนุชนารถ เมืองกรุง โรงเรียนฟากกว๊านวิทยาคม อ. เมือง จ. พะเยา [email protected]