การวิเคราะห์ ความแปรปรวนของตัวแปรหลาย ตัว (Multivariate Analysis of Variance : นำเสนอโดย MANOVA นำยวีรยุทธ ก้อนกั้น รหัส 533Jce 213 นำงนันทนำ ลีลำชัย รหัส 533Jce 218 06/11/58

Download Report

Transcript การวิเคราะห์ ความแปรปรวนของตัวแปรหลาย ตัว (Multivariate Analysis of Variance : นำเสนอโดย MANOVA นำยวีรยุทธ ก้อนกั้น รหัส 533Jce 213 นำงนันทนำ ลีลำชัย รหัส 533Jce 218 06/11/58

การวิเคราะห์ ความแปรปรวนของตัวแปรหลาย
ตัว
(Multivariate Analysis of Variance :
นำเสนอโดย
MANOVA
นำยวีรยุทธ ก้อนกั้น รหัส 533Jce 213
นำงนันทนำ ลีลำชัย รหัส 533Jce 218
06/11/58
1
MANOVA




ยอมาจากค
าวา่ Multivariate Analysis of Variance
่
สถิตท
ิ ต
ี่ อขยายจาก
ANOVA ในกรณีทม
ี่ ต
ี วั แปรตามหลายตัวแปร
่
ใช้เปรียบเทียบคาเฉลี
ย
่ ระหวางกลุ
มในกรณี
ทม
ี่ ค
ี าเฉลี
ย
่ จากตัวแปร
่
่
่
่
ตามหลายตัวแปร
ทาไมจึงจาเป็ นตองใช
้
้ตัวแปรตามหลายตัวแปร?
◦ ตัวแปรอิสระน่าจะส่งผลตอตั
่ วแปรตามหลายตัวมากกวาตั
่ วแปร
เดียว
◦ การใช้ตัวแปรหลายตัวแปรทาให้สามารถศึ กษาปรากฏการณได
์ ้
รอบดาน
ครอบคลุม และสะทอนภาพปรากฏการณ
จริ
้
้
้
์ งไดตรง
กวา่
◦ ในงานวิจย
ั เชิงทดลอง ตนทุ
ง่ ตัวแปรตามนั้นตา่
้ นในการไดมาซึ
้
กวาตั
่ วแปรกระทาการมาก ดังนั้นการใช้ตัวแปรตามหลายตัวจึง
คุ้มคากว
าการท
าการทดลองหลายครัง้
่
่
06/11/58
2
มโนทัศนพื
้ ฐาน
์ น

การวิเคราะหความแปรปรวนพหุ
คูณ (Multivariate
์
Analysis of Variance : MANOVA) เป็ นเทคนิค
วิธก
ี ารทีใ่ ช้ในการแยกแหลงความแปรปรวนของ
่
ขอมู
อมู
้ ล วาความแปรปรวนของข
่
้ ลหรือความแตกตาง
่
ของขอมู
นเนื่อง
มาจากตัว
้ ลเป็ นความแตกตางอั
่
แปรอิสระหรือเป็ นความแตกตางอั
นเนื่องมาจากความ
่
คลาดเคลือ
่ น (Error) ซึง่ เป็ นเทคนิคทีใ่ ช้ตรวจสอบ
หรือเปรียบเทียบคาเฉลี
ย
่ โดยตัวแปรตามตองเป็
นตัว
่
้
แปรตอเนื
นตรภาค
่ ่องหรือมีมาตราวัดตัง้ แตมาตราอั
่
(Interval Scale) ขึน
้ ไป และมีจานวนตัง้ แต่ 2 ตัว
แปรขึน
้ ไป ส่วนตัวแปรอิสระเป็ นตัวแปรแบงกลุ
ม
่
่
(Categories) ซึง่ แบงกลุ
มตั
2 กลุมขึ
้ ไป
่
่ ง้ แต
่ น
06/11/58่
3
MANOVA

ทาไมไมใช
่ ้ ANOVA เปรียบเทียบทีละตัวแปร?
◦ ทาให้คา่ Alpha หรือ Type I Error สูงขึน
้ เกินกวาที
่ ง้ั ไว้
่ ต
◦ การเปรียบเทียบทีละตัวแปรนั้นละเลยความสั มพันธระหว
างตั
ว
่
์
แปรตาม
◦ มีอานาจทดสอบ (Power) สูงกวา่ เนื่องจากหากเปรียบเทียบ
แตละตั
วแปรแลวอาจไม
พบความแตกต
าง
แตถ
่
้
่
่
่ าใช
้
้
MANOVA แลว
ง่ เกิดขึน
้ จากหลายตัว
้ อาจพบความแตกตางซึ
่
แปรรวมกั
น
่
◦ แกปั
้ ญหา Cancelling Out Effect กรณีเปรียบเทียบโดย
นาเอาตัวแปรหลายตัวแปรมารวมหรือเฉลีย
่ กันกอน
เช่นนา
่
คะแนนรายดานมารวมหรื
อเฉลีย
่ กันกลายเป็ นคะแนนรวม
้
แลว
ANOVA
้ จึงนามาเปรียบเทียบดวย
้
06/11/58
4
เหตุผลทางดานสถิ
ติ
้



การทดสอบค่าเฉลี่ยหลายครัง้ ทาให้ คา่ Alpha เพิ่มสูงขึ ้น
กว่าค่า Alpha ที่ตงไว้
ั้
การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลีย่ 1 ครัง้ จะมีค่า
Alpha หรื อความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ ้นจริ งเรี ยกว่า
Pairwise Error (PE) ตามระดับค่า Alpha ที่ตงเอาไว้
ั้
PE = Alpha ที่ตงไว้
ั้
06/11/58
5
เหตุผลทางด้ านสถิติ

ถ้ าทดสอบค่าเฉลีย่ มากกว่า 1 ครัง้ จะมีคา่ ความคลาด
เคลื่อนที่เกิดขึ ้นทังหมด
้
เรี ยกว่า Familywise Error (FE)
FE = 1 - 1 - α 
FE  Cα 
C

เมื่อ C = จานวนครัง้ ที่ทดสอบ
ค่าประมาณจะสูงกว่าค่าคานวณจริ ง
เล็กน้ อย
06/11/58
6
เหตุผลทางด้ านสถิติ

ตัวอย่างเช่น ถ้ ามี 2 ตัวแปรตาม มีกลุม่ ทังหมด
้
3 กลุม่ ต้ อง
ทดสอบความแตกต่างของคูค่ า่ เฉลี่ยทังหมดตั
้
วแปรละ 3 ครัง้
FE  3× .05 = 0.15
FE = 1 - 1 - .05  = 0.14
3
FE = 0.14  2 = 0.28
06/11/58
7
MANOVA
 MANOVA ไมเหมาะในกรณี
่
◦ ตัวแปรตามหลายตัวแปรไมมี
่
ความสั มพันธกั
์ น
◦ ตัวแปรตามหลายตัวแปรมี
ความสั มพันธมากเกิ
นไป
์
(Multicollinearity)
◦ มีจานวนตัวแปรตามมากเกินไป
06/11/58
8
ข้ อตกลงเบื ้องต้ นของ ANOVA



