int x - Choopan Rattanapoka

Download Report

Transcript int x - Choopan Rattanapoka

FUNCTION
030523300- Computer Programming
Asst. Prof. Dr. Choopan Rattanapoka
Function


ในการทางานบางอย่างจาเป็ นต ้องใชค้ าสงั่ มากว่า
หนึง่ คาสงั่ เพือ
่ ทางานนัน
้ ให ้สาเร็จ ซงึ่ คาสงั่ ทีเ่ ขียน
้
ั (function)
รวมกันไว ้เพือ
่ ใชงานจะเรี
ยกว่า ฟั งก์ชน
้
ั ในภาษาซม
ี าบ ้าง
ทีผ
่ า่ นมาเราได ้เรียกใชงานฟั
งก์ชน
่
แล ้ว เชน
 printf(
)
 scanf( )
ั เหล่านีเ้ ป็ นฟั งก์ชน
ั มาตรฐานใน ภาษาซห
ี รือ
 ฟั งก์ชน
ั
ไลบรารีฟังก์ชน
รู ปแบบของฟั งก ์ช ัน


โครงสร ้างของโปรแกรมทีเ่ ขียนด ้วยภาษาซ ี ภายในโปรแกรมจะ
ั ต่างๆ โดยจะไม่มค
ประกอบด ้วยฟั งก์ชน
ี าสงั่ ทีเ่ ขียนเดีย
่ วๆ อยู่
ั
นอกฟั งก์ชน
ั เสมอนั่นคือ
อย่างน ้อยทีส
่ ด
ุ ในโปรแกรมจะต ้องมีหนึง่ ฟั งก์ชน
ั main( ) ซงึ่ เป็ นฟั งก์ชน
ั หลักทีโ่ ปรแกรมภาษาซจ
ี ะเริม
ฟั งก์ชน
่ ต ้น
ั main( ) อาจจะมีการ
ทางานจากจุดนี้ จากนัน
้ ภายในฟั งก์ชน
ั อืน
เรียกใชฟั้ งก์ชน
่ ๆ
โครงสร ้างการเรียกใช้งานฟั งก ์ช ัน
การทางานของฟั งก ์ช ัน
Input
Output
ฟั งก ์ช ันในภาษาซี

ั ในภาษาซส
ี ามารถแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท
ฟั งก์ชน
คือ
ั
 ไลบรารีฟังก์ชน
ั
(Library Function) หรือ ฟั งก์ชน
มาตรฐาน
ั มาตรฐานในภาษาซเี ป็ นฟั งก์ชน
ั ทีม
 ฟั งก์ชน
่ ม
ี าให ้พร ้อมกับ
ี ามข ้อกาหนด ANSI C เพือ
้
ตัวแปลภาษาซต
่ ใชงานในด
้าน
่ ฟั งก์ชน
ั คานวณทาง
ต่างๆ โดยเน ้นทีง่ านพืน
้ ฐาน อย่างเชน
ั สาหรับจัดการกับข ้อความ หรือฟั งก์ชน
ั
คณิตศาสตร์, ฟั งก์ชน
จัดการเกีย
่ วกับเวลา
้
ั มาตรฐานปกติแล ้วจาเป็ นต ้องใชค้ าสงั่
 การใชงานฟั
งก์ชน
#include แฟ้ มข ้อมูล .h หรือทีเ่ รียกว่า header file เข ้าไปใน
้
โปรแกรมก่อนการเรียกใชงาน
เนือ
่ งจาก header file จะเป็ น
ั และค่าต่างๆ ทีฟ
ั จาเป็ นต ้องใช ้ เชน
่
ตัวทีน
่ ย
ิ ามฟั งก์ชน
่ ั งก์ชน
่ ใ้ ช้สร ้างขึนเอง
้
ฟั งก ์ช ันทีผู
type function-name (type arg-1,
type arg-2, … )
{
local variable declaration;
statement-1;
statement-2;
….
statement-n;
return(value);
}
ประเภทของฟั งก ์ช ัน

ั ในภาษาซ ี ถ ้าใชการรั
้
ั
ฟั งก์ชน
บ/สง่ ค่าของฟั งก์ชน
เป็ นเกณฑ์ สามารถแบ่งออกได ้เป็ น 3 ประเภท
ั ทีไ่ ม่มก
 ฟั งก์ชน
ี ารรับ/สง่ ค่า
ั ทีม
ั
 ฟั งก์ชน
่ ก
ี ารรับค่าเข ้าไปในฟั งก์ชน
ั ทีม
ั
 ฟั งก์ชน
่ ก
ี ารสง่ ค่ากลับออกจากฟั งก์ชน
ั ทีไ่ ม่มก
ฟั งก์ชน
ี ารรับ/สง่ ค่า

ั ทีไ่ ม่มก
ฟั งก์ชน
ี ารรับ/สง่ ค่าใดๆ ซงึ่ หมายความว่า
้ งก์ชน
ั ประเภทนีไ
 การเรียกใชฟั
้ ม่ต ้องสง่ อาร์กวิ เมนต์ใดๆ
ั
เข ้ามาให ้กับฟั งก์ชน
ั จะทางานโดยไม่มก
 และฟั งก์ชน
ี ารสง่ ผลลัพธ์ใดๆ
กลับมาให ้กับผู ้เรียกใช ้
ั ประเภทนี
 ดังนั น
้ ถือvoid
ได ้ว่าshowProgram(
ฟั งก์ชน
) { เ้ ป็ นประเภททีเ่ ขียนง่าย
้ Today Program =\n”);
ทีส
่ ด
ุ สว่ นใหญ่
จะใชในการแสดงผลข
้อความ
printf(“=
printf(“1. Mummy\n”);
printf(“2. Star war\n”);
printf(“3. Spiderman\n\n”);
}
ตัวอย่างการใช้งาน
#include <stdio.h>
void showProgram( ) {
printf(“=== Today Program ===\n”);
printf(“1. Mummy\n”);
printf(“2. Star war\n”);
printf(“3. Spiderman\n\n”);
}
int main(int argc, char **argv) {
char ch;
printf("Do you want to check showing program (y/n) : ");
ch = getchar( );
if((ch == ‘Y’) || (ch == ‘y’)) {
showProgram( );
} else {
printf(“Thank you\n”);
}
}
่ การร ับค่า
ฟั งก ์ช ันทีมี
ั ประเภททีม
ั ทีเ่ วลา
ฟั งก์ชน
่ ก
ี ารรับค่าหมายถึง ฟั งก์ชน
้
จะเรียกใชงานต
้องมีการสง่ ค่าอาร์กวิ เมนต์ไปให ้กับ
ั นัน
ฟั งก์ชน
้ ด ้วย
 โดยอาร์กว
ิ เมนต์ทส
ี่ ง่ ไปต ้องตรงตามข ้อกาหนดของ
ั อย่างเชน
่ ฟั งก์ชน
ั กาหนดให ้สง่ อาร์กวิ เมนต์
ฟั งก์ชน
้
เข ้าไป 3 ตัวคือ int, float, long เวลาเรียกใชงาน
ั ก็ต ้องสง่ ข ้อมูลซงึ่ อาจจะอยูใ่ นรูปของนิพจน์
ฟั งก์ชน
ตัวแปร หรือ ค่าคงทีก
่ ็ได ้ แต่ต ้องเป็ นข ้อมูลชนิด int,
void average(int x, int y) {
float,
และ
long
ตามล
าดั
บ
เท่
า
นั
น
้
printf(“Average of %d and %d = %f\n”, x, y, (x + y)/2.0);

}
ตัวอย่างการใช้งาน(1)
#include <stdio.h>
void average(int x, int y)
{
printf(“Average of %d and %d = %f\n”, x,
y,
(x + y)/2.0);
}
int main(int argc, char **argv)
{
int a = 5, b = 10;
average(a, b);
}
average
x
y
Main
a
5
b
10
ตัวอย่างการใช้งาน(2)
#include <stdio.h>
void average(int b, int a)
{
printf(“Average of %d and %d = %f\n”, b,
a,
(b + a)/2.0);
}
int main(int argc, char **argv)
{
int a = 5, b = 10;
average(a, b);
}
average
b
a
Main
a
5
b
10
ตัวอย่างการใช้งาน(3)
#include <stdio.h>
average
x
void average(int x, int y)
{
printf(“Average of %d and %d = %f\n”, x,
y,
(x + y)/2.0);
}
int main(int argc, char **argv)
{
average((3+2), (100/10));
}
y
Main
5
3+2
100/10
10
ตัวอย่างการใช้งาน(4)
#include <stdio.h>
average
a
void average(int a, int b)
{
a = 10;
b = 20;
}
int main(int argc, char **argv)
{
int a = 5, b = 10;
average(a, b);
}
10
b
20
a
5
b
10
Main
แบบฝึ กหัด 1 : จงหาผลการร ัน
#include <stdio.h>
void disp(int a)
{
int i;
for(i = 1; i <= 12; i++)
printf(“%d x %d = %d\n”, a, i, (a*i));
}
int main(int argc, char **argv)
{
disp(5);
}
แบบฝึ กหัด 2 : จงหาผลการร ัน
#include <stdio.h>
void plus5(int x)
{
x = x + 5;
printf(“X in plus5 = %d\n”, x);
}
int main(int argc, char **argv)
{
int x = 10;
printf(“X in main before calling function = %d\n”, x);
plus5( x );
printf(“X in main after calling function = %d\n”, x);
}
แบบฝึ กหัด 3 : จงหาผลการร ัน
#include <stdio.h>
void swap(int a, int b) {
int tmp;
tmp = a;
a = b;
b = tmp;
printf(“In swap : A = %d, B = %d\n”, a, b);
}
int main(int argc, char **argv) {
int a = 5, b = 10;
printf(“Before swap A = %d, B = %d\n”, a, b);
swap(a, b);
printf(“After swap A = %d, B = %d\n”, a, b);
}
่ การส่งค่ากลับออกจาก
ฟั งก ์ช ันทีมี
ฟั งก ์ช ัน



ั ทีม
ั ด ้วย โดย
ฟั งก์ชน
่ ก
ี ารสง่ ค่ากลับออกจากฟั งก์ชน
ั ประเภทนีม
สว่ นใหญ่แล ้วฟั งก์ชน
้ ักจะใชกั้ บงาน
ประเภททีต
่ ้องการคานวณค่า
้
ั ประเภททีม
ในการเรียกใชงานฟั
งก์ชน
่ ก
ี ารสง่ ค่ากลับ
เราจาเป็ นจะต ้องสร ้างตัวแปรทีม
่ ป
ี ระเภทข ้อมูล
ั
เดียวกันกับประเภททีฟ
่ ั งก์ชน
ั จะใชค้ าสงั่ return ซงึ่
ค่าทีส
่ ง่ กลับจากฟั งก์ชน
int power3(int x)
{
้
สามารถคืนได้คา
่ เดี
ยวเท่xา*นัxน* x);
return(
}
ตัวอย่างการใช้งาน(1)
#include <stdio.h>
power3
x
int power3(int x) {
return( x * x * x);
}
int main(int argc, char **argv) {
int num;
num = power3(2);
printf(“2^3 = %d\n”, num);
}
8
Main
num
?
2
ตัวอย่างการใช้งาน(2)
#include <stdio.h>
float average(int x, int y)
{
return( (x + y)/2.0 );
}
int main(int argc, char **argv)
{
int a = 5, b = 10; float f;
f = average(a, b);
printf(“Average of %d and %d = %f\n”,
a, b, f);
}
average
x
7.5
y
Main
a
5
b
10
f
?
แบบฝึ กหัด 4 : จงหาผลการร ัน
#include <stdio.h>
int multiply(int a, int b)
{
return (a * b);
}
int main(int argc, char **argv)
{
int a = 5, b = 10;
printf(“%d\n”, multiply(3,2));
printf(“%d\n”, multiply(a, 5));
printf(“%d\n”, multiply((3+2), (b – 6));
printf(“%d\n”, multiply( multiply(2,3), multiply(2, multiply(3, 2 -1))));
}
การเขียนโปรโตไทป์ สาหร ับฟั งก ์ช ัน




โปรโตไทป์ (Prototype) คือ คาสงั่ อธิบายรายละเอียด
ั
ของฟั งก์ชน
ั
เป็ นคาสงั่ ทีบ
่ อกให ้ตัวแปรภาษาซรี ู ้จักกับฟั งก์ชน
ั จะถูกเรียกใชงาน
้
ก่อนทีฟ
่ ั งก์ชน
ี ปล
ตามปกติถ ้าต ้องการให ้ตัวแปรภาษาซแ
ความหมายของโปรแกรมให ้ถูกต ้อง เราจะต ้องเขียน
ั ทีส
ั main( )
ฟั งก์ชน
่ ร ้างขึน
้ เอง ไว ้ก่อนฟั งก์ชน
ั ก่อนทีจ
เนือ
่ งจากถ ้ามีการเรียกใชฟั้ งก์ชน
่ ะเจอตัว
ั ตัวแปรภาษาซจ
ี ะเตือนว่าไม่รู ้จักฟั งก์ชน
ั แต่
ฟั งก์ชน
การเขียนโปรโตไทป์ จะทาให ้เราสามารถย ้าย
ั ไปไว ้สว่ นใดของโปรแกรมก็ได ้
ตาแหน่งของฟั งก์ชน
การประกาศโปรโตไทป์

ซงึ่ รูปแบบการเขียนโปรโตไทป์ จะเหมือนกับการ
ั คือ
เขียนบรรทัดแรกสุดของฟั งก์ชน
type function-name (type arg-1, type arg-2, … );

ตัวอย่าง
;
int power3(int
power3(int x)
x) {{
int
return( x * x * x);
}
Function
Prototype
ตัวอย่างการใช้งาน(1)
#include <stdio.h>
int power3(int x) {
return( x * x * x);
}
int main(int argc, char **argv) {
printf(“2^3 = %d\n”,
power3(2));
}
ถูกต้อง
#include <stdio.h>
int power3(int x);
int main(int argc, char **argv) {
printf(“2^3 = %d\n”,
power3(2));
}
int power3(int x) {
return( x * x * x);
}
ไม่
ถูถ
กูก
ต้ต้
ออ
งง
ตัวแปรและขอบเขตการใช้งาน
สาหร ับฟั งก ์ช ัน


ั ขึน
้
เมือ
่ มีการสร ้างฟั งก์ชน
้ มาใชงานเพิ
ม
่ ในโปรแกรม
ั นัน
การประกาศตัวแปรในแต่ละฟั งก์ชน
้ จึงต ้องมี
ข ้อกาหนดและขอบเขตของตัวแปรเพือ
่ ป้ องกันความ
ั สนในการใชงาน
้
สบ
ี ะแบ่งตาม
โดยประเภทของตัวแปรในภาษาซจ
้
ขอบเขตของการสร ้างและการใชงานตั
วแปรของเป็ น
4 ประเภทใหญ่ๆคือ
 Local
 Global
 Extern
 Static
ตัวแปร local



ตัวแปร local จะเรียกอีกอย่างหนึง่ ว่า ตัวแปร
automatic
ั
เป็ นตัวแปรประเภททีส
่ ร ้างขึน
้ มาภายในฟั งก์ชน
้
ขอบเขตการใชงานตั
วแปร local ก็จะอยูภ
่ ายใน
ั ทีส
ฟั งก์ชน
่ ร ้างตัวแปรขึน
้ มาเท่านัน
้ จะไม่สามารถถูก
้
ั อืน
เรียกใชงานจากฟั
งก์ชน
่ ได ้
ื่ ซา้ กัน
ถ ้ามีการสร ้างตัวแปร local แล ้วมีการตัง้ ชอ
ั ก็ถอ
ระหว่างฟั งก์ชน
ื ว่าเป็ นคนละตัวแปรกัน การสงั่
ั ใดฟั งก์ชน
ั หนึง่ จะไม่สง่ ผล
ให ้เปลีย
่ นค่าทีฟ
่ ั งก์ชน
ั หนึง่ ทีใ่ ชช้ อ
ื่ ตัวแปร local
กระทบต่ออีกฟั งก์ชน
เดียวกัน
ตัวอย่างการใช้งาน
#include <stdio.h>
void testLocal( ) {
int i = 10;
i += 5;
}
int main(int argc, char **argv) {
int i = 10;
printf(“i = %d\n”, i);
testLocal( );
printf(“i = %d\n”, i);
}
testLocal
i
10
15
Main
i
10
ผลการร ัน :
i = 10
i = 10
ตัวแปร global



ตัวแปร global หรือเรียกอีกอย่างหนึง่ ว่า ตัวแปร
้
external เป็ นตัวแปรประเภททีส
่ ามารถเรียกใชงาน
ั ใดก็ได ้ในโปรแกรม
จากฟั งก์ชน
โดยการสร ้างตัวแปร global จะต ้องเขียนคาสงั่
ประกาศสร ้างไว ้ ทีส
่ ว่ นกาหนดค่าเริม
่ ต ้นของ
โปรแกรมต่อจากสว่ นของ Preprocessor โดยไม่ได ้
ั ใดฟั งก์ชน
ั หนึง่ โดยเฉพาะ
สร ้างไว ้ภายในฟั งก์ชน
้
ขอบเขตการใชงานตั
วแปร global ก็คอ
ื ตลอดทัง้
้ อเขียนคาสงั่ เพือ
โปรแกรมสามารถเรียกใชหรื
่
เปลีย
่ นแปลงค่าของตัวแปรประเภท global จาก
ั ใดก็ได ้ในโปรแกรม
ฟั งก์ชน
การสร ้างตวั แปรชนิ ด Global
#include <stdio.h>
int i;
//  ประกาศตัวแปร global
void testGlobal( ) {
i += 5;
}
int main(int argc, char **argv) {
i = 10;
printf(“i = %d\n”, i);
testGlobal( );
printf(“i = %d\n”, i);
}
ตัวอย่างการใช้งาน
#include <stdio.h>
int i;
//  ประกาศต ัวแปร global
void testGlobal( ) {
i += 5;
}
int main(int argc, char **argv) {
i = 10;
printf(“i = %d\n”, i);
testGlobal( );
printf(“i = %d\n”, i);
}
Global
i
15
10
?
testGlobal
Main
ผลการร ัน
:
i = 10
i = 15
ลาดับในการเรียกใช้ตวั แปรของ
ฟั งก ์ช ัน

ื่ ตัวแปรซา้ กัน ระหว่างตัวแปรประเภท Local
ถ ้าชอ
และ Global
ั จะเรียกใชงานตั
้
 ฟั งก์ชน
วแปรทีเ่ ป็ น
Local ก่อน
 จากนั น
้ ถ ้าไม่พบตัวแปรนัน
้ ใน Local จึงจะค ้นหาและ
้ ว่ น Global
เรียกใชในส

ั (parameter หรือ
ตัวแปรทีผ
่ า่ นเข ้ามาให ้ฟั งก์ชน
argument) จะเป็ นตัวแปรประเภท Local
void testFunc(int x) {
ื่ ซไ้าม่ผา่ น
ชอ
ื่ ซ
้ กัx;นเนือ
 ดังนั น
้ จึงห ้ามตัง้ ชอ
่ งจากจะคอมไพล์
intา
....
....
}
แบบฝึ กหัด 5 : จงหาผลการร ัน
#include<stdio.h>
int i=0;
void disp(int i);
void show();
void main(void)
{
int i =9;
printf(“i in main function = %d\n",i);
disp(3); show( );
}
void disp(int i){
i=5;
printf(“i in function disp = %d\n",i);
}
void show() { printf("i in function show = %d\n",i); }
ั มาตรฐาน (1)
ฟั งก์ชน

ั มาตรฐานทางคณิตศาสตร์ (ตรีโกณมิต)ิ
ฟั งก์ชน
ฟั งก ์ช ันมาตราฐาน
#include
<math.h>
คาอธิบาย
ั สาหรับหาค่า sine ของมุม x ทีม
sin(x)
ฟั งก์ชน
่ ห
ี น่วยเป็ นเรเดียน
ั สาหรับหาค่า cos ของมุม x ทีม
cos(x)
ฟั งก์ชน
่ ห
ี น่วยเป็ นเรเดียน
ั สาหรับหาค่า tan ของมุม x ทีม
tan(x)
ฟั งก์ชน
่ ห
ี น่วยเป็ นเรเดียน
asin(x)
ฟั งก์ชันสาหรับหาค่า arcsin ของค่า x จะคืนค่ามุมทีม
่ ี
หน่วยเป็ นเรเดียน
acos(x)
ฟั งก์ชันสาหรับหาค่า arccos ของค่า x จะคืนค่ามุมทีม
่ ี
หน่วยเป็ นเรเดียน
atan(x)
งก์ชันตสิ าหรับหาค่า arctan ของค่า x จะคืนค่ามุมทีม
่ ี
คณิ
ตศาสตร ์ตรีโฟักณมิ
ยน
180 องศาดีหน่
กรีวยเป็
คือนเรเดี
π องศาเรเดี
ยน (โดย π คือ 3.14…)
การแปลงมุมองศาดีกรีให้เป็ นมุมองศาเรเดียน สามารถทาได้
โดยคานวณ
องศาเรเดียน =
การแปลงมุมองศาเรเดียนให้เป็ นมุมองศาดีกรี สามารถทา
ได้โดยคานวณ
ั มาตรฐาน (2)
ฟั งก์ชน

ั มาตรฐานทางคณิตศาสตร์ (ลอการิธม
ฟั งก์ชน
ึ , ยก
ั บูรณ์) #include <math.h>
กาลัง และค่าสม
ฟั งก ์ช ัน
มาตราฐาน
exp(x)
log(x)
log10(x)
ฟั งก ์ช ัน
มาตราฐาน
pow(x, y)
sqrt (x)
fabs(x)
ฟั งก ์ช ัน
มาตรฐาน
floor(x)
ceil(x)
round(x)
คาอธิบาย
ั สาหรับหาค่า ex
ฟั งก์ชน
ั สาหรับหาค่า log ฐาน e ของ x
ฟั งก์ชน
ั สาหรับหาค่า log ฐาน 10 ของ x
ฟั งก์ชน
คาอธิบาย
ั สาหรับหาค่าเลขยกกาลัง xy
ฟั งก์ชน
ั สาหรับหาค่ารากทีส
ฟั งก์ชน
่ องของ x
ั สาหรับหาค่าสม
ั บูรณ์ของ x
ฟั งก์ชน
คาอธิบาย
ฟั งก์ชั น ส าหรั บ ปั ดเศษทศนิ ย มของ x
ออกให ้เป็ นจานวนเต็ม
ฟั งก์ ชั น ส าหรั บ ปั ดเศษทศนิ ย มของ x
ขึน
้ ให ้เป็ นจานวนเต็ม
ั สาหรับปั ดเศษทศนิยมของ x ให ้
ฟั งก์ชน
ั มาตรฐานเกีย
ฟั งก์ชน
่ วกับตัวอักษร
<ctype.h>
ฟั งก ์ช ันมาตรฐาน
คาอธิบาย
ั ทีใ่ ชแปลงตั
้
tolower(ch)
ฟั งก์ชน
วอักษร ch ให ้เป็ นตัวพิมพ์เล็ก
ั ทีใ่ ชแปลงตั
้
toupper(ch)
ฟั งก์ชน
วอักษร ch ให ้เป็ นตัวพิมพ์ใหญ่
ั ทีใ่ ชตรวจสอบตั
้
islower(ch)
ฟั งก์ชน
วอักษร ch ว่าเป็ นตัวพิมพ์
เล็กหรือไม่ จะคืนค่าจริง(ค่าไม่เท่ากับศูนย์) ถ ้า ch
เป็ นตัวพิมพ์เล็ก นอกนัน
้ คืนค่าเท็จหรือศูนย์
ั ทีใ่ ชตรวจสอบตั
้
isupper(ch)
ฟั งก์ชน
วอักษร ch ว่าเป็ นตัวพิมพ์
ใหญ่หรือไม่ จะคืนค่าจริง(ค่าไม่เท่ากับศูนย์) ถ ้า ch
เป็ นตัวพิมพ์ใหญ่ นอกนัน
้ คืนค่าเท็จหรือศูนย์
ั จะให ้ค่ากลับคืนออกมาเป็ นจริง(ค่าไม่เท่ากับ
isalnum(ch)
ฟั งก์ชน
ศูนย์) ถ ้าตัวแปร ch มีคา่ เป็ น 'A' - 'Z' , 'a' - 'z' , และ
'0' – '9' นอกนัน
้ จะให ้ค่าเป็ นเท็จหรือศูนย์
ั จะให ้ค่ากลับคืนออกมาเป็ นจริง(ค่าไม่เท่ากับ
isalpha(ch)
ฟั งก์ชน
ศูนย์) ถ ้าตัวแปร ch มีคา่ เป็ น 'A' - 'Z' , และ 'a' - 'z'
นอกนัน
้ จะให ้ค่าเป็ นเท็จหรือศูนย์
ั มาตรฐานเกีย
ฟั งก์ชน
่ วกับข ้อความ
<string.h>
ฟั งก ์ช ันมาตรฐาน
คาอธิบาย
strcpy(str1, str2)
ั สาหรับคัดลอก (copy) ข ้อความจากตัวแปร
ฟั งก์ชน
str2 ไป
เก็บยังตัวแปร str1
ั สาหรับเชอ
ื่ มต่อข ้อความโดยการนาข ้อความ
ฟั งก์ชน
ในตัวแปร
str2 ไปต่อท ้ายข ้อความในตัวแปร str1 โดยผลลัพธ์
จะเก็บไว ้
ในตัวแปร str1
ั สาหรับเปรียบเทียบข ้อความในตัวแปร str1
ฟั งก์ชน
และ str2
ถ ้าข ้อความเหมือนกันจะคืนค่าศูนย์
ั สาหรับหาความยาวของข ้อความใน str
ฟั งก์ชน
strcat(str1, str2)
strcmp(str1, str2)
strlen(str)