ภาษา SQL (Structured Query Language)

Download Report

Transcript ภาษา SQL (Structured Query Language)

ภาษา SQL
(Structured Query Language)
1
ความเป็ นมาของ SQL
SQL ย่อมาจาก Structured Query
Language เป็ นภาษาที่ใช้ในการจัดการข้อมูลของฐานข้อมูลเชิง
สัมพันธ์ ผูค้ ิดค้น SQL เป็ นรายแรกคือ บริ ษทั ไอบีเอ็ม หลังจากนั้น
ผูผ้ ลิตซอฟท์แวร์ดา้ นระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ได้พฒั นาระบบ
ที่สนับสนุน SQL มากขึ้น จนเป็ นที่นิยมใช้กนั อย่างแพร่ หลายใน
ปัจจุบนั โดยผูผ้ ลิตแต่ละรายก็พยายามที่จะพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูล
ของตนให้มีลกั ษณะเด่นเฉพาะขึ้นมา ทาให้รูปแบบการใช้คาสัง่ SQL
มีรูปแบบที่แตกต่างกันไปบ้าง เช่น ORACLE ACCESS
SQL Base ของ Sybase INGRES
2
หรื อ SQL Server ของ Microsoft เป็ นต้น ในขณะที่
American National Standards Institute
(ANSI) ได้กาหนดรู ปแบบมาตราฐานของ SQL ขึ้น ซึ่งเป็ น
มาตราฐานคาสัง่ SQL ตาม ANSI-86 ที่ใข้เป็ นมาตราฐานขั้นต่า
ในการอ้างอิง อย่างไรก็ตามรู ปแบบมาตราฐาน SQL ตาม ANSI86 มีขอ้ จากัดในการใช้คาสัง่ SQL เช่นกันเมื่อเปรี ยบเทียบกับ
SQL ของระบบจัดการฐานข้อมูล ผูท้ ี่ผลิตบางรายได้ทาการปรับปรุ ง
พัฒนาให้เป็ นประโยชน์และง่ายสาหรับผูใ้ ช้อยูต่ ลอดเวลา
3
ประเภทของคาสัง่ SQL
1. ภาษาสาหรั บนิ ยามข้อมูล
(Data
Definition
Language: DDL) ประกอบด้วยคาสั่งที่ใช้ในการ
ก าหนดโครงสร้ างข้อ มูล ว่า มี ค อลัมน์ อะไร แต่ ล ะคอลัม น์ เก็ บ
ข้อมูลประเภทใด รวมถึงการเพิ่มคอลัมน์ การกาหนดดัชนี การ
กาหนดวิวของผูใ้ ช้ เป็ นต้น
2. ภาษาสาหรับจัดดาเนินการข้อมูล (Data Manipulation
Language : DML) ประกอบด้วยคาสัง่ ที่ใช้ในการ
เรี ยกข้อมูล การเปลี่ยนแปลงข้อมูล การเพิ่มหรื อลบข้อมูล เป็ นต้น
4
3. ภาษาที่ใช้ในการควบคุมข้อมูล
(Data
Control
Language : DCL) ประกอบด้วยคาสัง่ ที่ใช้ในการ
ควบคุม การเกิ ดภาวะพร้ อมกัน หรื อป้ องกันการเกิดเหตุการณ์ที่
ผูใ้ ช้หลายคนเรี ยกใช้ขอ้ มูลพร้ อมกัน โดยที่ ขอ้ มูลนั้น ๆ อยู่ใน
ระหว่างการปรับปรุ งแก้ไข ซึ่ งเป็ นเวลาเดียวกับที่ผใู้ ช้อีกคนหนึ่ ง
ก็ เ รี ย กใช้ข ้อ มู ล นี้ ท าให้ ช้อ มู ล ที่ ผูใ้ ช้ค นที่ ส องได้เ ป็ นค่ า ที่ ไ ม่
ถู ก ต้อ ง นอกจากนี้ ยัง ประกอบด้ว ยค าสั่ ง ที่ เ กี่ ย วข้อ งกับ การ
ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลด้วยการให้สิทธิ์ ผูใ้ ช้แตกต่างกัน
เป็ นต้น
5
รู ปแบบการใช้คาสัง่ SQL
รู ปแบบของการใช้คาสั่ง SQL สามารถใช้ได้ 2 รู ปแบบ
ดังนี้
1. คาสั่ง SQL ใช้เรี ยกดูขอ้ มูลแบบตอบโต้ (Interactive
SQL) เป็ นการใช้คาสัง่ SQL สัง่ งานบนจอภาพ เพื่อเรี ยกดู
ข้อมูลจากฐานข้อมูลได้โดยตรงในะขณะที่ทางาน
2. คาสั่ง
SQL
ที่ ใช้เขียนร่ วมกับโปรแกรมอื่ น ๆ
(Embedded QSL) เป็ นการนาคาสั่ง SQL ไปใช้
ร่ วมกับชุ ดคาสั่งที่เขียนโดยภาษาต่าง ๆ เช่ น
COBOL
PASCAL ACCESS ฯลฯ
6
ประโยชน์ของ SQL
ตามที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้นว่า SQL เป็ นภาษาฐานข้อมูล
ที่สามารถใช้ในเรื่ องของการนิยามข้อมูล การเรี ยกใช้ หรื อการ
ควบคุมคาสัง่ เหล่านี้จะช่วยประหยัดเวลาในการพัฒนาระบบงาน
หรื อนาไปใช้ในส่ วนของการสร้างฟอร์ม (FORM) การทา
รายงาน (REPORT) ของระบบงานต่าง ๆ ได้รวดเร็ ว
ยิง่ ขึ้น
7
ข้อตกลงมาตราฐานในการใช้คงั่ SQL
รู ปแบบของคาสั่ง SQL ยึดรู ปแบบคาสัง่ SQL ที่สามารถ
นาไปประยุกต์ใช้กบั ORACLE ซึ่งเมื่อเข้าใจคาสัง่ เหล่านี้
ผูใ้ ช้สามารถนาไปประยุกต์ใช้กบั คาสัง่ SQL ที่ใช่ระบบ
จัดการฐานข้อมูลต่าง ๆ หรื อสามารถนาไปศึกษาเพิ่มเติม
รายละเอียดด้วยตนเองได้
โดยทัว่ ไป คาสัง่ SQL หนึ่ง ๆ จะจบด้วยเครื่ องหมาย ;
รู ปแบบคาสัง่ ใน SQL มีสญ
ั ลักษณ์ที่ใช้แทนความหมาย ดังนี้
8
ตัวพิมพ์ใหญ่ หมายถึง คาสัง่
< >
หมายถึง
ชื่อต่าง ๆ หรื อนิพจน์ที่ผใู ้ ช้จะต้องกาหนดค่าขึ้นมา
(....)
หมายถึง
สามารถจะระบุเพิ่มอีกตามสิ่ งที่ระบุมาแล้วข้างหน้า
[ ]
หมายถึง
คาสั่งนั้นๆ จะมีสิ่งที่ระบุไว้ในเครื่ องหมายนี้ หรื อไม่กไ็ ด้
::=
หมายถึง
ส่ วนที่อยูด่ า้ นขวาของเครื่ องหมายนี้ เป็ นคาอธิบายหรื อ
คา
|
หมายถึง
อาจจะเลือกใช้สิ่งใดสิ่ งหนึ่ งที่อยูด่ า้ นซ้าย หรื อ
ด้านขวาของ เส้นนี้ได้
9