การแจกแจงแบบปกติหนึ่งตัวแปร
(Univariate Normality Distribution)
มีการกระจายในแตละกลุ
มเท
ากั
่
่
่ น
(Homogeneity of Variance)
ความเป็ นอิสระจากกันของคะแนนตัว
แปร (Independent Observation)
06/11/58
9
ข้ อตกลงเบื ้องต้ นของ ANOVA
การแจกแจงแบบปกติหลายตัวแปร
(Multivariate Normality
Distribution)
 มีเมทริกซความแปรปรวนร
วมเท
ากั
่
่ น
์
ทุกกลุม
่ (Homogeneity of
Covariance Matrix)
 ความเป็ นอิสระจากกันของคะแนนตัว
แปร (Independent Observation)

06/11/58
10
ข้อตกลงเบือ
้ งตนของ
MANOVA
้
Manova มีขอตกลงเบื
อ
้ งตนคล
ายกั
บ ANOVA แตขยายเพิ
ม
่ ใน
้
้
้
่
กรณี
ตัวแปรตามหลายตัวดังนี้
1. ความเป็ นอิสระ คาที
่ ั งเกตไดควรเป็
นอิสระกันทางสถิต ิ
่ ส
้
2. การสุ่มตัวอยาง
ขอมู
่ ่ มมาจากประชากร
ุ
่
้ ลควรมาจากกลุมที
่ ส
ทีส
่ นใจศึ กษาและวัดขอมู
้
้ ลในระดับช่วง (interval scale) ขึน
ไป
3. Multivariate Normality ใน ANOVA เราจะสมมติวาตั
่ ว
แปรตามของเรามีการแจกแจงปกติภายในแตละกลุ
มในกรณี
่
่
ของ MANOVA เราจะสมมติวาตั
่ วแปรตามมีการแจกแจงปกติ
ของทุกตัวแปรในแตละกลุ
ม
่
่
4. ความเป็ นเอกพันธของเมตริ
กความแปรปรวนรวมใน
์
่
ANOVA มีขอตกลงเกี
ย
่ วกับความแปรปรวนในแตละกลุ
มเป็
้
่
่ น
เอกพันธกั
วาตั
์ นใน MANOVA เราตองสมมติ
้
่ วแปรตามแตละ
่
ตัวมีความเป็ นเอกพันธในแต
ละกลุ
ม
อ
้ งตนนี
์
่
่ ขอตกลงเบื
้
้ ้
ตรวจสอบโดยการทดสอบความเท
ากั
่ นของเมตริกความ
06/11/58
11
แปรปรวนและความแปรปรวนรวมของประชากร
อ
้ งตน
การตรวจสอบขอตกลงเบื
้
้


โดยมากขอตกลงเบื
อ
้ งตนสามารถตรวจสอบได
ด
ธเี ดียวกันกับ
้
้
้ วยวิ
้
ANOVA มีขอตกลงเบื
อ
้ งตนที
่ ขึน
้ มาคือ การแจกแจงพหุตวั แปร
้
้ เ่ พิม
เป็ นโค้งปกติ และความเป็ นเอกพันธของเมตริ
กความแปรปรวนรวมที
่
์
่
ตองการกระบวนการตรวจสอบที
แ
่ ตกตางกั
น ขอตกลงเบื
อ
้ งตนการ
้
่
้
้
เป็ นโค้งปกติของพหุตวั แปร ไมสามารถทดสอบด
วย
SPSS และมี
่
้
เฉพาะการตรวจสอบขอตกลงเบื
อ
้ งตนของการเป็
นโค้งปกติของตัวแปร
้
้
เดียว โดยวิเคราะหตั
จ
่ ะใช้และมี
์ วแปรตามทีละตัว ซึง่ งายที
่
ประโยชน์ เพราะการเป็ นโค้งปกติของตัวแปรเดียวเป็ นเงือ
่ นไขการ
เป็ นโค้งปกติของพหุตวั แปร) แตไม
Multivariate
่ รั
่ บประกันวาจะ
่
Normality ดังนั้นกระบวนการนี้ดท
ี ส
ี่ ุดทีเ่ ราสามารถทาได้
ขอตกลงเบื
อ
้ งตนของการเท
ากั
้
้
่ นของเมตริกความแปรปรวนรวม
่
ขอตกลงเบื
อ
้ งตนนี
วยการทดสอบของลาเวน
้
้ ้งายในการตรวจสอบด
่
้
หากการทดสอบลาเวนไมมี
ั สาคัญสาหรับตัวแปรตามแตละตั
วอยาง
่ นย
่
่
ไรก็ตาม กรณีตวั แปรตามหลายตัว ควรจะเปรียบเทียบระหวางกลุ
ม
่
่
โดยใช้ Box’s M test การทดสอบนี้ควรจะไมมี
ั สาคัญ
่ นย
06/11/58
12
Univariate Normality
เนื่องจากทฤษฎี Central Limit Theorem ทาให้การ
ทดสอบดวยสถิ
ต ิ F มีความทนทานตอข
อ
้ งต้นนี้
้
่ อตกลงเบื
้
พอสมควร หากกลุมตั
ขนาดใหญพอ
่ วอยางมี
่
่
 การตรวจสอบ
◦ ดูจาก Normal Q-Q Plot
◦ ใช้สถิตท
ิ ดสอบ เช่น Kolmogorov-Smirnov,
Shapiro Wilk
 ใช้วิธก
ี ารตรวจสอบ Univariate Normality ทีละตัวแปร
ถาทุ
นมีการแจกแจงแบบ Multivariate
้ กตัวแปรรวมกั
่
Normality แตละตั
วแปรจะตองมี
การแจกแจงแบบ
่
้
Univariate Normality ทุกตัว

06/11/58
13
Multivariate Normality
เนื่องจากทฤษฎี Central Limit Theorem
ต ิ F มีความ
ทาให้การทดสอบดวยสถิ
้
ทนทานตอข
อ
้ งตนนี
่ อตกลงเบื
้
้ ้พอสมควร
หากกลุมตั
ขนาดใหญพอ
่ วอยางมี
่
่
 การตรวจสอบ

◦ ใช้คา่ Mahalanobis Distance (D2) ใช้เมือ
่
N – p  25 2เมือ
่ p = จานวนตั
วแปร
1
Di  ( yi  y)S ( yi  y)
06/11/58
14
Di2  ( yi  y)S1 ( yi  y)
Multivariate Normality
◦ นาไปพล็อตกราฟกับคาไคสแควร
ที
่
์ เ่ ปอรเซ็
์ น
ไทล ์ (i - .5) / n ที่
df = p
◦ ถาเส
ั ษณะเส้นตรงถือวาตั
้ ้ นมีลก
่ วแปรหลายตัว
นี้มก
ี ารแจกแจงปกติหลายตัวแปร
06/11/58
15
Normality Assumption
ถ้าละเมิดจะส่งผล
◦ ถาการแจกแจงมี
การเบ้ ไมส
ก
้
่ ่ งผลกระทบเทาไรนั
่
◦ ถาการแจกแจงมี
ลก
ั ษณะโดงเกิ
จะส่งผล
้
่ นกวาปกติ
่
ให้คา่ α ทีเ่ กิดขึน
้ สูงเกินกวาที
่ ง้ั ไว้
่ ต
◦ ถาการแจกแจงมี
ลก
ั ษณะแบนราบกวาปกติ
จะส่งผล
้
่
ให้สถิตท
ิ ใี่ ช้มีอานาจทดสอบ (Power) ลดน้อยลง
◦ การละเมิดจะส่งผลอยางรุ
มตั
่ นแรงถากลุ
้
่ วอยางมี
่
ขนาดเล็ก
 ทางแกไขอาจจะต
องแปลงคะแนนด
วยวิ
ธต
ี างๆ
้
้
้
่

