Transcript เอกส
Biomes of the World biosphere ecosystem community population organism What is a biome? A BIOME is the largest geographic biotic unit, a major community of plants and animals with similar life forms and environmental Terrestrial biome (ไบโอมบน บก) -Trypical rain forest ป่าดิบชืน ้ . -Temperate deciduous forest ป่าผลัดใบในเขต อบอุน ่ -coniferous forest ป่าสน (taiga & boreal) -Temperate grassland ทุงหญ ่ ้าเขตอบอุน ่ -Savanna ทุงหญ ่ ้าส ชีวนิเวศ (Biome) - มีรป ู ชีวต ิ (life form) ทีช ่ ด ั เจน - ตัง้ ตัวอยางถาวรในแถบต างๆ ่ ่ ของโลกทีม ่ ส ี ภาพภูมอ ิ ากาศ เฉพาะ (climatic region) - สั งคมพืชอยูในสภาพสุ ดยอด ่ (climax vegetation) - ไบโอม ทีแ ่ พรกระจายอยู ตาม ่ ่ How many biomes are there? How many terrestrial biomes are there? (ไบโอมบนบก) • Tropical Rain forest (ป่าดิบชืน ้ ) • Temperate Deciduous Forest (ป่าผลัดใบ เขตอบอุน) ่ • Coniferous Forest (ป่าสน) • Temperate Grassland (ทุงหญ าเขตอบอุ น) ่ ้ ่ • Tropical Savanna (ทุงหญ าสวั นนา) ่ ้ • Desert (ทะเลทราย) • Tundra (ทุนดรา) Tropical Rainforest ป่า ดิบชืน ้ • ลักษณะของอากาศรอนและ ้ ชืน ้ • มีฝนตกตลอดปี ปริมาณ เฉลีย ่ 200-400 เซนติเมตรตอปี ่ • เป็ นป่าทีอ ่ ุดมสมบูรณสู ์ งมาก พบพืชและ สั ตวหลากหลายพั นสปี ซส ี ์ ์ • พบบริเวณใกล้ เขตเส้น Temperate Deciduous Forest ป่า ผลัดใบเขตอบอุน ่ • พบทัว่ ไปในละติจูดกลาง ซึ่ง • • • • มีความชืน ้ พอเพียง ปริมาณน้าฝนเฉลีย ่ 100 cm ตอปี ่ ส่วนใหญทิ ่ ง้ ไปในฤดูหนาว มีฤดูกาลแน่นอน 4 ฤดู อุณหภูมเิ ฉลีย ่ อยูในช ่ ่ วง 30oC Coniferous forest ป่าสน • เป็ นป่าประเภทเดียวกันกับป่า ไทกา (Taiga) และป่าบอเรียล (boreal) • มีต้นไมเขี ้ ยวชอุมตลอดปี ่ • พบไดทางตอนใต ของ ้ ้ แคนาดา ตอนเหนือ ของอเมริกา เอเชีย และ ยุโรป ละติจูด ตัง้ แต่ 45 – 67 Coniferous forest ป่าสน • พืชทีพ ่ บ ไดแก ้ ่ พวกสน เช่น ไพน์ (pine) เฟอ (fir) สพรูซ (spruce) และ เฮมลอค (hemlock) Temperate grassland ทุงหญ า้ ่ เขตอบอุ น ่ าแพรี ่ (prairie) ในตอนกลางของ • หรือทุงหญ ้ ่ อเมริกา ทุงหญ าสเตปส ่ ้ ์ (steppes) ของรัสเซีย • ปริมาณน้าฝนเฉลีย ่ ตอปี 25 - 50 cm ่ • เหมาะสาหรับการทากสิ กรรมและ ปศุสัตว ์ และเกษตรกรรม เพราะดินมี ความอุดมสมบูรณ์ มีหญ้านานาชนิด ขึน ้ อยู่ Tropical Savanna สะวันนา • เป็ นทุงหญ าที ่ บไดในทวี ปแอฟริกา ่ ้ พ ้ อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย และ ทางตะวันออกเฉี ยงใตของเอเชี ย ้ • อากาศรอน ส่วนใหญเป็ ้ ่ นหญ้าและมีตนไม ้ ้ ขึน ้ เป็ นหยอม ๆ มักมีไฟป่าเกิดขึน ้ เสมอ ่ ในฤดูรอน ้ Desert ทะเลทราย • พบไดทั ้ ว่ โลก • ปริมาณน้าฝนทีไ่ ดรั ้ บตอปี ่ น้อยกวา่ 25 cm • บางแหงร ณหภูมส ิ งู ่ อนมากอุ ้ ถึง 60 oC ตลอดวัน บางแหงค าง ่ อนข ่ ้ หนาวเย็น • พืชไบโอมนี้ มีการป้องกัน การสูญเสี ยน้าโดยใบลดรูป Desert ทะเลทราย • ทีร่ ้จั ู กกันทัว่ ไปไดแก ้ ่ - ทะเลทรายซาฮารา (Sahara) ในแอฟริกา - ทะเลทรายโกบี (Gobi) ใน จีน - ทะเลทรายโมฮาวี (Mojave) แคลิฟอรเนี ์ ย สหรัฐอเมริกา Tundra ทุนดรา • เป็ นฤดูหนาวทีย ่ าวนาน ฤดู ร้อนช่วงสั้ น ๆ • ชัน ้ ของดินทีอ ่ ยูต ่ า่ กวาผิ ่ วดิน จะจับตัวเป็ น น้าแข็งอยางถาวร ่ • พบทางตอนเหนือของทวีป อเมริกาเหนือ และยูเรเซีย • พบพืชและสั ตวอยู ์ น ่ ้ อยชนิด เป็ นพวกไมดอก ไม้พุม ้ ่ และไลเคน ปริมาณน้าฝน คิด วิเคราะห ์ • พืชเดนที ่ บในไบโอมบนบกแตละ ่ พ ่ ชนิดไดแก าง ้ อะไรบ ่ ้ • ถาพิ ้ จารณาจากลักษณะของไบโอม บนบกทีไ่ ดกล ว ้ าวมาแล ่ ้ ประเทศไทย พบไบโอมบนบกชนิดใดบาง และ ้ อยูในภาคใดของประเทศไทย ่ How many aquatic biomes are there? (ไบโอมในน้า) • Freshwater biome (ไบโอมแหลงน ่ ้าจืด) • Marine biome (ไบโอมแหลงน ่ ้าเค็ม) freshwater biome (ไบโอมแหลง่ น้าจืด) • ประกอบดวย ้ - แหลงน ่ ้านิ่ง ซึง่ ไดแก ้ ่ ทะเลสาบ สระ หนอง บึง - แหลงน ่ ้าไหล ซึง่ ไดแก ้ ่ ธารน้าไหล แมน marine biome (ไบโอมแหลง่ ่ ้า น า เค็ ม ) ้ • ประกอบดวย ้ - ทะเล มหาสมุทร พบในปริมาณทีม ่ าก ร้อยละ 71 ของผิวโลก - มีความลึกมาก เฉลีย ่ ถึง 3,750 เมตร มีน้าขึน ้ น้าลงเป็ นปัจจัยทางกายภาพที่ ระหวางรอยต อของแหล งน ่ ่ ่ ้าจืด และแหลงน ่ ้าเค็ม มาประจบกัน ทาให้เกิดเป็ น แหลงน ่ ้ากรอย ่ (estuaries) • มักพบตามบริเวณปากแมน ่ ้า • การขัน ้ ลงของกระแสน้า มีอท ิ ธิพลตอ ่ การ เปลีย ่ นแปลงคาความเค็ มของน้าในแหลงนี ่ ่ ้เป็ น คิด วิเคราะห ์ • ไบโอมแหลงน ่ ้าจืดและไบโอมแหลงน ่ ้าเค็ม แตกตางกั นอยางไร ่ ่ • นักเรียนทราบหรือไมว่ ามี ่ ระบบนิเวศอะไรบ้างที่ ประกอบเป็ น ไบโอมบนบกและไบโอมในน้า แหลงน ง่ ่ ้าจืดแตกตางจากแหล ่ น•้าแหล เค็มงนคื้าอเค็มมีปริมาณมากกวาแหลงน้าจืดโดยมี ่ ่ ่ อยู่ 3 ใน 4 ของโลก • แหลงน ้ และลงเป็ นปัจจัยทีส ่ าคัญแต่ ่ ้าเค็มมีน้าขึน แหลงน ่ ้าจืดไมมี ่ • แหลงน ่ ยู่ ่ ้าเค็มจะมีแนวปะการัง ทีเ่ ป็ นแหลงที ่ อ อาศั ยของสั ตวน ์ ้านานาชนิด ส่วนแหลงน ่ ้าจืด อาจพบไดเฉพาะปะการั งบางชนิด แตไม ้ ่ มี ่ แนว ปะการัง • แหลงน มทีเ่ กิดจากแรธาตุ ่ ้าเค็มมีคาความเค็ ่ ่ ปริมาณสูง Credits • Text: – http://www.physicalgeography.net/fundamentals /9k.html – http://www.ucmp.berkeley.edu/glossary/gloss5/ biome/index.html • Pictures: – http://www.worldbiomes.com/ – http://www.ucmp.berkeley.edu/glossary/gloss5/biome/in dex.html – http://www.blueplanetbiomes.org/ • PowerPoint: