การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยครูจริญ สระชุ่ม โรงเรียนอุดมดรุณี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย กำรช่วยชีวิตพื้ นฐำนในเด็ก เด็กที่มีภาวะหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้ น หรือไม่ทางาน สาเหตุ ที่พบได้ บ่อยคือ จมนา้ ไฟฟ้ าช็อต และสูดสาลัก เช่น การสาลักนม สาลักควัน เป็ นต้ น ซึ่งในภาวะเหล่านี้ ถ้
Download ReportTranscript การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยครูจริญ สระชุ่ม โรงเรียนอุดมดรุณี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย กำรช่วยชีวิตพื้ นฐำนในเด็ก เด็กที่มีภาวะหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้ น หรือไม่ทางาน สาเหตุ ที่พบได้ บ่อยคือ จมนา้ ไฟฟ้ าช็อต และสูดสาลัก เช่น การสาลักนม สาลักควัน เป็ นต้ น ซึ่งในภาวะเหล่านี้ ถ้
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยครูจริญ สระชุ่ม โรงเรียนอุดมดรุณี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย กำรช่วยชีวิตพื้ นฐำนในเด็ก เด็กที่มีภาวะหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้ น หรือไม่ทางาน สาเหตุ ที่พบได้ บ่อยคือ จมนา้ ไฟฟ้ าช็อต และสูดสาลัก เช่น การสาลักนม สาลักควัน เป็ นต้ น ซึ่งในภาวะเหล่านี้ ถ้ าได้ รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้ อง ทันที โดยทาให้ มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนที่ปอด และมีเลือดไหลเวียนเอา ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองเพียงพอ โดยไม่เกิดการตายของเนื้อสมอง จะทา ให้ เด็กมีโอกาสกลับฟื้ นขึ้นมามีชีวิตเป็ นปกติได้ ไฟฟ้ ำช็อต ไฟฟ้ าช็อต เป็ นอุบัติเหตุท่พี บได้ บ่อย ทั้งในบ้ าน โรงเรียน โรงงาน และ สถานที่ต่าง ๆ ที่มีการใช้ ไฟฟ้ า สาเหตุ อาจเกิดจากการประมาท ไม่รอบคอบ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็ นต้ น มักพบ ในเด็กอายุ 1-5 ปี ซึ่งผู้ท่ถี ูกไฟฟ้ าช็อต อาจมีอาการรุนแรงมากหรือน้ อย ขึ้นอยู่กบั ปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ 1. ลักษณะของผิวหนังที่สมั ผัสกับไฟฟ้ า - ผิวหนังแห้ งจะมีส่อื ไฟฟ้ าต่า เกิดอันตรายน้ อย อาการรุนแรงไม่มาก - ผิวหนังเปี ยกชื้น (มีเหงื่อหรือเปี ยกนา้ ) จะเป็ นสื่อนาไฟฟ้ าสูง ทาให้ เกิดอันตราย และมีอาการรุนแรงมาก 2. ชนิดของกระแสไฟฟ้ า - ไฟฟ้ ากระแสตรง เช่น แบตเตอรี่ หรือถ่านไฟฉาย ทาให้ เกิดอันตรายน้ อย - ไฟฟ้ ากระแสสลับ ทาให้ เกิดอันตรายมาก และกระแสไฟฟ้ าที่ใช้ ในบ้ านเป็ น ไฟฟ้ าชนิดที่ทาให้ เกิดอันตรายมาก 3. ตาแหน่ง และทางเดินของกระแสไฟฟ้ าในร่างกาย - กระแสไฟฟ้ าที่ว่ิงจากแขนหนึ่งไปยังอีกแขนหนึ่ง หรือจากแขนลงไปที่เท้ า จะมี อันตรายมากกว่ากระแสไฟฟ้ าที่ว่ิงจากเท้ าลงดิน เนื่องจากกระแสไฟฟ้ าสามารถ วิ่งผ่านหัวใจ ทาให้ หัวใจเต้ นผิดจังหวะ และเกิดอันตราย - กระแสไฟฟ้ าวิ่งผ่านสมอง จะทาให้ หยุดหายใจ - กระแสไฟฟ้ าวิ่งผ่านกล้ ามเนื้อ ทาให้ ชัก กระดูกหัก หรือเป็ นอัมพาต อำกำร 1. 2. หมดสติ หยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้ นทันที ถ้ าได้ รับกระแสไฟฟ้ าเข้ าตัวเป็ น เวลานาน อาจมีบาดแผลไหม้ บริเวณผิวหนังที่ถูกไฟฟ้ าช็อต กำรช่วยเหลือ 1. ปิ ดสวิตซ์ไฟ หรือถอดปลั๊กไฟทันที 2. ใช้ อป ุ กรณ์ท่ไี ม่นาไฟฟ้ า เช่น ไม้ ผ้ า หรือเชือก คล้ องเอาตัวผู้ป่วยให้ หลุดออก จากสาย (ห้ ามใช้ โลหะหรือวัตถุเปี ยกนา้ โดยเด็ดขาด และมิให้ ถูกตัวผู้ป่วยจนกว่า จะหลุดออกจากสายไฟแล้ ว) 3. ตรวจดูการหายใจ ถ้ าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ เป่ าปากช่วยหายใจทันที และถ้ า หัวใจหยุดเต้ นให้ นวดหัวใจไปพร้ อมกัน จนกว่าจะหายใจได้ เอง 4. รีบนาส่งโรงพยาบาลโดยด่วน และตรวจดูการหายใจอย่างใกล้ ชิด จมน้ ำ จมนา้ เป็ นภาวะที่พบได้ บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี มีความรุนแรงและมักจะ เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจจากการสาลักนา้ หรือมีการเกร็งของกล่ องเสียง ซึ่งทาให้ เสียชีวิตได้ ภายใน 5-10 นาที อำกำร 1. 2. หมดสติ และหยุดหายใจ บางรายอาจมีหัวใจหยุดเต้ น ในรายที่ไม่หมดสติ อาจมีอาการปวดศีรษะ อาเจียน กระวนกระวาย หรือไอ มีฟองเป็ นสีเลือดจาง ๆ กำรช่วยเหลือ 1. ถ้ าผู้ป่วยหยุดหายใจ ทาการผายปอดโดยให้ เป่ าปากและช่วยหายใจทันที โดย เร็วที่สดุ อย่าเสียเวลาเอานา้ ออกจากปอด 2. เมื่อเป่ าปากไปสักพัก แล้ วผู้เป่ ารู้สก ึ ว่าลมที่เป่ าเข้ าปอดเด็กเข้ าได้ ไม่เต็มที่ เนื่องจากมีนา้ อยู่เต็มท้ อง อาจจัดท่าให้ เด็กนอนคว่า ใช้ มือ 2 ข้ าง วางอยู่ใต้ ท้ องเด็ก ยกท้ องเด็กขึ้นจะช่วยไล่นา้ จากท้ องออกมาทางปากได้ และจัดให้ เด็ก นอนหงายทาการเป่ าปากช่วยหายใจต่อไป 3. ถ้ าพบว่ามีหัวใจหยุดเต้ น ให้ ทาการนวดหัวใจทันที 4. ในกรณีท่เี ด็กยังพอหายใจได้ เอง หรือ ช่วยเหลือให้ เด็กสามารถหายใจได้ เอง จัดท่าให้ เด็กนอนตะแคง และศีรษะหงายไปข้ างหลังเพื่อให้ นา้ ไหลออกมาทางปาก 5. ใช้ ผ้าคลุมตัวเด็กให้ อบอุ่น ห้ ามให้ อาหารและนา้ ดื่มทางปาก 6. ส่งเด็กจมนา้ ทุกรายไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลอย่างน้ อย 24-72 ชั่วโมง เพื่อ เฝ้ าระวังภาวะแทรกซ้ อนที่อาจเกิดขึ้น กำรป้องกัน 1. ระวังอย่าให้ เด็กเล่นนา้ หรือเล่นใกล้ บริเวณที่มีนา้ ตามลาพัง 2. ควรส่งเสริมให้ เด็กฝึ กว่ายนา้ ให้ เป็ น 3. เด็กที่มีประวัติเป็ นโรคลมชัก ห้ ามลงเล่นนา้ 4. ควรเตรียมเสื้อชูชีพให้ พร้ อม เมื่อต้ องลงเรือหรือไปเที่ยวทะเล กำรไหลเวียนของเลือด เมื่อหัวใจหยุดทางาน การไหลเวียนของเลือดไป เลี้ยงส่วน ต่าง ๆ ก็หยุดไปด้ วย ดังนั้นจึงต้ องช่วยนวดหัวใจ เพื่อช่ วยปั๊มเลือดออกจาก หัวใจไปเลี้ยงสมองและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 3. แบบทดสอบ • • • • • • • • • • • • • • • การเคลื่อนย้ายผูป้ ่ วยที่หมดสติ ควรใช้วธิ ีใด และต้องการความรวดเร็ ว ก. คลานลาก ข. ลากถอยหลัง ค. ใช้สามคนหาม ง. อุม้ ประสานแคร่ เมื่อหัวใจหยุดทางานการไหลเวียนของเลือดก็จะหยุดไปด้วยเราควรทาอย่างไร ก อุม้ ผูป้ ่ วยเข้าโรงพยาบาล ข นวดหัวใจเพื่อให้เลือดไหลเวียน ค พยายามให้ผปู ้ ่ วยรู ้สึกตัวโดยการนาน้ ามาราด ง ร้องให้คนที่อยูใ่ กล้ๆช่วย กระแสไฟฟ้ าชนิดใดที่เป็ นอันตรายมากที่สุด ก กระแสตรง ข กระแสสลับ ค กระแสตรงและสลับ ง แบตเตอรี่ ถ้ากระแสไฟฟ้ าวิง่ ผ่านกล้ามเนื้อผลจะเป็ นอย่างไร ก กล้ามเนื้ออักเสบ ข ทาให้หวั ใจหยุดเต้น ค ทาให้ชกั หรื อเป็ นอัมพาต ง เป็ นลมหมดสติ วิธีการช่วยหรื อคนจมน้ าควรปฏิบตั ิอย่างไร ก ทาการผายปอดโดยการเป่ าปาก ข ส่ งโรงพยาบาลทันที ค จับชีพจรตรวจการหายใจ ง ถูกทุกข้อ