06/11/58
16
Homogeneity of Variance



สถิต ิ F มีความทนทานตอการละเมิ
ดขอตกลงข
อ
่
้
้
นี้ ถากลุ
มตั
ละกลุ
มมี
้
่ วอยางในแต
่
่
่ จานวนเทากั
่ น
ในกรณีทต
ี่ วั แปรตามมีเพียงตัวเดียว ตรวจสอบ
Homogeneity of Variance โดยใช้สถิต ิ ของลา
เวน (Levene Test)
ในกรณีทต
ี่ วั แปรตามมีหลายตัว ตรวจสอบ
Homogeneity of covariance matrices โดยใช้
สถิต ิ Box’s M Test
06/11/58
17
Homogeneity of Variance


ถ้าละเมิดจะส่งผล
◦ ถากลุ
มที
่ จ
ี านวนตัวอยางเล็
กกวามี
้
่ ม
่
่ ความ
แปรปรวนมากกวา่ คา่ α ทีเ่ กิดขึน
้ จะสูง
กวาที
่ ง้ั ไว้
่ ต
◦ ถากลุ
มที
่ จ
ี านวนตัวอยางเล็
กกวามี
้
่ ม
่
่ ความ
แปรปรวนน้อยกวา่ คา่ α ทีเ่ กิดขึน
้ จะตา่
กวาที
่ ง้ั ไว้
่ ต
ทางแกไขอาจจะต
องแปลงคะแนนด
วยวิ
ธต
ี างๆ
้
้
้
่
06/11/58
18
Independent Observation

ความไมเป็
้ ไดจาก
่ นอิสระจากกันของคะแนนอาจเกิดขึน
้
◦ การขาดความเป็ นอิสระทีเ่ กิดขึน
้ กอนที
จ
่ ะเริม
่ ศึ กษา
่
 เช่น การทีก
่ ลุมตั
ลก
ั ษณะคลายคลึ
งกัน
่ วอยางมี
่
้
 ถาเป็
ั เชิงทดลอง ใช้วิธก
ี ารสุ่มเข้ากลุม
้ นการวิจย
่
◦ การขาดความเป็ นอิสระทีเ่ กิดขึน
้ จากการศึ กษา
 เช่น การทดลองทีห
่ น่วยทดลองมีปฏิสัมพันธกั
์ น
มีการทากิจกรรมกลุมร
น
่ วมกั
่
 ตองพยายามจั
ดกระทาให้การตอบเป็ นอิสระจาก
้
กัน
06/11/58
19
Independent Observation
เมือ
่ ละเมิดแลวส
้ ่ งผล
◦ ทาให้คา่  ทีเ่ กิดขึน
้ จริงสูงเกินกวา่
ทีต
่ ง้ั ไว้
◦ ทาให้เกิด Type I Error มากขึน
้
 ทางแกไขเมื
อ
่ ละเมิดขอตกลง
้
้
◦ อาจใช้คะแนนเฉลีย
่ ของกลุมแทนคะแนน
่
รายคน
◦ ใช้สถิต ิ HLM

06/11/58
20

การทดสอบสมมติฐานสถิตห
ิ ลายตัวแปร
กรณี 1 กลุม
่
กรณีที่ใช้ สถิติตวั แปรเดียว
H0 :   0

กรณีที่ใช้ สถิติหลายตัวแปร
 1   01 
   
2
02 


H 0 : μ  μ0 

  

  

  p   0 p 
06/11/58
21
การทดสอบสมมติฐานสถิตห
ิ ลายตัว
แปร กรณี 2 กลุม
่
 กรณีที่ใช้ สถิติตวั แปรเดียว
H0 : 1  2

กรณีที่ใช้ สถิติหลายตัวแปร
 11   12 
    
21 
22 


H 0 : μ1  μ2 

  

  

  p1    p 2 
06/11/58
22
การทดสอบสมมติฐานสถิติหลายตัวแปร กรณี > 2 กลุม่

กรณีที่ใช้ สถิติตวั แปรเดียว
H0 : 1  2 ...  g

กรณีที่ใช้ สถิติหลายตัวแปร
 11   12 
 1g 
    
 
21 
22 
2g 



H 0 : μ1  μ2  ...  μg 

 ... 
  



  



  p1    p 2 
  pg 
06/11/58
23
การทดสอบสมมติฐานสถิติหลายตัวแปร กรณี 2 กลุม่
06/11/58
24
MANOVA
06/11/58
25
MANOVA

กรณีตวั แปรตามตัวเดียว (ANOVA)
SSH
SSE

กรณีที่ตวั แปรตามหลายตัว (MANOVA)
SSH
1
E H
SSE
06/11/58
26
MANOVA: สถิตทิ ดสอบ
1. Pillai – Bartlett Trace (V)
สั ญลักษณ์
จะเป็ น
คาไอเกนส
าหรับตัวแปรจาแนกประเภทแตละตั
ว และ s
่
่
จะเป็ นจานวนตัวแปร สูตรนี้ผลรวมของสั ดส่วนของความ
แปรปรวนอธิบายบนฟังกชั
่ การจาแนก
์ น
 2. Hotelling’s T2 เป็ นสูตรของ
Hotelling – Lawlet
trace เป็ นผลรวมของคาไอเกนส
าหรับแตละตั
วแปร
่
่
 3. Wilks’s Lambda แลมดาของ
Wilks จะเป็ นผลผลิต
้
ของความแปรปรวนทีไ่ มสามารถอธิ
บายได้ ในแตละตั
ว
่
่
แปร สั ญลักษณ์ หมายถึงผลคูณแลมดาของ
wild’s
้
จะแสดงอัตราส่วนของความแปรปรวนคลาดเคลือ
่ นกับ
ความแปรปรวนรวม (SSr/SSt) สาหรับแตละตั
วแปร
่
 4. Roy’s Largest Root สถิตน
ิ ี้งายมาก
คาไอเกน
่
่
สาหรับตัวแปรแรกเป็ นคาที
่ ากทีส
่ ุด ดังนั้นในกรณีนี้จะ
่ ม
คลายกั
บ Hotelling – Lawlet trace แตส
้
่ าหรับตัวแปร
แรกเทานั
่ ้น
 Olson และ Stevens ไดศึ
้ กษาอานาจการทดสอบ
ของสถิต ิ MANOVA ทัง้ 4 ตัวในการประเมินความมี
นัยสาคัญของความแตกตางระหว
ม
27
่ 06/11/58 างกลุ
่
่ ซึง่

MANOVA: สถิตท
ิ ดสอบ
06/11/58
28
MANOVA: สถิติทดสอบ

Wilk’s Lambda
06/11/58
29
แนวทางการทา Post Hoc ใน
กรณีหลายตัวแปร
ใช้สถิตท
ิ ดสอบเปรียบเทียบทีละหนึ่ง
ตัวแปร เช่น ANOVA ถามี
้
นัยสาคัญ ก็ทา Multiple
Comparison ตอไป
่
 ใช้การวิเคราะห ์ Descriptive
Discriminant Analysis (DDA)

06/11/58
30
ตัวอยางการวิ
เคราะห ์ : (MANOVA)
่

สมมติวาสนใจจะศึ
กษาอิทธิพลของการบาบัด
่
พฤติกรรมทางสมอง (cognitive behavior therapy)
กับพฤติกรรมความวิตกกังวล ซึง่ เราจะเปรียบเทียบ
กลุมที
่ ค
ี วามวิตกกังวลหลังจากทีไ่ ดรั
่ ม
้ บการบาบัด
พฤติกรรมทางสมอง (CBT : cognitive behavior
therapy) และหลังจากบาบัดพฤติกรรม (behavior
therapy :BT) กับกลุมที
่ งั มีความวิตกกังวลใจ
่ ย
(ไมได
ม (NT) ซึง่
่ รั
้ บการบาบัด : กลุมควบคุ
่
นักจิตวิทยาจะศึ กษาตัวแปรในเรือ
่ งของพฤติกรรมและ
ระดับสติปญ
ั ญาโดยการสั งเกตพฤติกรรมทีแ
่ สดงออก
(Action) และความสามารถทางการคิด
(Thoughts) โดยตัวแปรตามนี้จะวัดในครัง้ เดียวและ
31
นาเสนอผลดังตารางตอไปนี้ 06/11/58
กลุม
่
Action
Thoughts
CBT
BT
NT
CBT
BT
NT
5
4
4
14
14
13
5
4
5
11
15
15
4
1
5
16
13
14
4
1
4
13
14
14
5
4
6
12
15
13
3
6
4
14
19
20
7
5
7
12
13
13
6
5
4
15
18
16
6
2
6
16
14
14
4
5
5
11
17
18
06/11/58
32
ขัน้ ตอนการวิเคราะห์ และแปลผล

1. กรอกข้ อมูล (file : นาเสนอ manova_2.save

2. ใช้ คาสัง่ Analyze
General Linear
Model
Multivariate
06/11/58
33
1. กรอกข้ อมูล (file : นาเสนอ manova_2.save
06/11/58
34
2. ใช้ คาสั่ง Analyze
General Linear Model
06/11/58
Multivariate
35
3.เลือกตัวแปรใส่ใน box โดยตัวแปรของ fixed Factors ต้ องใส่ตามลาดับ
06/11/58
36
สั งเกตในช่อง Covariate(s)
สาหรับใส่ตัวแปรรวม
ทานองเดียวกับการ
่
วิเคราะห ์ ANCOVA เพียงแตกรณี
ทม
ี่ ต
ี วั แปร
่
ตามหลายตัวจะเรียกวา่ MANOVA
นอกจากนี้ยงั มีป่ มทางขวามื
ุ
อให้เลือกคลิกได้
06/11/58
อีกดังนี้
37
ปุ่ม Model สาหรับเลือกชนิดของ sums of
squares ทีต
่ องการวิ
เคราะห ์ แสดงดัง
้
ภาพประกอบ 2
06/11/58
38
ภาพประกอบ
3
ปุ่ม Contrasts ใช้ในการเปรียบเทียบความ
แตกตางระหว
างกลุ
ม
่
่
่ โดยชนิดของการ Contrasts นั้น
ถาเลื
้ อก simple และคลิกปุ่ม change จะเป็ นการ
เปรียบเทียบเป็ นรายคู่ ระหวางกลุ
มทดลองกั
บกลุมควบคุ
ม
่
่
่
โดยกลุมควบคุ
มนั้น จะตองถู
กลงรหัสไวเป็
ส
่
้
้ นคารหั
่
สุดทายของตั
วแปร (Reference Category : Last) หรือ
้
ลงเป็ นรหัสคาแรก
(Reference Category : First) ดัง
่
ภาพประกอบ 3
06/11/58
39
ภาพประกอบ
4
ปุ่ม Plots สาหรับเลือกสรางกราฟแสดงปฏิ
สัมพันธ ์ จะ
้
เป็ นประโยชนเมื
่ มีการศึ กษากับตัวแปรอิสระมากกวา่ 2
์ อ
ตัวแปรดังภาพประกอบ 4
06/11/58
40
ภาพประกอบ
5
ปุ่ม Post Hoc เป็ นอีกปุ่มหนึ่งทีส
่ ามารถใช้แทน
Contrasts ได้ โดยใช้การทดสอบ post Hoc เป็ น
การเปรียบเทียบกลุมแต
ละกลุ
มในตั
วแปรอิสระกับทุก
่
่
่
กลุมรวมกั
น ดังภาพประกอบ 5
่
06/11/58
41
ภาพประกอบ
6
ปุ่ม Save เป็ นปุ่มทีใ่ ห้แสดงความคลาดเคลือ
่ น โดยจะเป็ น
ประโยชนในการตรวจสอบว
าโมเดลสอดคล
องกั
บขอมู
่
้
้ ลเชิง
์
ประจักษหรื
์ อไม่
ดังภาพประกอบ 6
06/11/58
42
ภำพประกอบ 7
ปุ่ม Option เป็ นปุ่มทีใ่ ห้เลือกคานวณคาสถิ
ตพ
ิ น
ื้ ฐาน และ
่
เมตริกทีเ่ กีย
่ วของกั
บการวิเคราะห ์ MANOVA เช่น การ
้
คานวณคาสถิ
ตพ
ิ น
ื้ ฐาน , เมตริก SSCP, เมตริก
่
Resudal SSSCP การทดสอบความเป็ นเอกพันธของกลุ
ม
่
์
ตัวอยาง
เป็ นตน
่
้ ดังภาพประกอบ 7
06/11/58
43
Descriptive Statistics
ACT ION
ภาพประกอบ THOUGHTS
8
GROUP
CBT
BT
NT
Total
CBT
BT
NT
Total
Mean
4.9000
3.7000
5.0000
4.5333
13.4000
15.2000
15.0000
14.5333
Std. Deviation
1.19722
1.76698
1.05409
1.45586
1.89737
2.09762
2.35702
2.20866
N
10
10
10
30
10
10
10
30
ผลลัพธที
เคราะหด
SPSS for Window
้
้
์ ไ่ ดจากการวิ
์ วย
ในภาพประกอบ 8 จะแสดงผลลัพธที
้
์ ไ่ ดจากการ
วิเคราะห ์ จะแสดงสถิตพ
ิ น
ื้ ฐานของตัวแปรแตละตั
ว นั้น
่
เป็ นผลเนื่องมาจากการวิเคราะห ์ Descriptive statistics
ดวยปุ
ย
่ และส่วนเบีย
่ งเบน
้
่ ม Options โดยจะแสดงคาเฉลี
่
มาตรฐานแยกในแตละตั
วแปรตาม
่
06/11/58
44
ผลลัพธที
เคราะหด
้
้
์ ไ่ ดจากการวิ
์ วย
SPSS for Window
Box's Test of Equality of Covariance Matricesa
Box's M
F
df1
df2
Sig.
9.959
1.482
6
18168.92
.180
Tests the null hypothesis that the observed covariance
matrices of the dependent variables are equal across groups.
a. Design: Intercept+GROUP
Bartle tt's Test of Sphericity a
Likelihood Ratio
Approx. C hi-Square
df
Sig.
.042
5.511
2
.064
Tests the null hypothes is that the residual covariance
matrix is proportional to an identity m atrix.
a. Design: Intercept+GROUP
ภำพประกอบ 9
06/11/58
45
ในภาพประกอบ 9 จะแสดงผลการวิเคราะหสถิ
์ ติ
Box’s test ในการทดสอบขอตกลงเบื
อ
้ งตนของความ
้
้
เทากั
สถิตท
ิ ดสอบนี้
่ นในเมตริกความแปรปรวนรวม
่
จะมีสมมติฐานศูนยว์ า่ เมตริกความแปรปรวนและ
ความแปรปรวนรวมจะมี
ความเทากั
่
่ นในทุกกลุม
่
ดังนั้นถาเมตริ
กของทัง้ 3 กลุมมี
้
่ ความเทากั
่ นแลว
้
สถิตค
ิ วรจะไมมี
ั สาคัญทางสถิต ิ ในขอมู
่ นย
้ ลของเรา
มี p = 0.18 มากกวา่ 0.05 แสดงวาผลการ
่
ทดสอบสถิตน
ิ ี้ไมมี
ั สาคัญทางสถิต ิ นั่นคือเป็ นไป
่ นย
ตามขอตกลงเบื
อ
้ งตนของความเท
ากั
้
้
่ นในเมตริกความ
แปรปรวนรวม
่
06/11/58
46
ถาการทดสอบ
Box’s test มีนย
ั สาคัญ (p < 0.05) แลว
้
้ เมตริกความ
แปรปรวนรวมของแต
ละกลุ
มแตกต
างกั
น และขอตกลงของความเป็
นเอกพันธของ
่
่
่
่
้
์
เมตริกความแปรปรวนจะถูกละเมิด ผลของการละเมิดขอตกลงเบื
อ
้ งตนนี
้
้ ้ยงั ไม่
ชัดเจน Hakstian et al (1979) ไดรายงานว
า่ Hotelling’s T2 จะมีความแกรงใน
้
่
การทดสอบความแตกตางระหว
าง
2 กลุม
่ ขนาดของกลุมตั
ง้ สองกลุม
่
่
่ เมือ
่ วอยางทั
่
่
เทากั
มตั
ากั
่ น กฎหัวแมโป
่ ้ ง (Roule of Thumb) ถาขนาดกลุ
้
่ วอยางเท
่
่ นแลวจะไม
้
่
สนใจการทดสอบ Box’s test เพราะจะไมมี
่ ูง และสถิตท
ิ ดสอบ
่ ความคงทีส
Hotelling’s T2 และ Pillai’s มีความแกรง่ อยางไรก็
ตามถาขนาดของกลุ
ม
่
้
่
แตกตางกั
นแลวก็
ไดว
ตท
ิ ง้ั สองตัวนั้นจะมีความแกรง่ เมือ
่ มีการ
่
้ ไมสามารถสมมติ
่
้ าสถิ
่
การศึ กษากับตัวแปรตามหลาย ๆ ตัว และมีความแตกตางกั
นมากในขนาดของ
่
กลุมตั
ละกลุ
มจะมี
ความบิดเบือนในคาของความน
่ วอยางแต
่
่
่
่
่ าจะเป็ นในการวิเคราะห ์
ดวย
SPSS Tabachnick และ Fidell (1996) ไดแนะน
าวาถ
ม
้
้
่ าขนาดของกลุ
้
่
ตัวอยางใหญ
มาก
และมีความแปรปรวนและความแปรปรวนรวมมากแล
ว
่
่
่
้ น่าจะมี
ความเป็ นเอกพันธของเมตริ
กความแปรปรวนและความแปรปรวนรวม
อยางไรก็
์
่
่
ตาม ถามี
้ ขนาดของกลุมตั
่ วอยางน
่
้ อย ผลของความแปรปรวนและความแปรปรวน
มีมากแลว
้ Box’s test จาเป็ นสาหรับการตรวจสอบ
การทดสอบบารเล็
อ
้ งตน
์ ท (Bartlett’s test) จะเป็ นการทดสอบขอตกลงเบื
้
้
ของความเป็ นเอกพันธของความแปรปรวน
ซึง่ การวิเคราะห ์ MANOVA จะไม่
์
จาเป็ นตองใช
้
้
06/11/58
47
สถิตท
ิ ดสอบในการวิเคราะห ์ MANOVA
Multivariate Testsc
Effect
Intercept
GROUP
Pillai's Trace
Wilks' Lambda
Hotelling's Trace
Roy's Largest Root
Pillai's Trace
Wilks' Lambda
Hotelling's Trace
Roy's Largest Root
Value
.983
.017
57.325
57.325
.318
.699
.407
.335
F
Hypothesis df
745.230a
2.000
745.230a
2.000
745.230a
2.000
745.230a
2.000
2.557
4.000
2.555a
4.000
2.546
4.000
4.520b
2.000
Error df
26.000
26.000
26.000
26.000
54.000
52.000
50.000
27.000
Sig.
.000
.000
.000
.000
.049
.050
.051
.020
a. Exact statistic
b. The statistic is an upper bound on F that yields a lower bound on the significance level.
c. Design: Intercept+GROUP
ภำพประกอบ 10
06/11/58
48
ในผลลัพธดั
์ งภาพประกอบ 10 จะแสดงตาราง
หลักของผลการวิเคราะห ์
MANOVA สถิตท
ิ ดสอบจะแสดงผลการทดสอบ
จุดตัด (Intercept) ของโมเดล และสาหรับความแตกตางระหว
างกลุ
ม
่
่
่
(Group) ในจุดมุงหมายของตั
วอยางนี
้ กลุมมี
ิ ธิพลทีส
่ นใจเพราะวาการ
่
่
่ อท
่
บาบัดจะมีอท
ิ ธิพลตอกลุ
ม
ิ ดสอบทัง้ 4 ตัว จะแสดงคา่
่
่ OCD สั งเกตสถิตท
ของสถิตใิ นสดมภ ์ Value และสถิตท
ิ ดสอบ F-test ทีม
่ อ
ี งศาแหงความเป็
น
่
อิสระ (df) คือ 2 ระดับ นัยสาคัญแสดงในสดมภ ์ Sig. สถิต ิ Pillai]s
trace มีคา่ p = 0.049 wils’s lambda มีคา่ p = 0.05 และ Roy’s
Largest root มีคา่ p = 0.02 ซึง่ ทัง้ หมดมีนย
ั สาคัญทางสถิตท
ิ รี่ ะดับ 0.05
อยางไรก็
ตาม Hotelling’s Trace (p = 0.051) ไมมี
ั สาคัญทางสถิต ิ ใน
่
่ นย
สถานการณนี
ตท
ิ ดสอบทีเ่ ราเลือกในการกาหนดนั้น
่
์ ้น่าสนใจ เพราะวาสถิ
เราจะปฏิเสธสมมติฐานศูนย ์ และยอมรับสมมติฐานอืน
่ ทีม
่ ค
ี วามแตกตาง
่
ระหวางกลุ
ม
ตามเรารูเกี
่ วกับความแกรงของ
Pillai]s trace
่
่ อยางไรก็
่
้ ย
่
เมือ
่ ขนาดของกลมตั
ากั
่ ถือไดเกี
่ วกับผลของสถิต ิ
่ วอยางเท
่
่ น ความน่าเชือ
้ ย
ทดสอบบงชี
้ งึ ความมีนย
ั สาคัญและช่วยเพิม
่ อานาจการทดสอบให้กับ Roy’s
่ ถ
root (สั งเกตวาสถิ
ตน
ิ ี้จะมีนย
ั สาคัญสูงทีส
่ ุดกวาสถิ
ตต
ิ วั อืน
่ ๆ ) เมือ
่ การ
่
่
ทดสอบเป็ นไปตามข้อตกลงเบือ
้ งตน
้
06/11/58
49
จากผลนี้เราควรจะสรุปวา่ ชนิดของการ
บาบัดจะมีอท
ิ ธิพลตอกลุ
ม
่
่ OCD อยางมี
่
นัยสาคัญทางสถิต ิ ธรรมชาติของอิทธิพลนี้ยงั
ไมชั
ิ ดสอบ MANOVA
่ ดเจนจากการใช้สถิตท
ประการแรกไมบอกเกี
ย
่ วกับความแตกตาง
่
่
ระหวางกลุ
ม
่ องไมบอกเกี
ย
่ วกับ
่
่ และประการทีส
่
ผลของการบาบัดทีม
่ อ
ี ท
ิ ธิพลตอ
่ Thoughts
หรือ Action หรือทัง้ สองอยาง
การกาหนด
่
ธรรมชาติของอิทธิพลนี้ SPSS สามารถ
วิเคราะหต
งการวิเคราะหความแปรปรวน
่
์ อไปถึ
์
แบบตัวแปรเดียว
06/11/58
50
Levene’s Test of Equality of Error
Variances(a)
F
df1
df2
Sig.
ภำพประกอบ 11
ACTION 1.828
2
27
.180
S
.076
2
27
.927
THOUG
Tests the
null hypothesis that the error variance of the dependent variable is equal across goups.
HTS
a Design: Intercept+GROUP
สถิตก
ิ ารทดสอบตัวแปรเดียว
ในภาพประกอบ 11 จะแสดงตารางสรุปการทดสอบของลา
เวน (Levene’s test) เป็ นการทดสอบความเทากั
่ นของความ
แปรปรวนสาหรับตัวแปรตามแตละตั
ว การทดสอบนี้จะเหมือนกับ
่
การวิเคราะหใน
ANOVA การทดสอบลาเวนควรจะไมมี
ั สาคัญ
่ นย
์
ทางสถิตส
ิ าหรับทุกตัวแปรตาม ถาข
อ
้ งตนของความเป็
น
้ อตกลงเบื
้
้
เอกพันธของความแปรปรวนเป็
นจริง ผลการวิเคราะหจะชั
ดเจนวา่
์
์
เป็ นไปตามขอตกลงเบื
อ
้ งตน
่ มัน
่
้
้ สิ่ งเหลานี
่ ้จะไมเฉพาะให
่
้เราเชือ
ไดในความเชื
อ
่ มัน
่ ของการทดสอบตัวแปรตามทีละตัว
้
แตยั
ตด
ิ วน
MANOVA มี
่ งเป็ นการยืนยันวาการทดสอบทางสถิ
่
้
ความแกรง่
06/11/58
51
ในส่วนถัดไปจะเป็ นผลของตาราง ANOVA สาหรับตัวแปรตามแต่
ละตัว เราสนใจในแนวแถวทีม
่ ช
ี อ
ื่ วา่ Group ซึง่ เป็ นตาราง
สรุปผลการวิเคราะห ์ ANOVA ในตัวแปรตามแตละตั
ว คาที
่
่ ไ่ ดจะ
้
เป็ น sum of squares ทัง้ คูของ
actions และ thoughts (เป็ น
่
คาของ
SSM ทีค
่ านวณได)้ ในแถวของ Error จะเป็ นขอมู
่
้ ล
เกีย
่ วกับ sums of squares ของความคลาดเคลือ
่ น และ mean
squares สาหรับตัวแปรตามแตละตั
ว คาของ
SSR ดังทีค
่ านวณ
่
่
ไปแลวในหั
วขอข
น
่ อ
ื่ วา่ Corrected จะเป็ น
้
้ างต
้
้ และในแถวทีช
คาของ
sum of squares ผลรวมสาหรับตัวแปรตามแตละตั
ว
่
่
(คานี
ื SST) ส่วนทีส
่ าคัญในตารางนี้คอ
ื สดมภของ
F และ
่ ้คอ
์
Sig. ซึง่ เป็ นอัตราส่วนที่ F ของการทดสอบ ANOVA ตัวแปรตาม
ทีละตัวซึง่ จะชัดเจนวา่ ANOVA ในผลลัพธจาก
SPSSตรงกับ
์
คาที
่ านวณไวก
่ ค
้ อนหน
่
้ านี้ คา่ P ในผลลัพธของภาพประกอบ
์
11 จะแสดงถึงความไมแตกต
างระหว
างกลุ
มที
่
่
่
่ ไ่ ดรั
้ บการบาบัดทัง้ ตัว
แปร though (p = 0.136 และ action (p = 0.08) ผลทีไ่ ดจะน
า
้
เราไปสู่การสรุปวาชนิ
ดของการบาบัดจะไมมี
ิ ธิพลตอระดั
บของ
่
่ อท
่
0CD ของผู้ป่วย สั งเกตในตัวอยางนี
้ สถิตใิ นการวิเคราะห ์
่
MANOVA สรุปวาการบ
าบัดมีอท
ิ ธิพลอยางมี
นย
ั สาคัญทางสถิตก
ิ บ
ั
่
่
06/11/58
52
Tests of Between-Subjects Effe cts
Source
Corrected Model
Intercept
GROUP
Error
Total
Corrected Total
Dependent Variable
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
THOUGHTS
Type III Sum
of Squares
10.467a
19.467b
616.533
6336.533
10.467
19.467
51.000
122.000
678.000
6478.000
61.467
141.467
df
2
2
1
1
2
2
27
27
30
30
29
29
Mean Square
5.233
9.733
616.533
6336.533
5.233
9.733
1.889
4.519
F
2.771
2.154
326.400
1402.348
2.771
2.154
Sig.
.080
.136
.000
.000
.080
.136
a. R Squared = .170 (Adjus ted R Squared = .109)
b. R Squared = .138 (Adjus ted R Squared = .074)
ภำพประกอบ 12
Between-Subjects SSCP Matrix
Hypothesis
ภำพประกอบ 13
Intercept
GROUP
Error
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
616.533
1976.533
10.467
-7.533
51.000
13.000
THOUGHTS
1976.533
6336.533
-7.533
19.467
13.000
122.000
Based on T ype III Sum of Squares
06/11/58
53
เมตริก
SSCP
ถาเลื
้ อก options ในการแสดงเมตริก SSCP
โปรแกรม SPSS จะแสดงผลลัพธในภาพประกอบ12
์
และ 13 ในภาพประกอบ 11 นั้นจะแสดงโมเดล SSCP
(H) ซึง่ จะเรียกวา่ Hypothesis Group และ SSCP
ความคลาดเคลือ
่ น (E) ซึง่ จะเรียกวา่ Error เมตริก
สาหรับจุดตัด(Intercept) จะแสดงดวย
แตเมตริ
กนี้ไมมี
้
่
่
ความสาคัญสาหรับวัตถุประสงคในการวิ
เคราะห ์ ดัง
์
ภาพประกอบ 12 เมตริกนี้มป
ี ระโยชนในการค
นหาค
า่
์
้
ของ cross-products ทีเ่ ป็ นตัวบงชี
้ วามสั มพันธระหว
าง
่ ค
์
่
ตัวแปรตาม ผลการวิเคราะหแนะน
าวาถ
์
่ า้ MANOVA มี
นัยสาคัญแลว
างตั
วแปรตาม
้ อาจจะมีความสั มพันธระหว
์
่
ซึง่ มีความสาคัญมากกวาการวิ
เคราะหตั
่
์ วแปรตามเป็ นราย
ตัว
06/11/58
54
Residual SSCP Matrix
ภำพประกอบ 13
Sum-of-Squares and
Cross -Products
Covariance
Correlation
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
THOUGHTS
ACT ION
51.000
13.000
1.889
.481
1.000
.165
THOUGHTS
13.000
122.000
.481
4.519
.165
1.000
Based on Type III Sum of Squares
ในภาพประกอบ 13 จะแสดงเมตริก SSCP
ความคลาดเคลือ
่ นอีกครัง้ แตครั
่ ง้ นี้จะเป็ นการรวม
เมตริกความแปรปรวนและความแปรปรวนรวม
และ
่
เมตริกสหสั มพันธเอาไว
ด
เมตริกทัง้ หมดสั มพันธกั
้ วน
้
์
์ น
หากจาไดว
กความแปรปรวนรวมสามารถค
านวณ
้ าเมตริ
่
่
ไดโดยการหาร
cross-product ดวยจ
านวนของคา่
้
้
สั งเกต นานองเดียวกัน ความแปรปรวนถูกคานวณ
โดยการหาร sums of squares ดวย
degrees of
้
freedom
06/11/58
55
ในเมตริกความแปรปรวนและความ
แปรปรวนรวมที
น
่ าเสนอเป็ นคาเฉลี
ย
่ จากเมตริก SSCP ทายที
ส
่ ุด
่
้
่
เราจะเห็นวาสหสั
มพันธในรู
ปของคามาตรฐานของความแปรปรวน
่
่
์
รวม
และเมตริกสหสั มพันธ ์ จะแสดงในรูปของคามาตรฐานของ
่
่
ความแปรปรวนรวม
กับเมตริก SSCP เป็ นเมตริกอืน
่ ๆ มี
่
ประโยชนส
่ นในโมเดล เมตริก
์ าหรับการประเมินความคลาดเคลือ
ความแปรปรวนและความแปรปรวนรวมจะมี
ประโยชนเฉพาะ
่
์
เพราะวาการทดสอบบาร
เลท
(Bartlett’s test) อยูบนพื
น
้ ฐานของ
่
่
์
เมตริกนี้ การทดสอบบารเลทจะเป็
นการตรวจสอบเมตริกวามี
ั ษณะ
่ ลก
์
เป็ นเมตริกเอกลักษณหรื
นเมตริกทีค
่ า่
์ อไม่ ซึง่ เมตริกเอกลักษณจะเป็
์
ในแนวทแยงเป็ น 1และนอกแนวทแยงมีคาเป็
่ น 0 ดังนั้น การ
ทดสอบบารเลทจะบอกถึ
งสมาชิกในแนวทแยงของเมตริกความ
์
แปรปรวนและความแปรปรวนรวมเท
ากั
่
่ น (เช่น ความแปรปรวน
ของกลุมเหมื
อนกัน) และนอกแนวทแยงจะมีสมาชิกประมาณคาเป็
่
่ น
0 (เช่น ตัวแปรตามไมมี
่ ความสั มพันธกั
์ น) ในกรณีนี้ ความ
แปรปรวนมีความแตกตางกั
น (1.89 จนถึง 4.52) และความ
่
แปรปรวนรวมมี
ความแตกตางจาก
0 (0.48) และการทดสอบบารเลท
่
่
์
จะเขาใกล
นั
บายนี้จะไมสนใจการทอสอบ
้
้ ยสาคัญ แมว
้ าการอธิ
่
่
06/11/58
56
MANOVA แตก็
นการขยายให
่ หวังวาจะเป็
่
้เห็ นถึงแนวคิดของการ
Contra st Results (K Matrix )
a
GROUP Simple C ontras t
Level 1 vs . Level 3
Contrast Estimate
Hypothesized Value
Difference (Es timate - Hypothes ized)
Std. Error
Sig.
95% Confidence Interval
for Difference
Level 2 vs . Level 3
Lower Bound
Upper Bound
Contrast Estimate
Hypothesized Value
Difference (Es timate - Hypothes ized)
Std. Error
Sig.
95% Confidence Interval
for Difference
Lower Bound
Upper Bound
Dependent Variable
ACT ION
THOUGHTS
-.100
-1.600
0
0
-.100
-1.600
.615
.872
-1.361
1.161
-1.300
0
.951
.104
-3.551
.351
.200
0
-1.300
.200
.615
.044
-2.561
-.039
.951
.835
-1.751
2.151
a. Reference category = 3
ภำพประกอบ 14
06/11/58
57
Contrasts
จากทีเ่ ลือกการวิเคราะห ์ contrasts แบบ Simple เอาไวเป็
้ น
การเปรียบเทียบกลุมบ
ม ผลลัพธจาก
่ าบัดทัง้ 2 กลุมกั
่ บกลุมควบคุ
่
์
โปรแกรม SPSS แสดงดังภาพประกอบ 14 จะแสดงผลของการ
Contrasts ตารางจะแบงออกเป็
น 2 ส่วน มีชอ
ื่ วา่ Level 1 vs.
่
Level 3 และ Level 2 vs. Level 3 เมือ
่ การลงรหัสเป็ นไปตามทีไ่ ด้
กาหนดไว้ (เช่นคา่ 1 และ 2 เป็ นรหัสของกลุมทดลอง
และคา่
่
3 เป็ นรหัสของกลุมควบคุ
ม) นั่นคือจะเป็ นผลการ Contrasts
่
ระหวางกลุ
ม
่
่ CBT กับ NT และ BT กับ NT ตามลาดับ ผล
ของการ Contrasts จะแสดงของตัวแปรตามและแตละตั
วแยกกัน
่
คาที
่ สดงในตารางสาหรับการประมาณคา่ Contrasts
่ แ
(Contrasts Estimate) และคาสมติ
ฐาน (Hypothesized Values)
่
(ซึง่ จะมีคา่ 0 เสมอเพราะเราจะทดสอบสมมติฐานศูนยว์ ามี
่ ความ
แตกตางระหว
างกลุ
มเป็
่
่
่ นศูนย)์ การประมาณคาสั
่ งเกตวามี
่ ความ
แตกตางกั
น (Difference) แลวถู
ั สาคัญวา่
่
้ กทดสอบความมีนย
แตกตางจากศู
นยหรื
่ มัน
่ ที่ 95%
่
่
่ วงความเชือ
์ อไมในช
06/11/58
58
สิ่ งแรกทีส
่ ั งเกตไดในผลลั
พธจาก
SPSS คือจะแสดงผลของ
้
์
นัยสาคัญในการ Contrasts บอกความแตกตางระหว
างกลุ
มว
่
่
่ ามี
่
นัยสาคัญหรือไม่ หรืออาจพิจารณาจากช่วงความเชือ
่ มัน
่
ในช่วงความเชือ
่ มัน
่ 95%จะบอกถึงความแตกตางระหว
างกลุ
มนั
่
่
่ ่น
คือมี 95% ของกลุมตั
ต
่ กอยูในช
่ วอยางที
่
่
่ วงนี้ ถาช
้ ่ วงความ
เชือ
่ มัน
่ นี้ครอมศู
นย ์ (คาต
่
่ า่ สุดติดลบ คาสู
่ งสุดเป็ นบวก) แลวนั
้ ่น
คือ ภายใน 95% ของกลุมตั
คาความแตกต
างเป็
น
่ วอยางจะมี
่
่
่
ศูนย ์ (ไมมี
างกลุ
ม)
่ ความแตกตางระหว
่
่
่ ดังนั้นเราไมสามารถ
่
เชือ
่ มัน
่ ไดว
างของกลุ
มมี
้ าความแตกต
่
่
่ ความหมาย เพราะทัง้ สอง
กลุมไม
แตกต
างกั
น ถาช
่ มัน
่ ไมคร
นย(เช
่
่
่
้ ่ วงความเชือ
่ อมศู
่
์ ่ น ทัง้ คา่
ตา่ สุด และคาสู
่ งหมายเป็ นบวกหรือลบทัง้ คู)่ แลวเรา
่ งสุด มีเครือ
้
สามารถเชือ
่ มัน
่ ไดว
างกลุ
มใน
95%
้ า่ จะพบความแตกตางระหว
่
่
่
ของกลุมตั
ม
่ าจากประชากรเดียวกัน นั่นคือเราเชือ
่ ไดว
่ วอยางที
่
้ า่
ความแตกตางระหว
างกลุ
มยั
ถาช
่ มัน
่ รวมศูนย ์
่
่
่ งมีอยู่
้ ่ วงความเชือ
เขาไว
ด
ว
างกลุ
มไม
มี
ั สาคัญ ถาช
้
้ วยแล
้
้ ความแตกตางระหว
่
่
่
่ นย
้ ่ วง
ความเชือ
่ มัน
่ ไมรวมศู
นยแล
งความแตกตางระหว
าง
่
้ จะบงบอกถึ
่
่
่
์ ว
กลุมมี
ั สาคัญทางสถิตท
ิ ี่ p < 0.05
่ นย
06/11/58
59
สรุปเกีย
่ วกับการวิเคราะหความแปรปรวนพหุ
คูณ
์
ในการวิเคราะหความแปรปรวนพหุ
คูณมีรายละเอียดที่
์
เกีย
่ วของในการวิ
เคราะหเป็
าเสนอ
้
่
์ นจานวนมาก ซึง่ ไมสามารถน
รายละเอียดไดทั
้ ง้ หมดในบทความนี้ โดยสรุปแลว
้ การวิเคราะห ์
ความแปรปรวนพหุคูณ (MANOVA) ก็คอ
ื การขยายขอบเขตหรือ
ขอจ
(ANOVA) นั่นเอง ซึง่
้ ากัดของการวิเคราะหความแปรปรวน
์
ใช้หลักการเดียวกัน นั่นคือ “หลักการวิเคราะหหรื
่
์ อแยกแหลงความ
แปรปรวน” เพียงแตการวิ
เคราะหความแปรปรวนพหุ
คูณ เป็ นการ
่
์
วิเคราะหในกรณี
ทม
ี่ ต
ี วั แปรตามมากกวา่ 1 ตัวแปรนั่นเอง แตใน
่
์
ขัน
้ ตอนของการวิเคราะห ์ MANOVA จะดาเนินการสรางตั
วแปร
้
ตามขึน
้ มาใหมให
่ ้เหลือเพียงตัวเดียว โดยอาศัยผลรวมเชิงเส้น
(Linear Combination) ของตัวแปรตามทุกตัวดวยสมการจ
าแนก
้
(Discriminant Function) ดังนั้นเมือ
่ รวมตัวแปรตามให้เหลือเพียง
ตัวเดียวแลว
การวิเคราะหดั
งเป็ นการวิเคราะหความ
้
่
์ งกลาวจึ
์
06/11/58
60
แปรปรวนโดยทัว่ ไปนั่นเอง
สรุปเกีย
่ วกับการวิเคราะหความแปรปรวนพหุ
คูณ
์
(ตอ)
่
สิ่ งทีน
่ ก
ั วิจย
ั พึงทีจ
่ ะตองตรวจสอบในเบื
อ
้ งตนคื
้
้ อ
ความสั มพันธระหว
างตั
วแปรตาม จะตองมี
ความสั มพันธกั
์
่
้
์ น
โดยมีแนวคิดทฤษฎีมารองรับ และ/หรือ ในทางปฏิบต
ั ิ
ดวย
หากพบวาตั
้
่ วแปรตามมีความสั มพันธกั
์ นและเป็ นไป
ตามขอตกลงเบื
อ
้ งตนแล
วก็
้
้
้ สามารถดาเนินการวิเคราะห ์
ความแปรปรวนพหุคณ
ู ได้ ในกรณีนี้การวิเคราะหความ
์
แปรปรวนแยกตามตัวแปรตามทีละตัว (Univariate) จึง
ไมเกิ
ๆ เช่นเดียวกับการพิจารณาอิทธิพล
่ ดประโยชนใด
์
ของตัวแปรอิสระ ในกรณีทเี่ ป็ นการทดสอบแบบ
Factorial Design แลวพบว
ามี
้
่ ปฏิสัมพันธ ์ (Interaction)
ระหวางตั
วแปร ก็ไมมี
่ ะตองไปแปลผลของ
่
่ ความจาเป็ นทีจ
้
อิทธิพลหลัก (Main Effect) ดังกลาว
่
06/11/58
61
สวัสดี
06/11/58
62